ใครกำลังหาซีรีส์เกาหลีดูต้องห้ามพลาดซีรีส์เรื่องนี้เลย It's Okay To Not Be Okay ที่ฉายบน Netflix แต่ขอบอกก่อนว่า ซีรีส์เรื่องนี้แต่ละตอนค่อนข้างนานประมาณเกือบชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียว แต่การดำเนินเรื่องกลับน่าติดตามเลยทีเดียวการกลับมาครั้งนี้ของคิมซูฮยอนนับว่าประสบความสำเร็จเลยทีเดียวกับบท มุนคังแท เจ้าหน้าที่แผนกจิตเวชที่มีพี่ชายเป็นออทิสติกอย่างมุนซังแท (รับบทโดย โอ จองเซ) และในแต่ละวันของเขาต้องคอยรับมือกับผู้ป่วยจิตเวชที่มีความหลากหลาย บทของมุนคังแทน่าอึดอัดไม่น้อย ตอนช่วงแรกเราเห็นสิ่งที่มุนคังแททำอาจจะคิดว่านั่นคือตัวตนของเขา แต่ยิ่งดูไปเรื่อยๆ เขากลับเริ่มค่อยๆ เผยตัวตนที่แท้จริงของเขาออกมาเรื่อยๆจนทำให้เราอดที่จะรู้สึกสงสารตามไปด้วยไม่ได้ถ้าพูดถึงพระเอกไปแล้ว คงจะไม่พูดถึงนางเอกอย่างซอเยจี ที่มารับบท โกมุนยอง ไม่ได้ โกมุนยองเป็นคนมีชื่อเสืองจากการเป็นนักเขียนหนังสือนิทาน แต่ภายในจิตใจของเธอกลับมีแต่ความเจ็บปวดที่เกิดจากครอบครัวของเธอตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กจนกลายเป็นโรคต่อต้านสังคม โกมุนยองภายนอกอาจจะดูเป็นคนที่ไม่น่าเข้าใกล้ เห็นแก่ตัว หยาบคาย หยิ่งยโสไม่เห็นหัวใครทั้งนั้น แต่ภายในเธอกลับอ่อนแอได้อย่างน่าสงสารการเชื่อมโยงนิทานเข้ากับซีรีส์มันก็ทำให้เห็นมุมมองอีกด้านของนิทานที่ตอนจบล้วนแล้วแต่มีความสุข แต่ก่อนที่จะมีความสุขตัวเอกกลับต้องเจอเรื่องน่าเจ็บปวด เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เหมือนอย่างซีรีส์เรื่องนี้ที่แสดงให้เห็นว่าทุกคนล้วนแล้วแต่มีสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในใจของตัวเองทั้งนั้น ทุกคนต่างหาหนทางเพื่อเอาตัวรอด ถึงแม้จะแตกต่างกันที่วิธีแสดงออกก็ตาม สิ่งที่คนเราต้องพบเจอล้วนแล้วแต่แตกต่างกัน ถึงแม้จะเป็นพี่น้องกันก็ตาม สิ่งที่ได้รับก็ไม่เหมือนกัน สิ่งเหล่านี้ล้วนหล่อหลอมคนหนึ่งให้เติบโตขึ้นมาทั้งสิ้นถ้าดูแล้ววิเคราะห์ไปด้วยจะเห็นว่าซีรีส์เรื่องนี้สอนการใช้ชีวิตได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเอาชนะความกลัวในจิตใจด้วยตัวเอง ไม่มีใครจะช่วยเราได้ดีที่สุดเท่ากับตัวเองอีกแล้ว เรื่องการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่หล่อหลอมเด็กคนหนึ่งให้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ เราคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องที่ทำให้คนคนหนึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากมายสุดท้ายนี้ถ้าอยากได้ซีรีส์เยียวยาหัวใจก็ขอแนะนำซีรีส์ It's Okay To Not Be Okay เลยค่ะ รับรองคุณจะไม่ผิดหวังภาพประกอบ : imdb