สวัสดีครับ เพื่อน ๆ ทุกคน วันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสรับชมซีรีส์สไตล์สืบสวนสอบสวน เนื้อเรื่องเข้มข้นแบบหายใจไม่ทั่วท้อง มารีวิวให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันครับ อย่างที่เกริ่นก่อนหน้านี้ว่า ซีรีส์ที่ผู้เขียนจะรีวิวนี้ เป็นซีรีส์เกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนครับ ซึ่งซีรีส์ชุดนี้มีชื่อว่า "ซ้อนกลอาชญากร : เยอรมนี" หรือมีชื่อภาษาอังกฤษว่า CRIMINAL : GERMANY ซึ่งฉายผ่านทาง NETFLIX ครับ ซึ่งซีรีส์ดังกล่าว จะเป็นการสืบสวนสอบสวนในภายในห้อง และมีการเดินเรื่องผ่านการสืบสวน สอบถามเหตุการณ์ต่าง ๆ ระหว่างนักสืบฝีมือเยี่ยมกับว่าที่อาชญากร การเดินเรื่องของซีรีส์เป็นไปอย่างเข้มข้น และประกอบไปด้วย 3 คดี เอาหล่ะครับ มาเริ่มที่คดีแรกกันเลย ... ภาพจาก https://www.netflix.com/title/81020518 คดีที่ 1 โยเชิน เป็นการสืบสวนสอบสวน นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผู้มั่งคั่ง ผู้ชื่อว่าโยเชิน ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของช่างซ่อมหน้าตาดีผู้หนึ่ง ซึ่งโครงกระดูกของเขาถูกฝังลงในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของโยเชิน ผู้เป็นผู้บริหารในขณะนั้น นักสืบในคดีนี้ เดินเกมส์อย่างระมัดระวัง เนื่องจากโยเชินถือเป็นผู้มีหน้ามีตาในสังคม นักสืบได้แจ้งข้อกล่าวหาการฆาตกรรมแก่โยเชิน พร้อมกับแสดงหลักฐานว่าชายผู้เป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ผู้มั่งคั่ง มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับคนงานชายในบริษัทของตนเอง ความท้าทายหนึ่งคือเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ทำให้การค้นหาความจริงของฆาตกรจำเป็นต้องใช้พยายหลักฐาน และหนึ่งในพยานหลักฐานที่สำคัญคือ นาฬิกาข้อมือที่หล่นข้างศพของคนงานก่อสร้าง ซึ่งโยเชินถือเป็นคนสุดท้าย และเป็นคนที่มีความใกล้ชิดกับชายก่อสร้างมากที่สุด เนื้อเรื่องดำเนินไปพร้อมกับการปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาของโยเชิน อีกทั้งนักสืบยังมีหลักฐานว่า โยเชินเป็นผู้ส่งเสียเลี้ยงดูแม่ของคนงานก่อสร้างจนกระทั่งเธอเสียชีวิต นักสืบได้แสดงพยานหลักฐานอย่างเข้มข้น แต่เรื่องราวไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว โยเชินได้แสดงหลักฐานตอบกลับบางอย่าง ว่าเขาไม่ใช่ฆาตกร และท้ายที่สุดเขาเขาไม่มีความผิดแต่อย่างใด แต่ใครหล่ะที่เป็นฆาตกรตัวจริง .... คุณสามารถร่วมหาคำตอบได้ใน CRIMINAL : GERMANY ตอนคดีของโยเชินครับ !!! ภาพจาก https://www.netflix.com/title/81020518 คดีที่ 2 ยึลมัช เป็นการสอบสวนชายหนุ่มผู้หนึ่ง ผู้มีชื่อว่ายึลมัช ซึ่งถูกตั้งข้อกล่าว "ทำร้ายร่างกายภรรยา จนต้องเข้ารับการผ่าตัด" นักสืบสวนดำเนินการสอบสวนผู้ต้องหาโดยแสดงพยานหลักฐานว่ามีการทำร้ายร่างกายภรรยาตนเอง ซึ่งภรรยาผู้บาดเจ็บเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีชาวเยอรมัน และพ่อตาได้ส่งทนายชั้นครู มาช่วยลูกเขยในการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ ... หลายคนอาจส่งสัยว่า เหตุใดพ่อตาจึงต้องส่งทนายชั้นครู มาช่วยยึลมัชผู้ซึ่งเป็นลูกเขย ทั้ง ๆ ที่เป็นยึลมัชผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกสาวของมหาเศรษฐี ความสับสนเกิดขึ้นในใจของเหล่าบรรดานักสืบ ว่าเหตุใดพ่อตาผู้เป็นมหาเศรษฐี ถึงพยายามให้ทนายเข้ามาช่วยในคดีนี้ ทั้ง ๆ ที่ลูกสาวของตนเป็นผู้สียหาย ... จนความจริงก็ปรากฏ เมื่อทีมสืบสวนได้พบพยานหลักฐานคือ ใบรับรองแพทย์ ว่ายึลมัชเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บในร่างกายหลายแห่ง แต่ทุกครั้งที่คุณหมอ สอบถามสาเหตุการบาดเจ็บในร่างกาย ยึลมัชกลับเลือกที่จะไม่พูดถึงสาเหตุของการบาดเจ็บ .... ในที่สุดยึลมัช ก็ได้เผยความจริงว่า เขาเป็นฝ่ายที่ถูกภรรยาทำร้ายร่างกายก่อนเสมอ ... และนี่เป็นสาเหตุว่าเหตุใดพ่อตาถึงพยายามปกป้องเขา !!! ภาพจาก https://www.netflix.com/title/81020518 คดีที่ 3 คลอเดีย คลอเดีย อดีตภารโรงในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ผู้ซึ่งพยายามมัดใจสามี โดยการช่วยสามีให้ได้ข่มขืนนักเรียนสาวบริสุทธิ์ในโรงเรียนที่เธอทำงาน เธอได้รับโทษจำคุกเนื่องจากมีส่วนช่วยในคดีฆาตกรรมนักเรียนสาว มากมายหลายศพ และฝังศพริมทะเลสาบ ที่เธอกับสามีร่วมกันวางแผนเพื่อก่อเหตุ .... คลอเดีย ถูกจับเข้าสู่กระบวนการสอบสวนอีกครั้ง เนื่องจากนักสืบยังไม่สามารถ "หาศพสุดท้าย" ได้ และแม่ของนักเรียนสาวผู้ซึ่งเป็นศพสุดท้าย ได้วิงวอนให้เหล่านักสืบช่วยหาศพของลูกสาวของเธอให้เจอ .... คลอเดีย ไม่ยอมบอกตำแหน่งของศพ จนกว่านักสืบจะให้เธอได้เห็นภาพถ่ายลูกสาวของเธอ ซึ่งเธอได้คลอดลูกในเรือนจำ และเธอไม่มีโอกาสแม้แต่การได้เห็นหน้าลูกของเธอ เพราะภายหลังคลอด ลูกของเธอได้มีผู้รับอุปการะเป็นบุตรบุญธรรม .... เธอได้ยืนยันว่าจะบอกตำแหน่งของศพ หากเธอได้เห็นภาพถ่ายลูกของเธอ .... การชิงไหว ชิงพริบ ระหว่างนักสืบกับคลอเดียเป็นไปอย่างเข้มข้น นักสืบจะพบตำแหน่งของศพหรือไม่ คลอเดียจะยอมปริปาก หรือเธอจะเก็บเป็บความลับไปตลอดกลาล เพื่อน ๆ สามารถหาคำตอบได้ในซีรีส์คดีที่ 3 "คลอเดีย" ทั้งสามคดี เมื่อดูจบแล้ว ผู้เขียนรู้สึกว่า ในการสืบสวน สอบสวนนั้น เราไม่ควรตัดสินใจแค่ภายนอกของผู้ต้องหา แต่เพียงอย่างเดียว พยานหลักฐานถึงแม่จะมีความแม่นยำเพียงใด แต่ก็มีโอกาสที่จะพลิกผันได้ เช่น คดีของโยเชิน ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่มีความผิด ถึงแม้พยานหลักฐานมากมายเพียงใดก็ตาม คดีที่ 2 เช่นกัน การก่อเหตุอาชญากรรม ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ก่อเหตุอาจได้รับผลกระทบ หรือถูกกระทำก่อนก็เป็นได้ ... เราไม่สามารถสรุปเพียงสิ่งที่ตาเห็นได้เพียงอย่างเดียว และคดีสุดท้าย คลอเดีย การพรากแม่ลูกของตำรวจ ถือเป็นข้อต่อรองในการค้นหาศพสุดท้าย ซึ่งปกติเราอาจมองนักโทษ ว่าเป็นผู้ได้รับผลกรรม และไม่มีสิทธิต่อรอง แต่ในคดีของคลอเดีย ได้พิสูจน์แล้วว่า นักโทษเองก็มีอำนาจในการต่อรองเช่นกัน ... ร่วมหาคำตอบ และเรียนรู้ของเหล่าบรรดานักสืบ และชั้นเชิงในการสู้คดีของเหล่าผู้ต้องหา และอาชญากร ได้ใน ซีรีส์ "ซ้อนกลอาชญากร : เยอรมนี" ขอบคุณภาพหน้าปกจาก canva.com