รีวิวหนัง "Alien: Romulus" แบบว่าสนุกเดิม ๆ มาเพื่อให้นางล่า แล้วสนองนี้ดด้วยความกลัว

การกลับมาอีกครั้งในรอบ 7 ปีของแฟรนไชส์หนังสยองขวัญที่สุดแห่งห้วงกาแลคซี ที่คัมแบ็กครั้งนี้ก็กระทำการรีบูตและยกเครื่องใหม่อีกสักหน แต่ยังคงอยู่ในจักรวาลเดียวกัน กลายออกมาเป็น "Alien: Romulus เอเลี่ยน โรมูลัส" เส้นเรื่องการผจญภัยไปสู่การเผชิญหน้าความสะพรึงกลัวครั้งใหม่ที่จะมาบีบคั้นหัวใจและสร้างอรรถรสความสนุกให้กับคนดูด้วยความกลัวแบบจริงแท้ 100%

Alien: Romulus เล่าเรื่องราวของกลุ่มนักสำรวจรุ่นใหม่ ที่พวกเขาต่างคาดหวังจะหลีกหนีไปให้พ้นจากดวงดาวที่แทบจะมองหาอนาคตไม่เจอ เพื่อไปยังดวงดาวอีกดวงอันไกลโพ้นที่มีวิวพระอาทิตย์ตกสุดตระการตา ความหวังของพวกเขาก็คือการบินขึ้นไปสำรวจสถานีอวกาศที่ถูกทิ้งร้างอยู่นอกชั้นบรรยากาศ เพื่อแสวงหาเครื่องมือในการออกเดินทางไกล แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่น่าหวาดหวั่นที่สุดในจักรวาล

โดยหนังภาคนี้ถือว่าเลือกช้อยส์ได้ค่อนข้างเหมาะเจาะ กับการตีโจทย์ที่จะมาสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ชม เพราะได้ "เฟเด อัลบาเรซ" ผู้กำกับเชื้อสายชาวอุรุกวัยที่ปังสุด ๆ จากหนัง Don't Breathe ทั้งสองภาค อันเป็นมาสเตอร์พีชอีกครั้ง นี่จึงกลายเป็นหนังบ็อกซ์บัสเตอร์ฟอร์มดีจากสตูดิโอใหญ่อีกเร่ืองของเขา ที่ได้โชว์ศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ด้วยการหยอดความหวั่นวิตกลงไปในหนังแนวไซไฟ

เฟเด อัลบาเรซ ยังคงรับหน้าที่เขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเขาเองอีกเช่นเคย โดยเป็นการร่วมปั้นบทคู่กับ "โรโด ซายาเกซ เมนเดซ" ที่เคยคุ้นกันดีจากหนังชุด Don't Breathe นั่นเอง คงจะต้องบอกว่า Alien: Romulus มาพร้อมกับพล็อตสูตรสำเร็จเดิม ๆ ของหนังชุดเอเลี่ยนนั่นเอง มันจะยังวนอยู่กับโครงเรื่องที่ซ้ำ ๆ ออกอวกาศไปสำรวจและเจอกับสิ่งมีชีวิตแสนดุร้าย แล้วมาเป็นเหยื่อในเกมล่าของมัน

ถึงพล็อตเรื่องจะค่อนข้างจำเจ แต่อย่างน้อย ๆ ใน Alien: Romulus เรื่องนี้ก็ได้ใช้บรรยากาศและโทนแห่งความหวาดกลัวมาเป็นองค์ประกอบเสริมให้กับตัวหนังได้อย่างตรงล็อกตรงจังหวะ กลายที่อะไรที่เดิม ๆ ที่ยังคงเต็มไปด้วยอรรถรสและความสนุกแบบชวนลุ้น ชวนเบือนหน้าไม่กล้าดู นับว่าเป็นการใช้แนวถนัดของทีมผู้สร้าง มาตอบโจทย์และเล่นกับความหวาดกลัวของผู้ชมได้ดี นับว่าเป็นหนังเอเลี่ยนเรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างน่ากลัวทีเดียว

สำหรับคอหนังบางคนที่ไม่เคยติดตามหนังชุดนี้มาก่อนเลย ถ้าจะมาเริ่มต้นดู Alien: Romulus เป็นเรื่องแรก ก็คงจะต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ เพราะนี่คือการรีบูตใหม่ ที่แทบจะไม่มีอะไรเชื่อมโยงไปกับหนังภาคก่อน ๆ สักเท่าไหร่ (แต่ก็มีอีสเตอร์เอ้กหยอดมาสนุก ๆ เล็กน้อยเช่นกัน) โดยภาคนี้ก็เหมือนพาเรานึกหวนไปถึงบรรยากาศความสะพรึงกลัวจากเมื่อภาคแรก ๆ ของหนังชุดนี้

ในแง่องค์ประกอบงานสร้างของ Alien: Romulus เป็นส่วนที่อยากจะยกนิ้วให้จริง ๆ เพราะถือว่างานดีไซน์โปรดักชัน และเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ที่สอดแทรกเอาไว้ในตัวหนังเรื่องนี้ นำออกมาได้ค่อนข้างเนี้ยบไม่เบา ยิ่งงานสร้างฉากอวกาศและสถานที่อวกาศที่ทำออกมาได้ถึงใจ ใช้ลูกเล่นแสงและเงาเข้ากับฉากต่าง ๆ ได้อย่างคุ้มค่าไม่เบา

ขณะที่การดีไซน์ตัวละครสิ่งมีชีวิตที่ไฮไลต์หลักของหนังเรื่องนี้นั้น ก็ยังคงปลุกปั้นสร้างออกมาได้อย่างน่าเกรงขามเช่นเดิม เซอร์วิสแฟน ๆ แบบให้ขนลุกซู่ตรงหน้าแบบเต็ม ๆ ตา นับว่าการใส่ใจรายละเอียดในการออกแบบสร้างเอเลี่ยนในเรื่องนี้ยังผสมผสานการใช้เทคนิคแบบสมัยเก่า มาประยุกต์เข้ากับซีจีในยุคนี้ได้ค่อนข้างลงตัว เก็บรายละเอียดได้ดีที่เม็ดจริง ๆ

แม้ว่ารายชื่อทีมนักแสดงในภาคนี้ เราอาจจะไม่คุ้นชื่อสักเท่าไหร่ เพราะว่าพวกเขาล้วนแต่เป็นดาราดาวรุ่งที่กำลังค่อย ๆ เฉิดฉายในวงการตอนนี้ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทีมแคสติ้งชุดนี้ ถึงจะใหม่แต่ก็ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ "เคลี สแปนีย์" คือแบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อย่างน่าทึ่ง แม้ว่ามิติในบทบาทที่เธอได้รับนั้นจะไม่ค่อยมีอะไรใหม่เท่าไหร่ แต่กล้องรักเธอจริง ๆ เสน่ห์แพรวพราว เปล่งประกายเป็นนักสู้สาวที่สวยเท่จับใจด้วยอินเนอร์ดรามาที่ทำถึง

ส่วนอีกคนที่มองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือ "เดวิด จอนส์สัน" ดาวรุ่งหนุ่มจากอังกฤษ ที่บอกเลยว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นใบเบิกทางให้กับเขาไปได้สวยแน่ เพราะการแสดงของเขาค่อนข้างน่าจดใจ ถึงจะยังไม่ใช่บทบาทที่ดิบดีที่สุดอะไร แต่กลับมีลูกเล่นและแนวทางให้กับได้ปลดล็อกทางการแสดงออกมาได้อย่างแจ่มจรัส ด้วยแอคติ้งที่ของมือใหม่ที่เต็มไปด้วยชั้นเชิงชวนชม มันได้แจ้งเกิดให้เขาได้เต็มตัวแล้ว

"อิซาเบลา เมอร์เซด", "อาร์ชี เรสักซ์" หรือ "สไปค์ เฟิร์น" ที่เป็นนักแสดงสมทบเรื่องนี้ ก็ถือว่าเข้ามาช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับหนังเรื่องนี้ได้ดี ถึงจะยังค่อนข้างติดใจกับมิติคาแรกเตอร์ต่าง ๆ ของพวกเขาที่แทบจะไม่มีอะไรเลย ใส่เข้ามาให้เต็ม ๆ และมีไว้เหมือนคอยสร้างอารมณ์หงุดหงิดให้กับคนดูเปล่า ๆ แต่กระนั้นพวกเขาก็ถ่ายทอดการแสดงออกมาได้น่าพอใจทั้งทีม ถือว่าเป็นหน้าใหม่ที่น่าสนใจเลยทีเดียว

โดยภาพรวมแล้ว Alien: Romulus ก็ถือว่าเป็นกลับมาสานต่ออีกครั้งของแฟรนไชส์นี้ที่ยังคงเส้นคงวาได้เป็นอย่างดี พร้อมกับเผยให้เห็นว่าศักยภาพของหนังชุดยังคงลากเส้นไปได้ยาว ๆ อีกนับตั้งแต่นี้ไป อาจจะค่อนข้างผิดหวังนิดหน่อยกับพล็อตที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกแปลกใหม่อะไรเท่าไหร่ ยังวนอยู่กับโครงสร้างเดิม ๆ แต่กระนั้นหนังก็ทำได้ดีในแง่งานสร้างและโปรดักชันต่าง ๆ

นี่อาจจะยังไม่ใช่หนังเอเลี่ยนเรื่องที่ดีที่สุด หรือเรื่องที่โปรดปรานที่สุด แต่ก็นับว่าเป็นการออกสตาร์ทจุดใหม่ ๆ ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยการปูทางมุมมองเรื่องราวจากอีกกลุ่มคนหนึ่งที่น่าออกไปสำรวจต่อไม่น้อย ดังนั้น Alien: Romulus ยังคงไม่ใช่หนังที่รู้สึกประทับใจมากนัก แต่ก็ไม่ได้เป็นหนังที่ให้ผลลัพธ์ที่ต่ำกว่ามาตรฐานใด ๆ มันคือหนังที่เล่นกับอารมณ์ความกลัวของผู้คนได้ชวนบันเทิงเรื่องหนึ่ง...