หนังสือวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี 2562 ที่สำนักงานอธิการสภาผู้แทนราษฎรได้จัดประกวดวรรณกรรมการเมืองต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายสิบปี ได้ถูกรวมเล่มหลังจากการประกวดเสร็จสิ้น และได้จัดส่งเป็นของที่ระลึกต่อนักเขียนและผู้ที่ส่งผลงานเข้าประกวดในเวทีดังกล่าว โดยผู้เขียนเอง ได้รับหนังสือดังกล่าวเป็นของขวัญด้วย โดยหนังสือวรรณกรรมรวมเรื่องสั้น “โลกที่เราทิ้งไว้ข้างหลัง” เป็นเรื่องสั้นที่ได้รับรางวัลทั้งหมด 13 เรื่อง (โดยในเล่มมีบทกวีที่ได้รับรางวัลรวมอยู่ด้วย) โดยในแต่ละเรื่องมีความน่าสนใจ ซึ่งผู้เขียนจะขอรีวิวเรื่องสั้นโลกที่เราทิ้งไว้ข้างหลัง ที่ใช้เป็นชื่อหนังสือด้วย ว่า มีความบันเทิงเริงใจอย่างไรเรื่องสั้น โลกที่เราทิ้งไว้ข้างหลัง เป็นเรื่องราวชายคนหนึ่ง ที่ไม่เข้าใจคำพูดของพ่อ ที่ได้เปรียบเทียบว่าดนตรีก็เหมือนกับการเมือง จนกระทั่งเขาได้เลือกเรียนและได้ทำงานเกี่ยวข้องกับการเมืองและประชาชน เมื่อเขาได้ร่วมสถานการณ์วิกฤตทางการเมืองในประเทศตะวันออกกลาง ในฐานะของผู้รายงานข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามและสถานการณ์การเมืองที่มีการชุมนุมของประเทศนั้นให้รัฐบาลทราบ เขามองเห็นความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองและการปกครองของประเทศเหล่านั้น และเขาได้ช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน ที่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ทางการเมือง จนรอดปลอดภัยจากการได้รับความช่วยเหลือ จนทำให้เขาได้มีโอกาสกลับบ้านการได้กลับมาอยู่ที่บ้าน เขาจึงได้มีโอกาสฟังพ่อ อธิบาย ว่า ทำไม ดนตรี จึงเหมือนกับการเมือง ทั้งที่เขายังไม่เข้าใจในสิ่งเหล่านั้น พ่อจึงขยายความว่า แท้จริง การเมืองก็เหมือนกับดนตรีนั่นแหละ เมื่อดนตรี คือเสียง แต่เสียงทุกอย่างในโลกไม่ใช่ดนตรี การจะทำให้เสียงเหล่านั้นกลายเป็นเสียงดนตรี จะต้องเป็นเสียงที่ได้รับการควบคุมให้อยู่เป็นวง เป็นจังหวะที่ลงตัว มีการประสานเสียงของเครื่องดนตรีหลากชนิด จึงจะกลายเป็นวงดนตรี ที่มีความสมบูรณ์ อีกอย่างหนึ่ง ดนตรีนั้น ไม่ได้มีกฎตายตัวเสียทีเดียว ด้วยเพราะว่า นักดนตรีแต่ละคนมีหน้าที่จะต้องเล่นตามโน้ตเพลง ในบางวง มีวาทยกรเป็นผู้กำกับ มีผู้ควบคุมวง เพื่อให้วงดนตรีนั้นเล่นได้อย่างไพเราะและกลายเป็นวงดนตรีดนตรี จึงเหมือนกับการเมือง ตรงที่ต้องมีการประสานงานกันให้ลงตัว โดยการเมืองนั้นจะต้องมีกฎระเบียบ รัฐธรรมนูญ ผู้นำประเทศ รัฐสภา หรือราชการ ที่จะต้องทำหน้าที่ของตนเองเหมือนกับนักดนตรีที่จะต้องเล่นโน้ตเพลงของตนเอง เพื่อให้วงดนตรีจัดแสดงได้ หากการเมือง ในแต่ละคนแต่ละฝ่าย ไม่สนใจในกติกาไม่รับฟังและปฏิบัติตามหน้าที่ โดยมีความขัดแย้งเพราะถือเอาความคิดตนเป็นใหญ่ ก็จะทำให้การเมืองนั้นพัง หรือล่มวงได้ เหมือนกับวงดนตรีการอ่านหนังสือวรรณกรรมเรื่องสั้นแนวการเมืองนี้ นอกจากได้รับความบันเทิงแล้ว ก็ทำให้เห็นมุมมองความคิดของผู้แต่ง ว่ามีชั้นเชิงและวิธีการเล่าเรื่องอย่างไรให้ผู้อ่านสนใจและติดตามอ่านอย่างสนุกสนาน และผู้เขียนเอง ก็รู้สึกว่า การอ่านเรื่องสั้นแนวนี้ ทำให้นักอ่านได้เปิดโลกทัศน์ทางสังคมและความเป็นอยู่ของผู้คนในประเทศเรา และยังเป็นการพิสูจน์ว่า ผู้แต่งเรื่องสั้น ซึ่งถือว่าเป็นนักเขียน ยังได้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับผู้คนในสังคม ที่ไม่อาจบอกเล่าความรู้สึกนึกคิดบางอย่างของตัวเองได้ แต่วรรณกรรมเรื่องสั้นเหล่านี้ จะได้ทำหน้าที่ ต่อสังคม โดยร่วมกันสะท้อนภาพการพัฒนาประเทศ หรือส่งเสริมประชาธิปไตย ให้ประโยชน์ทางความรู้เรื่องการได้ตระหนักถึงสิทธิและความรับผิดชอบต่อตนเองสังคม อันเป็นเป้าหมายทางอ้อมในการปลูกฝังความเป็นประชาธิปไตยลงในหัวใจของผู้คน ผู้เขียนเชื่อว่าการอ่านวรรณกรรมนอกจากให้ความบันเทิงแล้ว ยังได้อะไรอีกเยอะแยะมากมาย เครดิตทุกภาพถ่ายโดยผู้เขียน