เป็นพิธีกรมากความสามารถ สำหรับ แหม่ม สุริวิภา ที่ตอนนี้หันมาดูแลตัวเอง ลดน้ำหนัก ออกกกำลังหายหนักมาก เปลี่ยนตัวเองจากสาวร่างอวบกลายเป็นสาวสุขภาพดีทั้งบ้าน รวมไปถึงตัวสามีด้วย ล่าสุด หนูแหม่ม สุริวิภา ก็ได้เปิดใจเป็นครั้งแรกถึงน้องสาว แหม่ม คัทลียา ว่าตอนนี้กลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม หลังเกิดเหตุการณ์ข่าวฉาวเมื่อหลายสิบปีก่อน
กับพี่แหม่ม แคทลียา ตอนนี้เป็นเพื่อนกันรึยัง ?
จริงๆเราคุยมาได้ตั้งนานแล้วนะคะ แค่เรายังไม่ได้ร่วมงานกันแค่นั้นเอง
กลับมาครั้งนี้รักกันมากกว่าเดิมมั้ยพี่ ?
รัก เป็นน้อง เหมือนเดิม หนูแหม่มเป็นคนที่พอรักแล้วไม่มีขยักไว้ มันยังรักอยู่ ไม่ได้หมายความว่าวันที่เรามีปัญหากันไม่ได้รัก เพียงแต่ว่าในวันนั้นมันมีอะไรบางอย่างที่มันมาบัง ความโกรธ ความโมโห ความเป็นตัวของตัวเอง ทิฐิ อีโก้ หรือทุกอย่างมันบังความรักอันนั้นอยู่ ความรักมันไม่ได้หายไป มันก็ยังอยู่ตรงนั้นแหละ
ทำไมเดี๋ยวนี้ถึงดูดี ดูผอมได้ขนาดนี้ ?
คนเค้าดูแลสุขภาพร่างกายกันทั่วบ้านทั่วเมือง เราจะไม่ดูแลก็ไม่ไหว จริงๆมันไปถึงพีคสุดที่เป็นขีดแดงแล้วในเรื่องของเบาหวาน ไขมัน โรคต่างๆก็รออยู่แล้ว ตอนนั้นพี่หนัก 90 โล
มากสุดในชีวิต ?
ใช่ มากสุด เคย 95 โลด้วย ตอนที่เราอยากมีลูกเราก็ขุนนิดนึง พออายุเริ่ม 51 ก่อนหน้านี้ 2 ปี ร่างกายมันก็เริ่มรู้สึกว่าถึงขีดแดงละ หมอบอกว่าถ้าเลยจากนี้ไป คุณหนูแหม่มก็ต้องเตรียมใจยอมรับหากเกิดโรคอะไรขึ้น
พี่ปรึกษากับพี่บ๊อบบี้รึเปล่า ?
ทุกปีเราจะตรวจสุขภาพอยู่แล้ว ก็จะเป็นตัวบอกเราอยู่แล้ว เราก็ไม่แคร์มันไงที่ผ่านมา ก็ฉันมีตังค์ ฉันทำงานเหนื่อย ฉันก็ต้องกินอาหารดีๆ อันที่มันดีๆมันก็ทำลายสุขภาพพอสมควร เราไม่ได้เลือกเลย เราก็จัดดีทุกมื้อ (หัวเราะ) อีกอย่างคือเราอยากเล่นสโนว์บอร์ด พอไปเล่นครั้งแรกสงสารครูมาก เพราะเราล้มเป็นร้อยๆครั้งเลยต่อวัน แล้วครูที่สอนเราเค้าต้องดึงเราในร่างที่น้ำหนัก 90 โล เค้าคงหลังร้าวไปหลายวัน เราเลยมานึกว่าเราสร้างภาระให้กับคนอื่นได้ขนาดนี้เลยหรอ เราเลยรู้สึกว่าเราต้องกลับมาทำอะไรแล้วหละ แล้วสโนว์บอกร์ดเนี่ยที่เล่นเพราะบ๊อบบี้เลือกให้ มันท้าทาย
ตอนนี้กลายเป็นกีฬาที่ชอบที่สุดแล้ว ?
ก็ยังเล่นได้ทุกอัน แต่อยากเปลี่ยนเป็นสกี พอเราเล่นกีฬาหนักๆเข้า เราออกกำลังกายมากๆ พอร่างกายเรามันสนุบสนุน ให้เราสามารถทำอะไรต่อได้อีก มันจะมีความคิดเลยว่า ต่อไปนี้ผู้หญิงอายุ 51 กำลังจะเข้าสู่วัยเกษียน ต้องไม่นับถอยหลังซิ เพราะคนส่วนใหญ่เมื่อถึงวัยเกษียนจะเริ่มนับถอยหลังละ นั่งเลี้ยงหลาน รถน้ำต้นไม้ ไปวัด นั่งสมาธิ ทุกคนก็จะเรียกเราเป็นมนุษย์ป้าในที่สุด เราก็เลยรู้สึกว่าเราจะไม่เป็นอย่างนั้น เราก็เลยบอกกับตัวเองเมื่อไหร่ก็ตามที่อายุฉันกำลังจะถึงวัยเกษียน ในทุกๆปีฉันจะต้องมีอะไรใหม่ๆทำให้เป็นหนึ่งอัน มันเป็นเหมือนการตั้งปณิธานสำหรับตัวเอง ครั้งแรกหนูแหม่มท้าทายด้วยการเล่นโยคะ โยคะเราก็จะมาถึงสุดทางละ เราต้องทำอะไรต่อ ปีหน้าจะเรียนสกี
จากสาวร่างอวบมาเป็นร่างฟิต ร่างดีขนาดนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนคาแร็คเตอร์ตัวเองมั้ย ?
ไม่เปลี่ยนนะคะ หนูแหม่มก็ยังเป็นหนูแหม่มเหมือนเดิม เพียงแต่เราสามารถเลือกที่จะเล่นกิจกรรมอื่นๆได้สะดวกขึ้น ได้สบายขึ้น เสื้อผ้าก็ไม่ต้องไปตัดแล้ว ปกติถ้าไปรายการต่างๆคนอื่นเค้าก้จะยืมหรือทางร้านซัพพอร์ตให้ แต่ของเราต้องใช้ตัด
ลองไล่ให้ฟังหน่อยได้มั้ย พี่หนูแหม่มใช้วิธียังไงบ้าง ?
โยคะอันแรกเลย ตอนแรกยังไม่ได้ดูแลอะไรทั้งนั้น ไม่ได้ดูแลอาหารการกินเลย เล่นโยคะอย่างเดียว เล่นโยคะเกือบตายเล่น 5 เดือน น้ำหนักลงไป 2 โล เล่นทุกวันบางครั้งเล่น 2 รอบเลย เราเลยต้องกลับมาดูว่าทำไมน้ำหนักเราไม่ลง จนมาใน 60 days challenge ของวู้ดดี้ โค้ชก็จะมาสอนเราว่าต้องทำยังไง ใน 60 days challenge เราลดลงไป 8 กิโล จนเราเกิดอุบัติเหตุตอนเล่นสโนว์บอร์ดต้องผ่าตัดไหล่หยุดออกกำลังไปสามเดือน น้ำหนักเพิ่มขึ้น 10 โล
ที่พี่หนูแหม่มนี่ทำเอง ไม่ได้มีผู้จัดรายการหรือโปรดิวเซอร์สั่งให้ลดหรือเปลี่ยนแปลงใชมั้ย ?
ไม่มีๆ ทำเอง
แล้วเรื่องรายการดูดวงที่ถูกเปลี่ยนพิธีกรหรือรายการตอนเช้าที่ปิดไปจริงๆแล้วเพราะอะไร ?
จริงๆมันคงเป็นวาระของรายการ ตลอดอายุการทำงาานในอาชีพนี้มามันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มันเป็นเรื่องปกติที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในรายการไหนก็ได้ เราไม่ได้เป็นเจ้าของรายการ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเป็นไปตามที่ผู้ว่าจ้างบอก อย่างรายการที่ดูดวงทางผู้จัดบอกว่าทางสถานีต้องการเปลี่ยนรูปแบบพิธีกรให้แซ่บขึ้น
ถ้างั้นเรียกได้ว่าโดนถอน ?
ใช่ค่ะ จะโดนถอด โดนถอน จะเลิกจ้างหรืออะไรก็แล้วแต่จะบัญญัติ
ตอนแรกทุกคนเข้าใจว่าพี่แหม่มเบื่อ เพราะทำมา 11 ปีแล้ว ?
การทำงานสำหรับหนูแหม่ม หนูแหม่มเติบโตมาในอาชีพเดียว จะไม่มีวันเบื่ออาชีพของตัวเองเลย ผู้จ้างจับเราไปวางไว้ตรงไหนเมื่อเห็นเหมาะสมเราก็ทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด
จบสวยมั้ย ?
จบสวยค่ะ คุยกันปกติ
แล้วรายการเช้าที่ทำกับโอปอลล่ะ
อันนั้นช่อง PPTV บางทีเราแค่อยากลอง อันนั้นสถานีเค้าปรับนะคะ ปรับตารางเวลา จริงๆเราเซ็นสัญญกัน 6 เดือน แต่จบกันที่ 4 เดือน แต่ไม่ได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายอะไรนะคะ เพราะเรารู้สึกว่าเราแก่เกินไปที่จะตื่นเช้ามากค่ะ เราแฮปปี้มากที่มีการเปลี่ยนแปลง
แสดงว่าเป้นด้วยร่างกายของเราเองไม่ได้เกี่ยวกับว่าค่าตัวเราแพง ?
หนูแหม่มค่าตัวแพงค่ะ (ยิ้ม) ของถูกและดีไม่มีในโลกค่ะ
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. ทางช่อง one31
ขอบคุณภาพจากอินสตราแกรม mamsurivipa, mcintosh
อัพเดทชีวิตคนดัง ครบครันเรื่องบันเทิง เพลิดเพลินไปกับบทละคร ติดตาม Dara.trueid.net ได้อีกช่องทางที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID