เครดิตภาพ Facebook Officialอีกหนึ่งซูเปอร์ฮีโร่พลังเหนือมนุษย์อีกหนึ่งอย่าง "ธอร์" ที่มีโอกาสได้โลดแล่นบนจอเงิน จากค่ายสตูดิโอมาร์เวลนั่นเอง ก่อนไปดูแอบลุ้นเหมือนกันครับว่าจะไหวมั้ย แต่บอกได้เลยว่าของเขาดีไม่ใช่ย่อยเลยนะครับหนังเล่าถึง ธอร์ (Chris Hemsworth) ทายาทของเทพเจ้าแห่งดาวแอสการ์ดซึ่งมีพลังแข็งแกร่งแต่หยิ่งผยอง ด้วยความที่ทำอะไรตามใจตลอดการกระทำของเขาจึงทำให้เกิดสงคราม ทำให้เขาถูกโอดิน (Anthony Hopkins) พ่อของเขาไล่ไปอยู่ดาวโลก เขาไม่มีทางเลือกนอกจากทนใช้ชีวิตแบบมนุษย์โลกทั่วไป ทำให้เขาได้พบกับเจน ฟอสเตอร์ (Natalie Portman) นักวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้เขาตกหลุ่มรักเธออย่างจัง และในระหว่างที่ธอร์ใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์เขาก็ได้มีโอกาสพิสูจน์ว่าตัวเองมีคุณสมบัติคู่ควรกับบัลลังค์แอสการ์ดเมื่อ โลกิ (Tom Hiddleston) น้องชายของธอร์วางแผนที่จะยึดแอสการ์ดมาเป็นของตัวเองเครดิตภาพ Facebook Officialขอพูดถึงสิ่งที่โดดเด่นและสะดุดตาอย่างแรกของภาพยนตร์เรื่องนี้ก่อนเลยนะครับ นั่นก็คือเครื่องแต่งกายของชาวแอสการ์ด คือมันดูเหมือนเทพเจ้ากรีกในยุคไฮเทค เสริมให้พระเอกคริสหล่อเท่ขึ้นเป็นกอง และก่อนไปชมหนังเต็ม ผมก็พยายามหาตัวอย่างดูก่อนและขอสารภาพตามตรงว่า ตัวอย่างที่ทางมาร์เวลปล่อยออกมาให้แฟน ๆ ได้น้ำลายไหล มันกลับไม่มีอะไรดึงดูดเลยครับ ดูเฉย ๆ และธรรมดามาก แต่กระนั้นผมก็ยังคงไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้โดยไม่หวังอะไรมากมาย หลังจากดูจบต้องบอกว่าการสบประมาทตัวอย่างหนังนั้นคิดผิดมาก เพราะความมันส์ความสนุกทั้งหลายแหล่นั้น มาอยู่ในหนังเต็มทั้งหมด ตัวอย่างนั้นเป็นแค่น้ำจิ้มถ้วยเล็ก ๆ ไปเลยทีเดียว ช่วงแรกของหนังจะอธิบายประวัติความเป็นมาของแอสการ์ด และสาเหตุที่ธอร์โดนเนรเทศมาโลกมนุษย์ แต่ในช่วงที่ธอร์กำลังจะถูกส่งมาโลกมนุษย์หนังเดินเรื่องค่อนข้างอืดอาด ขาดความน่าสนใจไปพอสมควรเครดิตภาพ Facebook Officialหนังมาแก้ตัวได้สำเร็จเมื่อธอร์ถูกส่งมาโลกมนุษย์ ความตลกโปกฮาตามมาทันทีเพราะความเฉิ่มเบอะของพ่อธอร์ เพราะเขามาในโลกที่ไม่คุ้นเคย ทำให้อะไรก็ใหม่และชวนงงสำหรับเขาไปหมด ในช่วงที่ธอร์กำลังใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์ หนังจะตัดสลับกับเหตุการณ์ที่แอสการ์ดขณะที่โลกิกำลังหาทางยึดอำนาจนั่นเองเมื่อถูกเนรเทศมาอยู่โลกมนุษย์ ธอร์ก็ปรับปรุงพัฒนาตัวเอง จากเดิมที่ใจร้อนไร้เหตุผล กลับมามีเหตุผลและใช้หัวคิดก่อนจะลงมือทำอะไรมากกว่าเดิม แต่บอกเลยหนังเรื่องนี้ตัวร้ายอย่างโลกิ แสดงโดยทอม ฮิลเดลตัน ได้ใจไปเต็ม ๆ เพราะเขามีเสน่ห์มาก ๆ ส่วนฉากอินเลิฟระหว่างธอร์และเจนก็ทำเอาผมประทับใจมาก มันดูน่ารักมากเลยนะครับที่เทะเจ้าจะมารักกับมนุษย์คะแนนเนื้อเรื่อง 8/10 หนังทำออกมาได้ดีพอสมควรนะครับในภาพรวม แต่ด้อยไปนิดหน่อยในช่วงที่ธอร์กำลังจะถูกส่งมายังแอสการ์ด แต่หลังจากธอร์มาโลกมนุษย์หนังก็กลายเป็นหนังตลกฮีโร่ไปเลย และการดำเนินเรื่องก็น่าสนใจมากครับทำให้เราลุ้นตามว่าธอร์จะมีคุณสมบัติที่คู่ควรกับแอสการ์ดเมื่อไหร่คะแนนเอฟเฟคต์ 9/10 หนังจะมีCGและเอฟเฟคต์โดดเด่นเฉพาะฉากที่แอสการ์ดครับ คนดูจะได้เห็นถึงความสวยงามและความอลังการของเมืองแอสการ์ด แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงจะเป็นสะพานเดินไปสู่Gateที่จะส่งผู้คนไปที่อื่นได้ด้วยลักษณะของTime Machine สะพานมีความสวยและดูแฟนตาซี ผมเห็นแล้วแทบอยากไปอยู่ที่เมืองสวย ๆ แบบแอสการ์ดจริง ๆเครดิตภาพ Facebook Officialข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้1. ความหยิ่งทะนงไม่เคยเป็นผลดีกับใคร ธอร์ที่มีนิสัยหยิ่งทะนงคิดว่าตัวเองเก่ง ทำให้เขาไม่ฟังใคร คิดว่าตัวเองพร้อมที่จะขึ้นเป็นราชาแม้จะมีสิทธิ์โดยสายเลือด แต่ในความคิดและทัศนคติที่หยิ่งผยองของเขาทำให้เขาไม่พร้อมและยังไม่คู่ควร2. การถูกส่งไปดัดสันดาน โอนดินส่งธอร์ไปยังโลกมนุษย์เพื่อต้องการดัดนิสัยและทำให้เขาได้รู้จักอีกดาวหนึ่งที่จะทหใ้เขาเจอประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้มีโอกาสไปอยู่ระดับเดียวกับมนุษย์โลก เพื่อให้เขามีคุณสมบัติที่จะเป็นราชามากขึ้นเป็นการเริ่มปฐมบทของภาพยนตร์ไตรภาคอย่าง Thor ได้อย่างสวยงาม และทำให้เขามีแฟนคลับทั่วโลกทันที นี่ถือเป็นจุดกำเนิดฮีโร่สายรั่วของมาร์เวลที่มีอนาคตไกลครับเครดิตภาพ Facebook Official