ปีนี้เรียกว่าเป็นปีทองของหนังไทยเลยก็ว่าได้ค่ะ และภาพยนตร์เรื่อง "วิมานหนาม" (The Paradise Of Thorns) ก็เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ไทยที่ ME ปักหมุดเอาไว้ว่าจะต้องดู! เช่นเคยตามธรรมเนียนของ ME เมื่อไปเจอหนังเรื่องไหนดี ๆ มา ก็ไม่เคยคิดจะเก็บความประทับใจไว้คนเดียว แต่ขอมาแชร์ประสบการณ์และความรู้สึกดี ๆ ที่ได้รับมาให้กับทุกคน ใครที่กำลังคิดว่าจะตีตั๋วไปดูหนังเรื่องวิมานหนามดีไหม? ต้องขอบอกว่าคุ้มเกินคุ้ม! ตัวอย่างหนัง วิมานหนาม (The Paradise Of Thorns) https://youtu.be/7daOE9hFZCoเรื่องย่อ วิมานหนาม (The Paradise Of Thorns) แนว: ดราม่าทิลเลอร์ ความยาว: 125 นาทีกำกับโดย: บอส นฤเบศ กูโนหนังแสดงนำ: เจฟ ซาเตอร์, อิงฟ้า วราหะ, เต้ย พงศกร, เก่ง หฤษฎ์, สีดา พัวพิมล"ทองคำ" รับบทโดยเจฟ ซาเตอร์ และ "เสก" รับบทโดยเต้ย พงศกร คู่รักหนุ่มชาวสวน ที่ช่วยกันสร้างสวนทุเรียนและบ้านขึ้นมาด้วยสองมือบนที่ดินของเสก ทองคำทุ่มเททั้งแรงกายและเงินทองเพื่อไถ่ถอนที่ดินผืนนี้มา จนกลายเป็นเหมือนวิมานของทั้งคู่ แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก เมื่อเสกประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเนื่องจากกฎหมายไม่ยอมรับการสมรสของคู่รักเพศเดียวกัน ทองคำจึงไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมดที่ทั้งคู่สร้างขึ้นมา บ้านและสวนทุเรียนที่เปรียบเสมือนผลแห่งความรักและความพยายามของทั้งคู่ กลับตกเป็นของ "แม่แสง" แม่ของเสก และ "โหม๋" ลูกสาวที่แม่แสงเลี้ยงมาทองคำจึงต้องต่อสู้เพื่อทวงคืนทุกสิ่งที่เป็นของเขา ไม่ว่าจะเป็นบ้าน สวนทุเรียน หรือแม้แต่ความยุติธรรมที่ถูกพรากไป ทำให้เกิดเป็นเรื่องราวความขัดแย้งและการต่อสู้ที่เข้มข้นขึ้นรีวิว "วิมานหนาม" The Paradise Of Thorns รอยหนามในใจที่ยากจะลืม!เรียกว่านาทีนี้หนังเรื่อง "วิมานหนาม" เป็นภาพยนตร์ไทยที่กำลังน่าจับตามองอย่างมาก ต้องขอบอกว่า ME เองก็โดนตกอย่างจัดจากโปสเตอร์ตัวอย่างของหนังที่สัมผัสได้ถึงความทุ่มเทของนักแสดงและ Mood & Tone ที่มีเสน่ห์ของชีวิตชาวสวนทุเรียนในไทย ตัวเราเองจึงมีความคาดหวังในหนังเรื่องนี้สูงเพราะตั้งธงเอาไว้ว่าจะต้องออกมาดีอย่างแน่นอน และหลังจากที่ดูจบนี้คือความรู้สึกทั้งหมดที่ ME ย่อยออกมาด้วยความคิดและหัวใจ "ไม่ว่าความรักจะก่อขึ้นในร่างกายแบบไหน เพศใด หรืออาชีพอะไร ความรักนั้นไม่ควรไร้ค่า"นี่เป็นความคิดแรกที่หนังวิมานหนามทิ้งให้คนดูอย่างเราตั้งแต่ 20 นาทีแรกที่หนังเรื่องนี้ ดำเนินผ่านสายตาและความรู้สึกของคนธรรมดาที่อินกับความรักได้ง่ายแบบ ME ยอมรับว่าน้ำตาคลอตั้งแต่หนังเปิดเรื่องได้ไม่นาน ทั้งภาพ เสียง แววตา และเรื่องราวของตัวละครอย่าง 'เสก' และ 'ทองคำ' ทำให้เรารู้สึกว่าความรักของคนทุกคนควรค่าที่จะได้รับการยอมรับในทุกรูปแบบ นี่จึงเป็นกระบอกเสียงที่ดังมากที่ช่วยเรียกร้องให้ผู้คนมองเห็นค่าของความรักผ่านสิ่งที่เรียกว่าหัวใจมากกว่าเพศสภาพใด ๆ (โชคดีมาก ๆ ที่คนในประเทศไทยสามารถรักได้อย่างอิสระ 🏳️🌈)"การหักหลังและความลับที่มีในชีวิตคู่ เสมือนหนามแหลมคมที่พร้อมกับมาทิ่มแทงคนทั้งคู่อยู่เสมอ"เพราะที่ที่เรียกว่า "วิมาน" อาจไม่ได้เป็นสวรรค์เสมอไป....นี่เป็นอีกเมสเสนสำคัญของหนังเรื่องนี้ เพราะตลอดทั้งเรื่องที่หนังถ่ายทอดความคิดและความรู้สึกของทุกตัวละครออกมา นั่นสอดแทรกไปด้วยทั้งความรัก ความสุข คลุกเคล้าอยู่กับความทุกข์และการหักหลังที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากคนไกลตัว แต่กลับเป็นคนที่เรารักหมดหัวใจหรือคนที่เรายกให้เป็น "วิมาน" อันแสนสุขของตัวเราเอง ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่คนอ่อนไหวง่ายแบบ ME จะเจ็บลึกด้วยหนามทุเรียนไปทั้งหัวใจพร้อม ๆ กับตัวละครในเรื่อง "ทุกคนเป็นสีเทาที่มีหนามติดตัวเพื่อป้องกันตัวเอง จึงบอกไม่ได้ว่าใครดีกว่าใคร"แน่นอนว่าหลังดูจบคงมีการพูดถึงเรื่องนี้ไม่น้อยว่า ตัวละครไหนดีกว่ากัน ใครแย่สุดในเรื่อง! สำหรับ ME มองว่าทุกตัวละครเป็นสีเทาเช่นเดียวกับเราทุกคน มีหนามรายล้อมตัวเองเพื่อปกป้องตัวเองให้ปลอดภัย เพื่อจุดหมายที่เรียกว่า "ความสุข" ดังนั้น ME ไม่ขอบอกว่าใครเป็นคนดีหรือคนเลว ใครน่าสงสารกว่ากันอันนี้อยากให้ทุกคนตัดสินด้วยตัวเองหลังดูจบจริง ๆ ค่ะ "ฉากอารมณ์ไม่แพ้ฉากดราม่า ขอชื่นชมเจฟและอิงฟ้าที่เล่นหนังแบบทุ่มสุดตัว"ขอปรับมือดัง ๆ ให้กับเจฟและอิงฟ้า ต้องบอกว่า ME ไม่เคยดูการแสดงของทั้งคู่เลย จึงดูด้วยหัวใจที่ไม่มีอคติใด ๆ จึงยอมรับได้จากใจจริงถึงความสามารถที่มากล้นของคนทั้งคู่ ไม่ว่าจะฉากร้องไห้หรือฉากอารมณ์ที่เหวี่ยงใส่กันด้วยลูกทุเรียนทั้งสวน ทำเอา ME ขนลุกไปกับพายุอารมณ์ลูกใหญ่ที่นักแสดงถ่ายทอดออกมาได้ถึงใจคนดูเอามาก ๆ "ไม่สามารถเดาอะไรจากหนังเรื่องนี้ได้ ทุกฉากพร้อมหักมุมให้คุณร้องว้าวอยู่ในใจเสมอ"ปกติแล้ว ME ติดนิสัยชอบเดาหนังไปก่อน เพราะเดาเรื่องไหนได้ก็จะไม่อยากดูหรือดูแล้วหมดสนุก แต่เรื่องวิมานหนามถือเป็นความเก่งกาจของผู้เขียนบทและผู้กำกับ ที่สร้างสรรค์เรื่องราวที่ยากจะเดานี้ได้อย่างละเอียด ลึกซึ้ง และดึงธาตุแท้ของมนุษย์เราออกมาได้แบบไม่ขาวหรือดำเกินไป ตลอดเรื่องมีการหักมุมที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอด หนังเรื่องนี้จึงไม่น่าเบื่อและออกจะสนุกเข้มข้นสุด ๆ ด้วยซ้ำ ไม่ทำลายวัตถุดิบหลักอย่าง "ทุเรียน" ที่เป็นอีกส่วนสำคัญในวิมานหนาม ME เป็นคนที่ไม่กินทุเรียนเลย เลยไม่มีความสนใจในเรื่องของทุเรียนแต่อย่างใด แต่หนังเรื่องวิมานหนามกับชูเรื่องราวของสวนทุเรียนออกมาได้อย่างน่าสนใจ ทุกขั้นตอนในการปลูกจนไปถึงการวางขายที่คนอย่าง ME เมินมาตลอด ตอนนี้กลับเปลี่ยนความคิดที่อยากจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนผลไม้ที่ต้องเลี้ยงดูด้วยชีวิตอย่างทุเรียนผ่านวิธีใดวิธีหนึ่ง และอีกอย่างที่ประทับใจมากคือการได้เห็นดอกทุเรียนดอกแรกบานเป็นอะไรที่รู้สึกซาบซึ่งอยู่ข้างในอย่างบอกไม่ถูก หรือแม้แต่ตอนที่ทุเรียนทิ้งลูกก็ทำเอา ME ใจสลายไปด้วยเสมือนกับว่าเราร่วมกันปลูกไปพร้อมกับเสกและทองคำ สุดท้ายนี้ ME เชื่อว่าทุกคนที่ไปดูเรื่อง วิมานหนาม (The Paradise Of Thorns) จะได้อะไรดี ๆ กลับบ้านไปอย่างแน่นอน ใครที่ไม่ชอบดูหนังไทย ME ก็อยากจะบอกว่าให้ลองเปิดใจเพราะในช่วงปี 2024 มานี้มีหนังไทยหลายเรื่องที่ก้าวข้ามอคติและเข้ามาครองใจคนดูได้หลายเรื่องเลยทีเดียว และหนึ่งในนั้นก็มีเรื่องวิมานหนาม (The Paradise Of Thorns) ที่ทำออกมาได้ดีจน ME มารีวิวให้กับเพื่อน ๆ ในบทความนี้ เครดิตรูปภาพและวิดิโอตัวอย่างหนังจากช่อง HOUSE SAMYANภาพปก จาก GDHภาพที่ 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 จาก GDHเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !