"ริน ผมว่า...เราสองเลิกกันเถอะ" ฉันที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้มาเที่ยวงานประจำปีริมแม่น้ำกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาได้หกเดือน ต้องมายืนใจสลายกับคำพูดไม่กี่คำของชายที่ยืนอยู่ต่อหน้า รอยยิ้มจากริมฝีปากฉันหุบลง แปรเปลี่ยนเป็นความเศร้าเข้ามาแทนที่ ฉันแทบไม่ทันได้ตั้งตัวได้แต่ยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นออกมาจากนัยตาใส บรรยากาศรอบข้างฉันคราคร่ำไปด้วยผู้คนในงานประจำปีมากมายที่เดินขวักไขว่กันไปมา แต่ตอนนี้ฉันก็คงไม่ได้สนใจอะไรไปมากกว่าเจ้าของคำพูดที่กำลังยืนเฉยชาอยู่ตรงหน้าของฉัน "เมื่อกี้...ชลพูดว่าอะไรนะ?" ฉันเอ่ยถามชลอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ทั้งๆที่ก็รู้ว่าตัวเองก็ได้ยินที่อีกฝ่ายพูดอย่างชัดเจน ฉันก็แค่อยากหลอกตัวเองว่า บางทีอาจจะแค่หูฝาดไปก็แค่นั้น "ผมว่าผมคงไปกันกับคุณไม่ได้หรอก" เขายังคงยืนยันคำเดิม และตามมาด้วยคำพูดที่ว่า "คุณดีเกินไป " ไม่นึกคำพูดที่สุดแสนจะโหลยโท่ยเหมือนหลุดออกมาจากละครน้ำเน่าที่ฉันเคยดูบ่อยๆในทีวี จะถูกพูดออกมาให้ฉันได้ยิน มาถึงตอนนี้ฉันคิดอะไรแทบไม่ออก ใจหนึ่งก็อยากง้างมือไปตบหน้าอีกฝ่ายให้สุดแรง แต่จะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรล่ะ ในเมื่อยังไงเขาก็ทิ้งฉันไปอยู่แล้ว ความสะใจไม่ได้ช่วยทำให้อะไรๆในตอนนี้ให้ดีขึ้นมาได้เลยซักนิด ฉันพยายามมองหน้าเขา แต่เขาสิกลับพยายามหันหน้าหลบหนีจากสายตาของฉัน ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ชลคนเดิมที่ฉันเคยรู้จัก ในตอนนี้ไม่เหลือเค้าคนเดิมแบบที่เคยเห็นอีกต่อไปแล้ว "ชลอย่าทิ้งรินไปเลยนะ รินจะพยายามทำตัวใหม่ให้ถูกใจคุณ" ฉันพูดพร้อมทิ้งร่างสวมกอดอีกฝ่าย คิดไม่ออกแล้วว่าจะต้องทำยังไงให้ชลไม่ทิ้งตัวเองไป ตอนนี้ฉันยอมเป็นคนแพ้อ้อนวอนคนตรงหน้าให้เห็นใจ อยู่ๆเขามาบอกเลิกกระทันหันแบบนี้ ยังไงฉันก็รู้ดีว่าฉันทำใจไม่ได้อย่างแน่นอน แต่เขาก็แกะมือของฉันและค่อยๆดันร่างฉันออกไปจากตัวเขา "มันไม่เหมือนเดิมแล้วล่ะลิน คุณไปหาคนใหม่ที่ดีกว่าผมเถอะนะ" ชลเอ่ยกับฉันด้วยน้ำเสียงเรียบและดูเย็นชา เขาหันหลังก้าวเดินจากไปทิ้งฉันให้ยืนอยู่คนเดียว น้ำตาของฉันพรั่งพรูออกมาแล้วในเวลานี้ ทำได้แค่มองแผ่นหลังของเขาที่กำลังเดินฝ่าฝูงชนห่างออกไปเรื่อย ๆ โดยที่ตัวฉันเองได้แต่ยกมือขึ้นปิดปากพร้อมกับสะอื้นร้องไห้ออกมาเหมือนคนบ้าก็ไม่ปาน พอเริ่มตั้งสติได้ก็รีบวิ่งตามหลังชลไป พร้อมกับเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้า แต่ฉันตามเขาไม่ทัน เขาหายไปท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่มากมายนั้นแล้วรูปภาพ https://pixabay.com/images/id-195874/ ฉันมานั่งมองแม่น้ำใหญ่ที่ไหลเอื่อยๆไปตามเส้นทางของมันอย่างคนไร้จุดหมาย ท่ามกลางความมืดมิดที่เข้าปกคลุมทั่วบริเวณเหนือน้ำ ปีนี้ผู้คนมากมายต่างมานั่งริมฝั่งของแม่น้ำเพื่อจะมองดูลูกไฟประหลาดที่พากันลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ แต่ฉันสิ ฉันต้องมานั่งร้องไห้อยู่คนเดียวริมแม่น้ำอย่างเดียวดาย "ไอ้คนบ้าาา!!!" ฉันร้องตะโกนฝ่าออกไปในความมือมิดด้วยความเจ็บปวดใจ เสียงตะโกนสะท้อนดังกลับคืนมา อย่างกับว่าฉันกำลังด่าตัวฉันเอง "บ้าที่สุด บ้าๆๆๆ" ฉันควานหาก้อนหินที่อยุ่ใกล้ ๆแล้วขว้างมันลงไปในน้ำ พลางจินตนาการถึงใบหน้าของชล ก้อนแรกที่คว้างลงไปกระทบกับผืนน้ำ ผิวน้ำแตกกระจายแผ่ออกไปเป็นวงกว้าง แต่มันดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาเลย ฉันขว้างก้อนหินก่อนแล้วก้อนเล่าลงไปในน้ำ จนมีเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังของฉัน "สายน้ำมันไม่เคยทำร้ายคุณ แต่ทำไมคุณถึงดูเหมือนจะไม่พอใจสายน้ำที่ไหลอยู่ตรงหน้ากันนะ" เสียงทุ้มของใครบางคนพูดขึ้น พอฉันรู้ว่ามีคนมา จึงรีบลุกขึ้นแล้วแล้วหันหน้าไปมอง ฉันเห็นเป็นหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน หน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสูงโปร่ง นุ่งกางเกงยีนส์ ใส่เสื้อยืดสีขาว แต่น่าตลกที่เขาใช้ผ้าสีแดงผืนเล็ก ๆ โพกศีรษะเอาไว้ด้วย "นายเป็นใคร" ฉันถามด้วยความสงสัยพลางก้าวขาขยับตัวออกห่างจากเขาด้วยความไม่ไว้ใจ "ผมควรถามคุณมากกว่าว่าคุณน่ะเป็นใคร มาทำอะไรตรงนี้" เขายิงคำถามคืนมาหาฉัน "ทำไมฉันจะต้องบอกนายด้วย" "เป็นมารยาทของคนที่เข้ามาในบ้านของคนอื่น" "บ้าน!" ฉันอุทานออกมาพร้อมกับเหลียวซ้ายแลขวา มองดูคำว่าบ้านของชายหนุ่ม ที่ตรงนี้มีแค่หาดทรายขาวกับแม่น้ำที่ไหลเอื่อย ๆ อยู่เท่านั้น เขาจ้องมองหน้าฉันแล้วยิ้มยิงฟันทำหน้ายียวน ฉันพึ่งอกหักมาแท้ ๆ ยังต้องมาเจอใครก็ไม่รู้มากวนประสาท อีกทั้งสายตาคมที่มองฉันคู่นั้นดูมีพลังจนฉันไม่กล้าหันไปสบตา เขาต้องเป็นคนไม่ดีแน่ๆ ฉันคิดไปในทางที่ไม่ดีแล้วหันหลังตั้งใจจะเดินหนีออกไปจากที่นี่ แต่เสียงของเขาก็เอ่ยพูดตามหลังมา "ถ้าคุณไม่สบายใจจากเรื่องของชล คุณอยู่ที่นี่ก่อนก็ได้นะ ริน" ฉันหยุดชะงัก หันกลับไปมองหน้าเขาด้วยความสงสัย เขาเป็นใครกัน ทำไมถึงได้รู้จักชื่อฉันและรู้ชื่อของชลอีกด้วย "นายรู้จักชื่อฉันได้ยังไง" "ไม่มีตอนไหนที่ผมจะไม่รู้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ผมก็จำคุณได้ไม่เคยลืม" คำตอบของเขาทำให้ฉันงงไปหมด นี่เขากำลังเล่นสงครามประสาทกับฉันอยู่หรือไงกันนะ "คุณสบายใจได้เลยว่าผมไม่ทำอันตรายคุณแน่นอ ผมมารอคุณอยู่ที่นี่ทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี และผมมีความสุขมากเลย ที่ในวันนี้ผมก็ได้เจอหน้าคุณอีกครั้ง" "นายพูดเรื่องอะไรเนี่ย ฉันงงไปหมดแล้ว" ยิ่งฟังเขาพูดฉันยิ่งไม่เข้าใจในเรื่องราวต่าง ๆ เหมือนเขารู้ความคิดของฉัน และสังเกตเห็นว่าแววตาคมเมื่อครู่ของเขานั้นดูเศร้าลง เขาค่อย ๆ นั่งลงไปบนพื้นทรายแล้วหันมองไปยังแม่น้ำคล้ายกับคิดอะไรอยู่ในใจรูปภาพ https://unsplash.com/photos/bVAY3coCf6s "ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายพูดเรื่องอะไร แต่ว่าฉันคิดว่าฉันไม่เคยรู้จักนายเลยนะ" ฉันเดินไปนั่งลงบนทรายใกล้ ๆ กับเขาโดยเว้นระยะห่างประมาณหนึ่ง แต่เขานิ่งเงียบไม่มองและไม่ตอบคำถามฉันเลย "ครับ เรื่องนั้นผมรู้ดี ว่าคุณจำผมไม่ได้" "อ๋อเหรอ แล้วนายชื่ออะไรล่ะ" ฉันถามด้วยความที่อยากจะรู้จักเขา "นาวา" เขาตอบชื่อตัวเองออกมาด้วยเสียงที่ดังก้องไปทั่วบริเวณ ทำเอาฉันสะดุ้งตกใจไปไม่น้อยเลยทีเดียว "เวลาที่ผมจะได้อยู่กับคุณใกล้จะหมดลงแล้วนะ ไม่รู้อีกนานแค่ไหน เราสองคนถึงจะได้มาเจอกันที่นี่อีก ผมอยากจะอยู่กับคุณแบบนี้ไปทั้งชีวิต แล้วคุณล่ะอยากอยู่กับผมไปตลอดชีวิตแบบที่ผมคิดหรือปล่าว" "เอ่อออ.. ฉัน.." ฉันสับสนและคิดไม่ออกว่าควรตอบคำถามให้หนุ่มแปลกหน้าคนนี้ออกไปยังไง ฉันจึงนิ่งและได้แต่ยิ้มให้เขา ในใจก็คิดว่าเขาอาจจะเป็นแค่คนสติไม่ดีก็ได้ "คุณไม่ต้องตอบหรอก เพราะผมรู้แล้วล่ะ" เขาพูดออกมาแล้วหันมายิ้มให้กับฉัน ไม่เข้าใจเลยกับคำพูดของเขา แล้วที่เขาบอกว่ารู้แล้วนั้นเขารู้อะไร ฉันยังจำใบหน้านั้นได้ดี ใบหน้าหล่อเข้มที่ทำให้หัวใจของฉันหวั่นไหวเหมือนต้องมนต์สะกด สายตาเขาที่มองมาทำให้ฉันขยับตัวไม่ได้ ทำได้แต่มองหน้าของเขา เขาค่อย ๆ ลุกเดินเข้ามาใกล้ แล้วถอดผ้าสีแดงที่โพกหัวออกมา ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าเอาผ้ามาผูกไว้ตรงข้อมือของฉัน เขาโน้มริมฝีปากนุ่มมาหอมลงบนหน้าผาก "ผมรักคุณนะริน ผ้านี้คือคำสัญญาของผม ผ้านี้จะอยู่กับคุณไปจนกว่าคุณจะรู้หัวใจตัวเอง ต่อแต่นี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วนะ ส่วนผมจะรออยู่ตรงนี้ตลอดไป" เขาพูดด้วยเสียงแผ่วเบา จากนั้นก็ลุกเดินตรงไปยังแม่น้ำแล้วค่อย ๆ เดิมจมหายลับลงน้ำไปต่อหน้าต่อตา ทิ้งฉันเอาไว้ให้นั่งงงและตกใจกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า....รูปภาพ https://pixabay.com/images/id-1919705/ ริน! ริน! เสียงร้องเรียกชื่อ ดังก้องในหู พอลืมตาขึ้นฉันเห็น ชล กำลังเขย่าตัวฉันอยู่ด้วยสีหน้าและแววตาที่ดูเป็นห่วง พอมองไปรอบ ๆ ก็มีคนมากมายที่มามุงดูฉัน ชลเล่าว่ามีคนไปพบฉันนอนหมดสติตรงหาดทราย เขาเลยรีบมาดูเกรงว่าฉันจะคิดสั้น ฉันร้องไห้ฟูมฟายและกอดเขาแน่นไม่อยากเสียเขาไป โดยไม่อายคนที่มามุงดูเลยแม้แต่น้อย และก็ไม่ได้สังเกตุเลยว่าตอนที่ชลพาฉันไปส่งโรงพยาบาล ผ้าสีแดงที่ผู้ชายคนนั้นผูกข้อมือฉันเอาไว้นั้น หลุดและหล่นหายไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ หรือว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น ฉันแค่ฝันไปเท่านั้นเอง... เมื่อฉันออกจากโรงพยาบาล ชลก็กลับไปอยู่กับแฟนใหม่ของเขา ถึงฉันจะรู้สึกเสียใจมากเพียงใดแต่ก็ยอมรับกับมันโดยดี ต่อมาฉันได้เจอหนังสือเก่าเล่มหนึ่งที่กล่าวถึงตำนานพญานาคที่ชื่อ "นาวานาคราช" ที่รอคอยคนรักของตัวเองมาหลายภพชาติอยู่ในแม่น้ำสายนั้น เมื่อฉันรู้ดังนั้นจึงรีบกลับไปที่นั่นอีกครั้งเพื่อต้องการจะพบเขา แต่ไม่ว่าฉันจะพยามยามตามหามานานซักแค่ไหน ก็ไม่เคยได้เจอกับชายหนุ่มคนนั้นอีกเลย....รูปภาพ https://pixabay.com/images/id-1359599 เรื่องราวทั้งหมดถูกแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงและไม่เกี่ยวข้องกับสถานที่ใด ๆ ทั้งสิ้น