First Impressions: ความรู้สึกแรกที่มีต่อซีรีส์เกาหลี "More Than Friends"
รีวิวซีรีส์ More Than Friends
ได้เวลากลับมาเสพซีรีส์เกาหลีเนื้อหาเบาๆ รักกุ๊กกิ๊ก...หยุกหยิกให้กระชุ่มกระชวยหัวใจกันอีกครั้ง ใครที่กำลังมองหาความบันเทิงรูปแบบนี้อยู่ คงจะต้องขอแนะนำให้ติดตามซีรีส์ใหม่จากช่อง JTBC เรื่อง "More Than Friends" ซีรีส์รักๆ บนนิยาม '...มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน' ที่ไม่แน่ว่าอาจจะตรงใจและตรงความรู้สึกของคนดูหลายคนที่เคยผ่านความรู้สึกแอบชอบเพื่อนมาก่อนก็ได้ ซีรีส์ที่จะมาตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อน และความหวังอันริบหรี่เมื่อเขาให้เราได้อยู่แค่...เฟรนด์โซน
ถึงแม้ว่าซีรีส์ More Than Friends จะดูมีความเป็นเว็บตูนสายแว๋วอยู่ประปราย แต่ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้อิงมาจากต้นฉบับที่ไหน และนี่ยังเป็นผลงานของ "ชเวซึงบอม" ผู้กำกับที่เพิ่งจะทำให้ 'ID: Gangnam Beauty' ซีรีส์รักวัยรุ่นกลายเป็นม้ามืดเรื่องดังมาได้ เมื่อ 2 ปีก่อน พร้อมจูงมือแคสติ้งนักแสดงวัยสดใสมาสร้างสีสันให้เพียง โดยเฉพาะคู่พระนางที่ถือว่ายังเป็นนักแสดงเจนใหม่เหมือนกันคู่
ไม่ว่าจะเป็น "องซองอู" ที่เรื่องนี้เป็นงานซีรีส์เรื่องที่ 2 ในอาชีพของเขา และ "ชินเยอึน" น้องนางเอกหน้าใสรูปโปร่งที่เพิ่งจะเดบิวต์เข้าวงการมาเมื่อปีที่แล้ว ร่วมด้วยทีมนักแสดงที่เข้าขาสมวัยตามมาสมทบอีกมากมาย แม้เนื้อเรื่องหลักๆ จะเน้นอยู่ที่ความสัมพันธ์ของพระเอกนางเอกเยอะหน่อย แต่แค่ 2 ตอนแรกของซีรีส์ก็เกลี่ยกระจายบทและความสำคัญของตัวละครออกมาได้กำลังพอดี
More Than Friends เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์จากมิตรภาพที่พัฒนาก่อตัวกลายเป็นความรัก แต่เมื่ออีกฝ่ายได้ออกปากสารภาพออกไป กลับถูกปฏิเสธออกมา เพราะเขาให้ได้แค่สถานะเพื่อนเท่านั้น และเธอยังคงถูกเขาปฏิเสธตามมาอีกครั้ง ท่ามกลางชีวิตความรักตลอด 10 ปีผ่านมาของเธอไม่เคยประสบความสำเร็จเลย จนแอบคิดไปเองว่า...คงเป็นคำสาป ที่ดันไปชอบเขา แต่กลับไม่สามารถไปชอบใครอื่นได้เลย เธอจึงต้องหาวิธีลบล้างคำสาปนั้นที่ติดตัวมาเป็นทศวรรษ • สามารถติดตามอ่านเรื่องย่อซีรีส์เรื่องนี้รายตอนได้ที่นี่
ซีรีส์ได้ออนแอร์ไปแล้ว 2 ตอนแรก ถึงจะยังไม่ค่อยเห็นอะไรใหม่หรือแตกต่างไปจากซีรีส์แนวนี้เรื่องอื่นๆ แต่ต้องยอมรับว่าซีรีส์กลับมามีเสน่ห์อะไรบางอย่างที่โชยออกมาตลอดเวลา และทำให้คนดูยังเฝ้าติดตามได้จนลืมเวลา หรือจะเป็นเพราะเคมีของนักแสดงที่ค่อนข้างลงตัว หรืออินเนอร์และเสน่ห์ของนักแสดงจึงออกมาค่อนข้างกล่อม ได้เวลามาสรุปความประทับใจใน First Impressions ของซีรีส์เรื่องนี้กัน มีอะไรที่ Love และ Hate กันบ้าง
Love: เคมีของนักแสดงในแต่ละคาแรกเตอร์
แม้ว่าจะรู้จักคุ้นเคยกับ 2 นักแสดงนำของเรื่องนี้น้อยมากๆ เพราะพวกเขาต่างก็ยังใหม่ในอาชีพการแสดง แต่ก็บอกได้เลยว่า พวกเขาคือเหตุผลหลักที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้น่าดูต่อ "ชินเยอึน" ที่ผลงานเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่ 3 ของเธอ แต่เห็นได้ถึงพัฒนาการทางการแสดงและการเข้าถึงอินเนอร์-บทบาทของตัวละครได้ค่อนข้างใช้ได้ ถึงจะต้องรับบทที่โตกว่าวัยตัวเองไปหน่อย แต่ก็ยังดูมีความเป็นเด็กและผู้ใหญ่ผสมผสานกันอย่างไม่ขัดตา
ในขณะที่ "องซองอู" เป็นงานแสดงเรื่องที่ 2 ในชีวิตของเขา คงต้องบอกว่าคาแรกเตอร์และภาพลักษณ์ของเขาแทบไม่ต่างไปจากเรื่องก่อนเลย เหมือนทำการ Copy และ Paste เอามาวางไว้ นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะเท่ากับว่าเขายังลบภาพและสลัดคราบคาแรกเตอร์เก่าออกไปจากตัวไม่ได้ แต่ก็ถือว่าเรื่องนี้เขาได้โชว์พัฒนาการเติบโตในตัวบทได้อยู่ เห็นได้ชัดจากความพยายามถ่ายทอดบทที่ต้องเติบโตขึ้นจากเดิม จึงเป็นงานที่ท้าทายของเขาในเรื่องนี้
และนอกจากคู่พระนางแล้ว คาแรกเตอร์อื่นๆ ก็ทำการปูเรื่องออกมาได้ค่อนข้างน่าติดตามสนใจต่อ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของ 2 คู่รอง "พี.โอ." กับ "เบคซูมิน" ที่ยังมีบทที่วางเอาไว้ในไปได้อีกไกล เช่นเดียวกับ "อันอึนจิน" กับ "ชเวชานโฮ" บทของคู่นี้ก็ดูมีมิติและขัดแย้งกับโครงเรื่องหลักของซีรีส์ แต่ที่ไม่ลืมก็คือ "คิมดงจุน" ยังคงเป็นพระรองที่แสนดีอีกครั้ง แม้ว่าตอนแรกๆ ยังจะไม่ได้ให้น้ำหนักกับตัวละครนี้มาก แต่เขาจะต้องมีบทบาทที่สำคัญของเรื่องในอนาคนแน่นอน
Almost Love: บทละครที่ไม่ค่อยมีความแปลกใหม่เท่าไหร่
ก็อาจจะไม่ถึงกับเกลียด เพียงแต่ว่าบทละครดูมีความเป็นคลีเช่เยอะเต็มไปหมด แต่ต้องบอกเลยว่าบนความซ้ำซากเดิมๆ ของเรื่อง ก็มีข้อดีที่คนดูสามารถเสพเข้าไปและย่อยได้ง่ายๆ และอินได้ง่ายๆ ไม่ต้องคิดซับซ้อนอะไร แม้ว่าสถานการณ์แบบในซีรีส์สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ยุคสมัยก็ได้ แต่เท่าที่สัมผัสมาใน 2 ตอนแรก ก็ยังไม่ค่อยเห็นอะไรที่แตกต่างไปจากเรื่องอื่นๆ ที่เคยดูมาเท่าไหร่ แต่ก็คงจะด่วนสรุปไปหน่อยว่าบทไม่ดี เอาเป็นว่าต้องตามดูไปอีกสักระยะ เพราะแรกๆ ก็คือการปูเรื่องที่ดูจะจำเจอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าน่าจะซ่อนกิมมิกอะไรบางอย่างไว้อยู่บ้างหรอกนะ
แต่ถึงแม้บทจะคลีเช่ แต่การเล่าเรื่องและนำเสนอออกมาเป็นฉากๆ กลับไม่ได้ให้ความรู้สึกน่าเบื่ออะไร ถึงจะมีพวกฉากนางเอกเมามายไร้สติ หรือพระนางเดินสวนทางกันไปมาแบบเดิมๆ แต่ทุกอย่างถูกใส่เข้ามาได้อย่างถูกจังหวะและขับอารมณ์คนดูได้ดีอยู่ระดับหนึ่งอยู่ แม้กระทั่งการย้อนเรื่องราวไปในอดีตก็ไม่ได้ย้อนความไปจนเสียงอรรถรสให้ดูจืดไปทั้งหมด ยังเผยให้เห็นถึงพัฒนาการความเติบโตของตัวละครอยู่ และที่สำคัญ 2 ตอนแรกก็คือฟินมากๆ เพราะสถานที่เกิดเหตุอยู่ที่เกาะเชจู ที่มาพร้อมกับวิวและมุมภาพที่งามติดตาจริงๆ
โดยสรุปแล้ว More Than Friends ก็น่าจะเป็นซีรีส์ที่ดูแล้วย่อยง่ายสุดๆ เหมาะกับใครที่กำลังมองหาความบันเทิงที่ไม่ต้องวิเคราะห์หรือเครียดตามท้องเรื่อง ดูพาฟินไปเพลินๆ ก็น่าจะซาบซึ้งกับความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของคู่พระนางไปได้เอง แม้นักแสดงจะค่อนข้างมือใหม่ แต่ฝีมือของพวกเขากลับไม่ธรรมดาเลยนะ
คุณสามารถดูซีรีส์เรื่องแรกของ องซองอู ใน At Eighteen ครบทุกตอนได้ที่ TrueID
และ คุณก็ยังสามารถดูซีรีส์ He is Psychometric ผลงานเดบิวต์เรื่องแรกของ ชินเยอึน ครบทุกตอนที่ TrueID ได้เช่นกัน
--------------------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/2RDrg8O