ฮาโหลลลล ! เชื่อว่าช่วงนี้หลาย ๆ คนคงเหนื่อยจากการทำงาน พอถึงวันหยุดก็อยากพักผ่อนกันให้เต็มที่ แต่สถานการณ์ช่วงนี้จะให้ไปเที่ยวก็คงไม่ค่อยอยากไป เพราะทั้งสถานการณ์ไวรัส ทั้งฝุ่น PM 2.5 เรียกได้ว่าอยากจะหมกตัวอยู่แต่ในห้องกันเลยใช่ไหมหล่ะ บางคนก็ดูซีรี่ส์ใหม่ ๆ จบไปหมดแล้ว วันนี้เราเลยจะมาย้อนรอยซีรี่ส์เก่าใน Netflix ที่ไม่ว่าจะย้อนดูกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ บอกเลยว่ามีทุกแนวให้เพื่อนได้เลือกดู และแต่ละเรื่องที่จะพูดถึง ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนยังไม่เคยดู ได้ไปลองเปิดดูรับรองว่าจะต้องติดจนลุกไปไหนไม่ได้เลยแหละจ้า ไม่มีอะไรจะแฮปปี้ไปกว่าการได้นอนย้อนรอยดูซีรี่ส์ดี ๆ ในวันหยุดแล้ว ณ จุดนี้ 1. PRISON BREAK สำหรับเรื่องนี้เป็นซีรี่ส์แหกคุกขวัญใจมหาชนเลยแหละ เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเคยดูเรื่องนี้ แต่บางคนอาจจะแค่เคยเห็นผ่านตา เรื่องราวคร่าว ๆ มีอยู่ว่า ไมเคิล สโคฟิลด์ (น้องชายของลินคอล์น) ทราบว่าลินคอล์นที่อยู่ในคุกถูกจัดฉากให้เป็นแพะรับบาปในคดีฆ่าน้องชายรองประธานธิบดี เขาจึงทำการปล้นธนาคารเพื่อที่จะได้ถูกจำคุกที่เรือนจำเดียวกับพี่ชาย เพื่อเข้าไปช่วยลินคอล์นแหกคุก บอกเลยว่าเรื่องนี้ดีจริง กลับมาย้อนดูกี่ครั้งก็ยังมันส์เหมือนเดิม กระแสตอบรับเค้าดีมาก ๆ มีผู้ชมเฉลี่ย 12 ล้านคนต่อหนึ่งตอนเลยนะ สำหรับเรื่องนี้ 10/10 ไปเลยจ้า ใครยังไม่เคยดูไปค่ะ มีใน Netflix พร้อมซับไทย ไปดูด่วนนน2. PEAKY BLINDERS นี่ก็เป็นซีรี่ส์อีกหนึ่งเรื่องที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย บอกเลยว่าเดือดมาก ใครที่ชอบซีรี่ส์แนวพีเรียดมาทางนี้ เป็นเรื่องราวในอังกฤษ ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยมีกลุ่มอันธพาล Peaky Binders ที่สร้างอิทธิพลคุมกิจการทั้งหมดในเมืองเบอร์มิงแฮม ซึ่งเพื่อน ๆ จะต้องทึ่งกับการตัดสินใจของ Peaky Binders บอกเลยว่าเรื่องนี้เน้นถึงอารมณ์ของนักแสดงได้ดีมาก ไม่ได้เน้นเรื่องราวที่ฉาบฉวยจนเกินไป คนดูดูไปก็เหมือนมีส่วนร่วมอยู่ในนั้นด้วยเลย นอกจากได้ความสนุกแล้วยังมีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์จริง ๆ สอดแทรกอยู่ด้วยจ้า ดีขนาดนี้พลาดไม่ได้แล้วววว3. MONEY HEIST สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของกลุ่มโจรที่เรียกตัวเองว่า "ศาสตราจารย์" ได้วางแผนการโจรกรรมอันแยบยลเป็นเวลากว่า 5 ปี เพื่อบุกยึดโรงกษาปณ์ที่อยู่ใจกลางของสเปน โดยโจรแต่ละคนมีความถนัดเฉพาะทาง ซึ่งพวกเขาจะไม่ขโมยเงินของใครทั้งสิ้น แต่เป้าหมายคือการจับตัวประกันแล้วไปผลิตเงินยูโรในนั้นเพื่อมาใช้เองเลย ซึ่งมีกฎเหล็ก คือ ห้ามมีความสัมพันธ์กันเองภายในทีม ห้ามมีการฆ่า ห้ามมีการนองเลือด บอกเลยว่าเป็นซีรี่มีครบทุกอารมณ์เลยแหละค่ะ ใครที่ยังไม่เคยดู ไม่ควรพลาด !4. STRANGER THINGS โอ้ยยยย เรื่องนี้ 10/10 ไปเลย เรียกได้ว่าเป็นซีรี่ส์ที่ทำให้คนรู้จัก Netflix เพิ่มขึ้นมาก เป็นเรื่องราวที่แสดงให้เห็นถึงความรักเพื่อนของแก๊งเด็กเนิร์ด ที่อยู่ดีดี เพื่อนตัวเองก็หายไปหนึ่งคนอย่างไร้ร่องรอยขณะขับจักรยานกลับบ้าน ซึ่งยิ่งสืบหาก็ยิ่งทำให้พบว่าการหายตัวไปครั้งนี้มีการเกี่ยวโยงกับการทดลองลับบางอย่างของรัฐบาลและเกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติอย่างลึกลับ ไม่ใช่การหายตัวไปแบบธรรมดาอย่างแน่นอน บอกเลยว่าเพื่อน ๆ คนไหนชอบซีรี่ส์แนวสยองขวัญ ลึกลับซ่อนเร้น เชิญทางนี้ เป็นซีรี่เรื่องหนึ่งที่อยากแนะนำให้ดูซักครั้งในชีวิต 5. Roma สำหรับเรื่องนี้บอกเลยว่าเป็นการเล่าเรื่องราวด้วยภาพขาวดำทั้งเรื่องที่ดีมาก เป็นเรื่องราวที่กัวรอนสร้างให้กับคนสำคัญในวัยเด็กของเขา นั่นก็คือ ลิโบ ซึ่งเป็นสาวใช้ในบ้านตอนเค้ายังเป็นเด็ก ซึ่งเค้าได้เล่าถึงช่วงเวลาทั้งสุขและทุกข์ที่ครอบครัวนี้ได้เผชิญ โดยมีเรื่องราวของชนชั้นเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ไม่ได้เป็นการวิภากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา แต่จะเป็นการสื่อด้วยปฏิสัมพันธ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งบอกได้เลยว่าเค้าใช้การดำเนินเรื่องที่เรียบ ๆ แต่สามารถสื่อถึงข้อคิดต่าง ๆ ได้ดีมาก ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อยากให้ทุกคนได้ดูด้วยตัวเอง6. Black Mirror เป็นซีรี่ส์แนวดาร์ก ๆ ที่มีการนำประเด็นต่าง ๆ ในสังคมมาวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเนื้อหาจะสะท้อนด้านดาร์ค ๆ ของเทคโนโลยี เนื้อหาจะเน้นเล่าถึงอนาคตที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีไปมาก ๆ ทั้งในด้านดีและด้านไม่ดี ซึ่งหลาย ๆ ประเด็นก็ทำให้เราสามารถเก็บมาคิดได้หลังจากดูจบ ที่สำคัญเรื่องนี้เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ชอบดูซีรี่ที่ยาว ๆ เพราะเรื่องนี้แต่ละตอนจะมีการแยกประเด็นออกจากกัน แต่ยังคงมีจุดเชื่อมโยงกันอยู่ ถึงแม้จะไม่ได้ดูทุกตอนก็สามารถเข้าใจได้ค่ะ ถือว่าเป็นซีรี่ส์ดีอีกเรื่องหนึ่งเลยแหละค่ะ ลองไปดูกันนะ7. 13 reason why ต้องบอกก่อนเลยว่าเรื่องนี้เคยเป็นนวนิยายขายดีของ Jay Asher มาก่อน เป็นเรื่องราวของเคลย์ เจนเซน เขาได้รับกล่องปริศนา และกลับมาบ้านเก่าอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งที่บอกว่ากล่องปริศนาเพราะภายในกล่องนั้นเต็มไปด้วยเทปคาสเซ็ทที่มีการอัดเสียงของ ฮันนาห์ เบเกอร์ ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าของเขาเอาไว้ ซึ่งเป็นเสียงที่บอกเล่าเหตุผล 13 ข้อ ที่ทำให้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย เรียกได้ว่าซีรี่เรื่องนี้ใช้เทปคาสเซ็ทเป็นกิมมิกของเรื่องเลยแหละจ้า บอกเลยว่าเรื่องนี้มีมูดแอนด์โทนที่ดี และโชว์คาแรกเตอรอ์ของวัยรุ่นได้สุดยอดมาก ๆ ค่ะ8. You สำหรับเรื่องนี้จะเรียกว่าเป็นหนังรักโรแมนติกก็ใช่ แต่แอบมีความสยองขวัญอยู่ด้วย ถือเป็นหนังที่ให้แง่คิดที่ดีอีกเรื่องหนึ่งเลย เป็นการเล่าเรื่องราวของ Joe Goldberg ทีชอบแอบตามติดชีวิตของ Guinevere Beck แทบทุกฝีก้าวก็ว่าได้ ซึ่งที่บอกว่าเป็นซีรี่ดีอีกเรื่องหนึ่งเลยเพราะยุคสมัยนี้ ทุกอย่างรอบตัวล้วนแล้วแต่เป็นเทคโนโลยีไปซะหมด ทำให้การเข้าถึงชีวิตเราง่ายขึ้นจากเมื่อก่อนมาก ซึ่งก็ทำให้อาจเกิดภัยอันตรายต่าง ๆ กับเราได้ง่ายขึ้น บอกเลยว่าเพื่อน ๆ คนไหนที่ชอบดูซีรี่ส์แนวจิตวิทยาต้องไปดูเลยน้า ขอขอบคุณ : รูปภาพทั้งหมดจาก Netflix