เดอนีส วีลเนิฟว์ ต้องการจบเรื่องราวของ "Dune" ในภาคที่ 3
เว็บไซต์ Inverse ได้รายงานว่า เดอนีส วีลเนิฟว์ (Denis Villeneuve) ผู้กำกับ ‘Dune: Part One’ (2021) และ ‘Dune: Part Two’ (2024) ได้เปิดเผยว่าต้องการกลับมาสร้าง ‘Dune 3’ หรือ ‘Dune: Messiah’ แต่ยังไม่มีแผนจะนำนิยายเล่มอื่น ๆ ในชุด ‘Dune’ ของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต (Frank Herbert) ที่เริ่มตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1965 มาดัดแปลงเพิ่มเติมถัดจากภาคที่ 3
วีลเนิฟว์ได้ใหัสัมภาษณ์กับ Inverse ว่า กระบวนการสร้าง ‘Dune’ สองภาคแรก ใช้เวลานานและความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก แลเขายังไม่แน่ใจว่าต้องการใช้เวลาที่เหลือในอาชีพเพื่อพัฒนาแฟรนไชส์ที่อ้างอิงจากโลกของ ‘Dune’ ตามนิยายของเฮอร์เบิร์ตหรือไม่ เขายอมรับว่ากลัวว่าจะเข้าใกล้เนื้อหาระดับมหากาพย์ในนิยามเล่มหลัง ๆ มากเกินไป เพราะมันเป็นคอนเซปต์ธีมไซไฟชั้นสูงที่มีเต็มไปด้วยความลึกลับและดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ได้ยากมาก
“ในขณะที่เวลากำลังผ่านไปเรื่อย ๆ และผมไม่ทราบว่าอยากจะใช้เวลาที่เหลือในชีวิตบนดาวอาร์ราคิส (Arrakis) นี้หรือไม่ ผมกลัวนิยายเล่มอื่น ๆ ในชุดนี้มากจริง ๆ เพราะมันเป็นเต็มไปด้วยความลึกลับและดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์ได้ยากมาก”
นิยายในชุด ‘Dune’ มีทั้งสิ้น 26 เล่ม โดยเป็นผลงานการเขียนของเฮอร์เบิร์ตเอง จำนวน 6 เล่ม ได้แก่
- Dune – ตีพิมพ์ปี 1965 (นำมาดัดแปลงเป็น ‘Dune: Part One’ และ ‘Dune: Part Two’)
- Dune: Messiah – ตีพิมพ์ปี 1969 (เตรียมดัดแปลงเป็น ‘Dune 3’ หรือ ‘Dune: Messiah’)
- Children of Dune – ตีพิมพ์ปี 1976
- God Emperor of Dune – ตีพิมพ์ปี 1981
- Heretics of Dune – ตีพิมพ์ปี 1984
- Chapterhouse: Dune – ตีพิมพ์ปี 1985
ก่อนที่วีลเนิฟว์จะมาสร้าง ‘Dune: Part One’ เคยมีผู้สร้างภาพยนตร์และผู้เขียนบทชื่อดังมากมายพยายามดัดแปลงเรื่องราวในจักรวาล ‘Dune’ เป็นภาพยนตร์มานานหลายปี แต่ไม่สบความสำเร็จ หนึ่งในนั้นคือเวอร์ชันภาพยนตร์ของ เดวิด ลินช์ (David Lynch) เมื่อปี 1984 ที่ถูกนักวิจาณ์ถล่ม และทำรายได้อย่างน่าผิดหวัง
‘Dune: Part One’ เป็นภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์ที่ได้รับการยกย่องว่าดัดแปลงบทได้ตรงตามประเด็นของนิยายและเข้าถึงง่ายกว่า โดยตัวภาพยนตร์ประสบความสำเร็จด้วยรายได้ทั่วโลกที่สูงถึง 402.6 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 165 ล้านเหรียญ แม้ว่าจะฉายในช่วงการระบาดของ Covid-19 ที่มีโรงภาพยนตร์เปิดให้บริการน้อยก็ตาม และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 10 สาขา รวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดยคว้ามาได้ 6 สาขา ได้แก่ กำกับภาพยอดเยี่ยม, ลำดับภาพยอดเยี่ยม, ดนตรีประกอบดั้งเดิมยอดเยี่ยม (ฮันส์ ซิมเมอร์; Hans Zimmer), ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม, บันทึกเสียงยอดเยี่ยม และวิชวลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม
ในขณะนี้ Warner Bros. ยังไม่ได้รับการประกาศงานสร้าง ‘Dune 3’ อย่างเป็นทางการ แม้ว่าวีลเนิฟว์ได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าได้เริ่มดัดแปลงบทแล้วก็ตาม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสตูดิโอต้องการรอดูก่อนว่า ‘Dune: Part Two’ จะประสบความสำเร็จด้านรายได้และคำวิจารณ์มากกว่าหรือเทียบเท่ากับภาคแรกหรือไม่เสียก่อน จึงจะเปิดไฟเขียวให้แก่โปรเจกต์ ‘Dune 3’ ต่อไป
‘Dune: Part Two’ มีกำหนดฉายในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2024 นี้
ที่มา : ScreenRant