"ในโลกที่พังทลาย ความหวังสุดท้ายกลับอยู่ในมือของแม่มดต้องห้าม" ในโลกแห่งภาพยนตร์แฟนตาซีที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ อสูรกาย และการต่อสู้ระหว่างอำนาจและความปรารถนา In the Lost Lands คือภาพยนตร์ที่พาผู้ชมดำดิ่งสู่ความมืดมนและความสลับซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ ผลงานชิ้นนี้ดัดแปลงจากเรื่องสั้นของ จอร์จ อาร์.อาร์. มาร์ติน เจ้าของผลงาน A Song of Ice and Fire และได้รับการตีความใหม่ในรูปแบบภาพยนตร์โดย พอล ดับเบิลยู. เอส. แอนเดอร์สัน ผู้กำกับเจ้าประจำของ มีล่า โจโววิช นางเอกขาประจำที่รับบทแม่มดสุดลึกลับ “Gray Alys” และ เดฟ บาติสตา รับบท “Boyce” นักรบผู้มีอดีตอันลึกลับ พร้อมด้วยบรรยากาศสุดหม่นแบบไซไฟ-แฟนตาซีในโลกอนาคตที่ล่มสลาย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เรื่องย่อและโครงเรื่องที่เข้มข้น เรื่องราวของ In the Lost Lands เปิดฉากในโลกอนาคตที่เหลือเพียงซากอารยธรรมและถูกปกครองโดยศาสนจักรแห่งอำนาจ ผู้ที่กล้าท้าทายระบบจะถูกลงโทษโดย “The Enforcer” ผู้ใช้กฎหมายเหี้ยมโหด ภายในโลกแห่งความหายนะนี้ “ราชินี” แห่งอาณาจักรต้องการพลังในการแปลงร่างเป็นหมาป่าเพื่อปกครองอย่างไร้เทียมทาน เธอจึงว่าจ้างแม่มด Gray Alys ผู้สามารถเติมเต็มความปรารถนาได้ทุกรูปแบบ (หากผู้ขอสามารถจ่ายในราคาที่เหมาะสม) ให้ตามหาผู้แปลงร่าง และนำพลังนั้นมาให้เธอ ทว่าในขณะเดียวกัน อัศวิน Jerais ที่เป็นทั้งคนรักของราชินีและฝ่ายต่อต้าน กลับต้องการให้ภารกิจล้มเหลว เขาจึงวางแผนลับเพื่อขัดขวาง Gray Alys ผู้ตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งของอำนาจ ความรัก ความลับ และเวทมนตร์แห่งการแปรเปลี่ยน การเดินทางของ Gray Alys และ Boyce พาเราสู่ “ดินแดนที่สาบสูญ” ดินแดนต้องห้ามที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด เวทมนตร์โบราณ และจิตวิญญาณที่ไร้ความสงบ เธอไม่เพียงต้องสู้กับศัตรูที่เป็นรูปธรรม แต่ยังต้องต่อสู้กับคำถามภายในใจ ว่าความปรารถนาใดสมควรถูกเติมเต็ม และใครควรเป็นผู้ถือครองพลังอันยิ่งใหญ่ จุดแข็งของภาพยนตร์: ระหว่างความลึกลับและการตั้งคำถามต่อศีลธรรม หนึ่งในสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ In the Lost Lands คือโทนเรื่องที่หม่นมืดและจริงจัง แตกต่างจากหนังแฟนตาซีตลาดทั่วไป เนื้อหาของภาพยนตร์เต็มไปด้วยการตั้งคำถามต่ออำนาจ ความปรารถนา และผลลัพธ์ของการกระทำ Gray Alys ไม่ใช่นางเอกผู้สูงส่ง หากแต่เป็นหญิงผู้ถูกขับไล่จากศาสนจักร ถูกหักหลัง ถูกประหาร และยังต้องเดินทางโดยใช้พลังเวทมนตร์ที่อาจนำพาความหายนะมาสู่โลก ฉากการเดินทางใน “ดินแดนที่สาบสูญ” เต็มไปด้วยความเสี่ยงและความกดดัน ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดเงามืด อสูรกูลกลางคืน หรือกลุ่มผู้ล่าเวทมนตร์ที่ไล่ล่าแม่มดอย่างไม่ปรานี ทุกสิ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงเข้าสู่โลกแห่งความมืดที่ไร้ที่พึ่ง ขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่าง Gray Alys และ Boyce ก็เต็มไปด้วยความกำกวม ทั้งรัก ทั้งหลอกลวง ทั้งศรัทธาและความผิดหวัง การที่ Gray Alys สุดท้ายต้องฆ่าชายที่เธอเคยรักภายใต้แสงจันทร์ ไม่เพียงสร้างฉากอันตราตรึงใจ แต่ยังสะท้อนถึงความขัดแย้งภายในตัวละครที่ต้องเลือกระหว่างหน้าที่ ความรัก และศีลธรรม นักแสดงนำที่แบกเรื่องด้วยพลัง มีล่า โจโววิช ในบท Gray Alys ยังคงรักษาความแข็งแกร่งที่เราคุ้นเคยจากบทใน Resident Evil แต่ครั้งนี้เธอเสริมด้วยความลึกลับและเปราะบางในคราวเดียวกัน เธอไม่ได้แค่เป็นนักรบ แต่ยังเป็นแม่มดที่มีปมอดีต พลังที่ควบคุมไม่ได้ และภารกิจที่ไม่สามารถปฏิเสธ เดฟ บาติสตา ในบท Boyce ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมในฐานะนักรบผู้เต็มไปด้วยอดีตและความลับ เขาถ่ายทอดความขัดแย้งในใจออกมาได้อย่างหนักแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากสุดท้ายก่อนการถูกหักหลัง ซึ่งเต็มไปด้วยอารมณ์และความเศร้าอย่างลึกซึ้ง โปรดักชันไซไฟ-แฟนตาซีในบรรยากาศ “Game of Thrones ผสม Mad Max” ด้านงานโปรดักชัน In the Lost Lands มีฉากที่สร้างขึ้นอย่างละเอียดและสมจริง โลกในภาพยนตร์เปรียบเสมือนโลกที่ Game of Thrones มาบรรจบกับ Mad Max โดยมีเทคโนโลยีเก่า-ใหม่ผสมกันอยู่ท่ามกลางทะเลทรายและซากปรักหักพัง ด้านงานกล้องและการใช้แสงมีความโดดเด่น ถ่ายทอดความเวิ้งว้างและอันตรายได้อย่างหนักแน่น เสริมด้วยเสียงประกอบและดนตรีที่ช่วยให้บรรยากาศของภาพยนตร์ยิ่งตึงเครียดและชวนหลอน ข้อสังเกต: จุดอ่อนเล็กน้อยในจังหวะการเล่าเรื่อง แม้เนื้อเรื่องจะเข้มข้นและน่าสนใจ แต่ในบางช่วง ภาพยนตร์ยังมีจังหวะการเล่าที่รวบรัด โดยเฉพาะช่วงต้นที่รีบปูพื้นหลังและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลัก ทำให้บางอารมณ์ยังไม่ถูกขับออกมาอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม บทสรุปในช่วงท้ายที่หักมุมและเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ทางจิตวิญญาณ ก็ชดเชยได้ดีจนทำให้ผู้ชมรู้สึกสะเทือนอารมณ์ ทำไม “In the Lost Lands” จึงไม่ควรพลาด? บทภาพยนตร์จากปลายปากกา George R.R. Martin – สายแฟนตาซีที่เคยหลงใหลในความดิบ ดาร์ก และซับซ้อนของ A Song of Ice and Fire จะไม่ผิดหวังกับโครงเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวละครหญิงที่ซับซ้อนและทรงพลัง – Gray Alys ไม่ใช่นางเอกแบนราบ แต่เป็นผู้หญิงที่มีความลึกลับ เจ็บปวด ทรงพลัง และต้องเผชิญหน้ากับศีลธรรมในระดับที่ลึกซึ้ง ผสมผสานแฟนตาซี + ไซไฟ + เวสเทิร์น ได้อย่างลงตัว – โลกในเรื่องมีทั้งเวทมนตร์ ปืน รถไฟลอยฟ้า อสูรกาย และการต่อสู้ที่ไม่ต่างจากการเอาชีวิตรอดในยุคสงครามครูเสด งานภาพและโปรดักชันยอดเยี่ยม – การถ่ายภาพ แสงเงา และงานสร้างโลกที่ชวนหลอน ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนอยู่ในโลก “ดินแดนที่สาบสูญ” จริงๆ การตั้งคำถามต่อพลังและความปรารถนา – ภาพยนตร์ไม่ได้เสนอแค่ความมันส์ แต่ยังพาเราตั้งคำถามว่า “การเติมเต็มความปรารถนา” จริง ๆ แล้ว นำมาซึ่งอิสรภาพหรือหายนะ สรุป: In the Lost Lands คือภาพยนตร์แฟนตาซีที่ไม่เหมือนใคร เต็มไปด้วยบรรยากาศมืดหม่น เวทมนตร์ สัตว์ประหลาด และการตัดสินใจที่ส่งผลต่อชะตากรรมของทั้งโลก แม้จะมีจุดอ่อนบางประการในจังหวะการเล่าเรื่อง แต่ด้วยการแสดงอันแข็งแกร่ง การสร้างโลกอันน่าทึ่ง และบทที่ยิ่งใหญ่ ทำให้มันเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ควรรับชมโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบโลกแฟนตาซีแบบจริงจังและตั้งคำถามต่อจิตใจมนุษย์อย่างลึกซึ้ง คะแนน: 8/10 "แม่มด ผู้ถูกตราหน้าว่าเป็นปีศาจ...แต่กลับเป็นคนเดียวที่ยังเห็นแสงสว่างในความมืด" รูปภาพที่ 1,2, นำมาจาก Ig ของ millajovovich รูปภาพที่ 3,4,5,6,7,8 นำมาจาก Ig ของ inthelostlands รูปภาพหน้าปก นำมาจาก Ig ของ inthelostlands เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !