Movie ReviewSmugglers อหังการ์ทีมปล้นประดาน้ำ (2023)บันเทิงแบบไม่บันยะบันยังกับความแพรวพราวของเล่ห์เหลี่ยมพลิกผันเดาไม่ถูกจนเป็นงานที่สนุกในทุกกิริยาการตั้งชื่อไทยของหนังนั้นเป็นส่วนสำคัญมากในการสร้างความน่าสนใจให้กับหนังที่กำลังจะเข้าฉายและมีหลายเรื่องที่ชื่อไทยกลายเป็นที่จดจำกว่าชื่อภาษาอังกฤษหรือภาษาต้นทาง แต่บางครั้งการตั้งชื่อไทยก็พาให้หลงทางเพราะเนื้อหาของหนังไม่ได้เป็นเหมือนชื่อไทยที่ตั้งไว้ทำให้คนดูบางคนที่คาดหวังกับทางของหนังว่าน่าจะเป็นเหมือนกับชื่อไทยกลายเป็นผิดหวัง เช่นเดียวกับผู้เขียนที่แม้จะเจอประสบการณ์กับการคาดหวังของชื่อไทยของหนังมาหลายครั้งที่บ่อยครั้งชื่อไปคนละทางกับเนื้อหาแต่ว่าก็ยังไม่วายคาดหวัง อาจเพราะความเชื่อมั่นในการตั้งชื่อมาเพื่อโปรโมทหนังเป็นสิ่งที่สะกิดหัวใจทำให้แม้จะรู้ความหมายของชื่อหนังภาษาอังกฤษแล้วก็ยังไม่วายคิดสุดท้ายก็ผิดอีกตามเคยเช่นเดียวกับเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้มีชื่อว่าอหังการ์ทีมปล้นประดาน้ำที่เอาจริงก็เอะใจจากที่เห็นภาพโปรโมทแล้วว่าน่าจะไม่ใช่แน่ๆเพราะชื่อภาษาอังกฤษแปลว่าพวกลักลอบขนของ กระนั้นก็ยังคิดเข้าข้างว่าอาจเป็นหนังแนววางแผนปล้นแบบเฉียบๆของพวกขนของเถื่อนแต่สุดท้ายก็โอละพ่อแต่โชคดีที่หนังยังสนุกสุดๆเลยผ่านไปได้ซุนจา (คิมฮเยซู) กับจินซุก (ยอมจองอา) สองเพื่อซี้ที่ทำงานเป็นแฮนยอหรือนักดำน้ำเก็บหอยไต้ทะเลที่โดยสังกัดเรือของพ่อของจินซุกพร้อมทีมงาน ทว่าหลังจากที่โรงงานปล่อยสารพิษลงทะเลทำให้ทรัพยากรไต้ทะเลเสียหายความเป็นอยู่ของพวกแฮนยอก็ย่ำแย่เพราะหาของมาขายไม่ได้ ทว่าวันหนึ่งอาของซุนจาได้มาเสนอให้ทีมนักดำน้ำพื้นเมืองให้ทำงานใหม่ด้วยการลงไปงมกล่องสินค้าที่เป็นของเถื่อนหนีภาษีที่ทิ้งลงไต้น้ำ แล้วทุกอย่างก็ดีขึ้นเพราะของหนีภาษีพวกนั้นจนวันหนึ่งศุลกากรก็ดมกลิ่นมาจนเจอจินซุกถูกจับพ่อกับน้องชายตกเรือเสียชีวิตส่วนซุนจาหนีไปได้ สามปีต่อมาซุนจาที่ย้ายไปหากินกับการขายของเถื่อนในกรุงโซลก็ไปเจอตอเมื่อไปขัดผลประโยชน์เจ้าพ่อของเถื่อนคือจ่าควอน (โจอินซอง) แต่ซุนจาก็หาทางรอดด้วยการเสนอให้จ่าควอนพาเธอกลับสู่ท้องทะเลอีกครั้งด้วยการทิ้งสินค้าลงทะเลแล้วลงไปงมแต่อุปสรรคใหญ่คือจินซุกที่ออกจากคุกมาพร้อมความแค้นที่มีต่อซุนจาเพราะข่าวลือว่าซุนจาทรยศ แล้วปฏิบัติการณ์งมของเถื่อนมูลค่ามหาศาลจะเดินหน้าไปได้หรือไม่เหมือนง่ายๆแต่ไม่ง่ายด้วยลูกล่อลูกชนพลิกแพลงของเหลี่ยมด้วยเล่ห์จนไม่อาจคาดเดาได้ ก็แค่เรื่องง่ายๆเพื่อนสนิทสองคนผิดใจกันเพราะความสูญเสียแล้วต้องมาร่วมมือกันทำภารกิจเพื่อพาไปสู่ความเข้าใจกันที่เห็นมานักต่อนัก ทว่ารายละเอียดที่ใส่มากลับแพรวพราวทำให้เหมือนเป็นของใหม่ที่ความจริงไม่ใหม่แต่ก็ไม่รู้สึกคุ้นเพราะลูกล่อลูกชนที่ยอดเยี่ยม นั่นคือเล่าเรื่องของคนตัวเล็กๆที่มักเป็นส่วนเล็กๆของเรื่องให้กลายเป็นตัวดำเนินเรื่องแต่ที่เจ๋งคือเริ่มต้นก็ยังเป็นเหมือนแค่ส่วนประกอบแต่เมื่อเวลาผ่านไปกลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน ซึ่งในส่วนของบทภาพยนตร์ความจริงก็ไม่ได้เล่นท่ายากซ้อนเร้นประเด็นอะไรลึกล้ำคือเดินหน้าไปเป็นเส้นตรงขีดเส้นแบ่งตัวละครแยกข้างกันชัดเจนที่ในที่นี้ถ้าลงลึกไปอีกก็คือผู้หญิงกับผู้ชาย ซึ่งอันที่จริงมันควรจะเดาตอนจบได้สิถ้ามองตั้งแต่แรกเพียงแต่บทหนังก็ทั้งเก่งทั้งฉลาดในการพลิกแพลงสถานการณ์ที่ควรธรรมดาให้ไม่ธรรมดาจนเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมร้อยเล่มเกวียน จนกระทั่งดูไปจนเกือบสุดท้ายยังมองไม่ออกว่าบทสรุปจะลงเอยอย่างไร...เจ๋งดีเก่งที่เอาเรื่องคนตัวเล็กๆอาชีพที่เหมือนไม่มีอะไรมาเล่าได้อย่างถึงพริกถึงขิงมีทั้งอารมณ์เชิดชูและอนุรักษ์ อันที่จริงเกาหลีมักจะเก่งอยู่แล้วในการเอาวิชาชีพต่างๆที่ไม่น่าจะมีอะไรโดดเด่นมาเล่าให้น่าสนใจและคราวนี้ก็เล่าเรื่องของอาชีพดำน้ำงมหาของทะเลที่เรียกภาษาบ้านๆว่าแฮนยอ หนังอาจไม่ได้เล่าได้ลงรายละเอียดมากว่าอะไรเป็นอะไรแต่เลือกเอามากระตุ้นความสนใจด้วยการเอานักดำน้ำพื้นบ้านมาเป็นตัวชูเรื่อง แล้วใส่มิติในเชิงเชิดชูอาชีพเก่าแก่นี้ที่ต้องพบเจอกับอุปสรรคของความเจริญทางอุตสาหกรรมที่สุ่มเสี่ยงจะทำให้อาชีพนี้ต้องล่มสลายที่ออกมาในทางอนุรักษ์ทรัพยากรในท้องทะเลในตัว หนังยังฉลาดในการเล่าเรื่องย้อนยุคไปสู่ยุค 1970 ที่ความเจริญทางอุตสาหกรรมกำลังรุกรานวิถีชาวบ้านโดยที่สมัยนั้นเรื่องของการอนุรักษ์ยังไม่ตื่นตัวเท่าทุกวันนี้ ที่เจ็บแสบกว่าคืออารมณ์เสียดสีเมื่อสินค้าทางอุตสาหกรรมจากต่างประเทศที่กำลังหลั่งไหลเข้าเกาหลีในทุกทางจากลายเป็นช่องทางหาเงินอย่างเป็นล่ำเป็นสันจนแฮนยอต้องไปรับงานผิดกฎหมาย แล้วที่เก่งสุดๆคือการเล่าได้อย่างมีพลังเข้มข้นถึงพริกถึงขิงได้ทั้งอารมณ์และหัวใจบันเทิงแบบไม่บันยะบันยังเดินหน้าไปอย่างลื่นไหลสนุกทุกนาที สิ่งแรกที่เป็นคือตัวละครได้ใจเพราะนี่คือหนังพลังหญิงที่เล่าเรื่องของแฮนยอแต่ฉาบทาด้วยการชิงพื้นที่การค้าของเถื่อนของพวกขนของเถื่อน (Smugglers) หาใช่การวางแผนปล้นเหมือนชื่อไทยไม่ ทำให้ตัวละครผู้หญิงในยุคนั้นที่ถูกกดขี่เอารัดเอาเปรียบในสังคมนิยมชายกลายเป็นได้รับความเห็นใจมาแต่แรกการเดินทางติดตามภารกิจของพวกเธอจึงเป็นไปอย่างลื่นไหลดูสนุก แล้วเมื่อคนดูเอาใจช่วยพวกเธออาการลุ้นก็มาและทุกครั้งที่ผู้หญิงสามารถเอาชนะผู้ชายได้ด้วยสมองแม้แต่คนดูที่เป็นผู้ชายก็ยังต้องซูฮก เนื่องเพราะหนังได้ขีดเส้นทางอารมณ์มาตั้งแต่แรกแล้วว่าเมื่อเห็นผู้หญิงถูกกระทำถูกเอารัดเอาเปรียบถูกกดค่าแรงคนดูก็พร้อมที่จะบันเทิงไปกับการที่เห็นพวกเธอพลิกเกม สิ่งเหล่านั้นก็ทำให้เมื่อถึงเวลาก็ได้ฉากไคลแม็กซ์ที่สนุกสมใจกับฉากต่อสู้ไต้น้ำที่จะว่าเป็นฉากแอ็กชันสุดเร้าใจก็ไม่ใช่แต่เป็นการต่อสู้ของผู้ชำนาญการไต้น้ำกับผู้รุกรานพื้นที่ของพวกเธอมากกว่า ซึ่งก็หมายความว่าหนังมีฉากต่อสู้ไต้น้ำที่สนุกที่สุดเรื่องหนึ่งได้เลยส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องพลังสูงคือพลังการแสดงที่เหมือนมาเล่นเอามันส์กันทุกคนแต่ก็ตั้งอยู่บนพื้นฐานการแสดงชั้นดี การที่หนังจะดูสนุกนักแสดงอาจต้องเล่นให้สนุกด้วยแล้วความได้เปรียบของเกาหลีคือนักแสดงค่อนข้างมาตรฐานสูง แน่นอนเมื่อนี่คือเรื่องของสองเพื่อนซี้ที่มาผิดใจกันตัวละครเอกสองคนจึงเหมือนเป็นกระจกคนละด้านแล้วการแสดงที่แสบเข้าไส้ของคิมฮเยซูก็เข้ากันดีกับความเก็บกดในความโกรธและความชังของยอมจองอาได้อย่างยอดเยี่ยม หนังยังได้บทรองลงมาที่ยียวนแถมยังดูดีในฉากแอ็กชันของโจอินซองที่ไม่ว่าเล่นเป็นคนแบบไหนก็เหมือนมาเล่นด้วยความผ่อนคลายเพลิดเพลิน ทั้งยังได้การสมทบชั้นดีจากโกมินซีที่เป็นสตรีที่น่าสะพรึงได้อย่างสนุกทำให้พวกผู้ชายอาจต้องฉุกคิดสักนิดว่าผู้หญิงมีอะไรที่หยั่งใจไม่ได้มากมาย แน่นอนฝั่งร้ายก็ร้ายแบบมนุษย์ที่ไม่ใช่ตัวร้ายเดินอาดๆมาดกวนอวัยวะเบื้องต่ำแต่ร้ายอย่างมีมิติทั้งพัคจองมินและคิมจงซูที่ซ่อนไว้ว่าใครกันแน่ที่ร้ายที่สุด แน่นอนเมื่อนักแสดงมาเล่นกันอย่างสนุกบนพื้นฐานการแสดงชั้นดีหนังก็เลยสนุกทุกนาทีแบบนี้ได้ดูเพลินจนลืมเวลาสนุกจนกระทั่งคิดว่าอย่าประมาทพลังของผู้หญิงตัวเล็กๆเพาะพวกผู้ชายเป็นแค่ดอกไม้ริมทาง ถ้าว่ากันที่ความเห็นส่วนตัวนี่คือหนังที่ดูสนุกจนลืมเวลาไม่ได้กดหยุดแม้แต่ครั้งเดียวหรืออาจเรียกได้ว่าสนุกจนลืมลุกไปห้องน้ำได้ สิ่งแรกคือการเล่าเรื่องที่สนุกเพราะแม้จะเล่าง่ายๆแต่เต็มไปด้วยความพลิกผันด้วยการเสนอตัวให้เป็นหนังพลังหญิงนั่นคือผู้หญิงเป็นตัวเดินเรื่อง แล้วความสนุกคือการลุ้นว่าพวกเธอจะเอาตัวรอดและเอาคืนอย่างไรแล้วภาพที่ได้ก็คือมารยาร้อยเล่มเกวียนที่ทั้งสนุกทั้งขบขัน ต่อมาคือความสนุกในบทสนนาที่อาจดูโฉ่งฉ่างแต่เมื่อมันซ่อนมารยาไว้ในนั้นมันก็คือการเชือดเฉือนกันดีๆนี่เองโดยเฉพาะฉากที่คิมฮเยซูปะทะกับยอมจองอาที่ทรงพลังทุกการสนทนา สนุกต่อมาคือหนังมีฉากแอ็กชันที่อาจเป็นเพียงส่วนประกอบแต่ดุเดือดดุดันใช้ได้เลยแถมยังโชว์ของโดยโจอินซองคนหล่อที่ไม่น่าจะแอ็กชันได้แต่แต่เล่นได้ดูดีเลย สุดท้ายจบลงด้วยความสาสมใจเมื่อพวกสตรีที่ดูอ้อนแอ้นไม่ทนมือทนเท้าผู้ชายกลายเป็นผู้ชนะตามครรลองทำให้พวกผู้ชายเป็นแค่ดอกไม้ริมทางดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก Instagram itsnew_movie ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้ https://entertainment.trueid.net/detail/mq6LYMM934Vb https://entertainment.trueid.net/detail/DPwnEXMNXmRV https://entertainment.trueid.net/detail/GKYj78yEL0vA https://entertainment.trueid.net/detail/7A10oXkov1w6