สวัสดีค่า วันนี้แมวง่วงขอนำเสนอซีรีส์จีนมาแรง "สุดท้ายคือเธอ" ซึ่งนำแสดงโดยนักแสดงดาวรุ่งแห่งยุคนี้ สวีข่าย และหยางจื่อ นั่นเองเจ้าค่ะสำหรับซีรีส์แนวปัจจุบันแมวง่วงไม่ค่อยได้มีโอกาสรับชมมากนัก เนื่องจากเนื้อเรื่องส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่ความรักหนุ่มสาวใสๆ แมวง่วงชอบแบบเข้มข้น ลุ้นระทึก ดูแล้วอินจัดๆ มากกว่า 555 แม้เรื่องนี้จะยังคงคอนเซ็ปความเป็นซีรีส์ความรักใสๆ เน้นหนักไปทางครอบครัว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้ ทำเอาแมวง่วงเสียน้ำตาให้ไปเยอะอยู่ เพราะเนื้อเรื่องอิงอยู่บนความเป็นจริงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะสำหรับใครที่อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นจนร้อน ดูแล้วจะอินเป็นพิเศษซีรีส์เรื่องนี้เต็มไปด้วยความรักหลากรูปแบบ ทั้งครอบครัว มิตรสหาย คนรัก เพื่อนร่วมงาน หลายๆคนได้ดูอาจจะรู้สึกว่าบางฉากนี่ เหมือนกับเรื่องที่ฉันเคยเจอเลย เรื่องราวบอกเล่าชีวิตของม่ายเฉิงฮวน (หยางจื่อ) ลูกสาวคนโตของตระกูลม่าย ที่โชคชะตานำพาให้มาพบกับ เหยาจื้อหมิง (สวีข่าย) ผู้เป็นเจ้านายใหม่พ่วงตำแหน่งหลานชายแท้ๆของคุณย่าเลี้ยง ผู้เป็นที่รักของเธอ ตลอดเรื่องจะเป็นการสู้ชีวิตของนางเอกที่ทุ่มเทชีวิตให้การทำงาน เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของครอบครัว ท่ามกลางปัญหาที่เข้ามา ทั้งปัญหาที่ทำงาน และในครอบครัวของเธอเอง เรื่องนี้ให้ข้อคิดเราได้ดีมากในเรื่องการบริหารความสัมพันธ์กับคนรอบตัว โดยเฉพาะคนในครอบครัว ซึ่งบ่อยครั้งเราใกล้ชิดกัน แต่มักไม่ค่อยสื่อสารกัน ต่างฝ่ายต่างทุ่มเทความรักและความปรารถนาดีของตัวเองให้อีกฝ่าย แต่พอไม่ได้สื่อสารกัน จึงไม่ได้รับรู้และมองเห็นความรู้สึกที่แท้จริงของอีกฝ่าย ทำให้เกิดปัญหา ฝ่ายให้ก็น้อยใจที่อีกฝ่ายไม่เห็นค่า ผู้รับที่ไม่ต้องการก็รู้สึกอึดอัด ดังนั้นการสื่อสารกันในครอบครัวอย่างตรงไปตรงมา จะช่วยให้ครอบครัวเข้าใจกันและกัน และสนิทกันมากขึ้นสนิทแค่ไหนก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัว ในเรื่องเราจะมองเห็นครอบครัวที่สนิทกันมากๆครอบครัวหนึ่ง ที่ทุกคนมีกันและกันอยู่ตลอด กระนั้นความเคารพในพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคนก็เป็นสิ่งจำเป็น การเว้นว่างไม่ได้ทำให้รักกันน้อยลง แต่กลับเป็นพื้นที่เล็กๆ ให้ใช้ชีวิตของตัวเอง และใจดีกับตัวเองได้บ้างพึ่งพาตัวเองจนบรรลุถึงสิ่งที่ต้องการได้ เป็นเรื่องดีและนำพาความสุขมาให้ แต่การมีคนข้างๆคอยแบ่งปัน ก็ทำให้ชีวิตเป็นชีวิตมากขึ้นและไม่อ้างว้างจนเกินไปนะ "กินข้าวคนเดียว เรียกว่ามีชีวิต กินข้าวกับคนอื่น เรียกว่าใช้ชีวิต"สิ่งที่ดึงดูดให้เรื่องนี้เข้ามาอยู่ในความสนใจของแมวง่วง แน่นอนว่าเป็นนักแสดงชั้นแนวหน้า อย่างหยางจื่อและสวีข่ายนั่นเอง ขอพูดถึงหยางจื่อ นางเอกของเราผู้รับบท ม่ายเฉิงฮวน พี่สาวคนโต นางแบกของครอบครัว ใครๆก็คาดหวังในตัวเธอ รวมถึงตัวเธอเองด้วยไม่ว่าปัญหาอะไรจะเข้ามา การมองโลกในแง่ดีและพลังใจของเธอก็เอาชนะได้เสมอ ไม่ต้องสงสัยในฝีมือการแสดงของเธอเลย เพราะรับบทนำในซีรีส์ชื่อดังมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง เอาอยู่ทุกฉาก โดยเฉพาะซีนอารมณ์ที่ทำได้ดีมากๆ จนแมวน้อยๆอดเสียน้ำตาตามไม่ได้ บทเขินก็น่ารักมากๆ สำหรับสวีข่าย เจ้าของบทบอสหน้านิ่ง เหยาจื้อหมิง ก็ทำได้ดีไม่ผิดหวังเลย ตอนแรกมีมาดดูเก๊กๆ พอบทจะรักขึ้นมาสีหน้าแววตาอบอุ่นอ่อนโยนไม่ไหว อยากมีเหยาจื้อหมิงเป็นของตัวเอง ในบทได้กำหนดให้เขาต้องกลับจากต่างประเทศมาดูแลคุณย่า ผู้เป็นเจ้าของโรงแรมซิ่งอันหลี ที่เขาหมายตา สุดท้ายด้วยความใกล้ชิดกับย่าในช่วงนี้ ทำให้เขาได้เข้าใจชีวิต ที่ไม่ได้มีแต่ผลประโยชน์ และคำว่าครอบครัวที่เขาไม่เคยได้สัมผัส ความรักของสาวจากครอบครัวอบอุ่นเกินไปกับชายผู้ไม่เคยสัมผัสความอบอุ่น ก็ได้บังเกิดขึ้นและเติมเต็มซึ่งกันและกันได้พอดีอีกบทบาทหนึ่งที่ชอบคือคุณย่า รับบทโดยหวู่ หยานซู อยากแก่ไปมีชีวิตแบบนี้ 555 สำหรับเราคุณย่าเป็นคนแก่คูลๆ ที่มีกินมีใช้ อยู่ดีกินดี แต่จากเรื่องเราจะรู้ว่าคุณย่าผ่านอะไรในชีวิตมาเยอะมาก กว่าจะมีจิตใจที่ปล่อยวาง และมีความสุขได้ รู้ทันลูกหลาน เราชอบตอนที่เนื้อเรื่องเฉลยเหตุผลการยกมรดกตามพินัยกรรมของคุณย่า ผ่านจดหมายที่เขียนให้เหยาจื้อหมิง มีความรู้สึกว่าคุณย่าจัดแจงให้ทุกคนได้ในสิ่งที่เหมาะสมและมีความหมายต่อชีวิตของคนๆนั้น ตรงนี้ลึกซึ้งมากๆ อยากให้ทุกคนได้ฟังกัน สิ่งสำคัญอยู่ที่ความหมายต่อชีวิตไม่ได้อยู่ที่มูลค่าจริงๆบทบาทสำคัญที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยอีกบทบาทหนึ่งคือ บทบาทของหลิวหว่านอวี้ แม่ของม่ายเฉิงฮวน รับบทโดย เหอไซ่เฟย บางคนอาจรู้สึกหงุดหงิด หรือไม่ประทับใจบทบาทนี้มากนัก เพราะบางครั้งการกระทำของแม่ก็ทำให้นางเอกของเราลำบากใจอยู่เสมอ แต่ถ้าเราได้วิเคราะห์บทบาทนี้ดีๆ เราจะพบว่า เบื้องหลังการกระทำของแม่ล้วนมาจากปมในใจของแม่ที่ผ่านประสบการณ์ของตัวเองมา และคิดเพื่อครอบครัวอยู่เสมอ ตามแบบฉบับความเป็นภรรยาที่ดีในความเชื่อของสังคมในสมัยก่อน โดยไม่ได้คิดถึงความชอบ และตัวตนของตัวเอง ในตอนท้ายของเรื่อง แม่ก็ได้สอนให้เราได้ใช้ชีวิตเพื่อตัวเองบ้างนอกจากความรักรูปแบบต่างๆที่น่าประทับใจแล้ว แมวง่วงชอบมิติและลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันของตัวละคร ทุกคนมีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ทำให้การแสดงออก และปฏิบัติต่อคนอื่นๆแตกต่างกันไปด้วย เป็นความรักและความปรารถนาดีเหมือนๆกัน แต่มีหลายแบบเหลือเกิน และแต่ละคนก็ตอบสนองต่อความรักแต่ละแบบต่างกัน ตรงนี้ทำให้เรารู้สึกได้เปิดใจตัวเองให้กว้างขึ้น และไม่ตัดสินใครด้านเดียว ยิ่งรักกันยิ่งต้องสื่อสารกันสรุปก็คือ เป็นซีรีส์แนวครอบครัว ที่ทำให้เราฉุกคิดและได้แบ่งความสนใจจากตัวเองและการงานไปมองคนข้างๆ นานแค่ไหนแล้วที่เรากับครอบครัวไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากันพูดคุย ทานข้าว รับฟังความคิดเห็นของกันและกัน รวมทั้งแสดงความรู้สึกของตัวเองให้อีกฝ่ายได้รู้ แมวง่วงเชื่อว่า เรื่องนี้จะตรงกับชีวิตของใครหลายๆคน และทำให้เราได้มองเห็นคุณค่าของคนที่อยู่ข้างๆจนอยากกลับบ้านไปกอดเขาแน่นๆรับชมได้ทาง Application WeTV มี 38ตอนจบนะเจ้าคะ ขอให้ทุกท่านมีหัวใจที่อบอุ่น ใช้เวลาที่มีค่าในการดูแลตัวเองและคนที่รักท่าน รับชมซีรีส์ด้วยความเบิกบานผ่อนคลายนะเจ้าคะขอบคุณภาพประกอบจาก Facebook page WeTV Thailand : ภาพปก ตกแต่งโดย Photoshop CS3และภาพประกอบจาก Facebook page WeTV เจ้าค่ะ: ภาพที่1, ภาพที่2, ภาพที่3, ภาพที่4, ภาพที่5, ภาพที่6คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง เพลงดังฟังไม่หยุด ศิลปินหน้าใหม่โดนใจ หวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน