รีเซต

มงคลซีนีม่า ชวนคนรักหนังร่วมอำลาโรงภาพยนตร์ ลิโด ในวันสุดท้ายก่อนปิดกิจการด้วย 2 ภาพยนตร์คุณภาพเรียกน้ำตา Tonight,at Romance Theater และ Kids on the Slope

มงคลซีนีม่า ชวนคนรักหนังร่วมอำลาโรงภาพยนตร์ ลิโด ในวันสุดท้ายก่อนปิดกิจการด้วย 2 ภาพยนตร์คุณภาพเรียกน้ำตา  Tonight,at Romance Theater และ Kids on the Slope
Somprasong Kongtrawonkusakun
18 พฤษภาคม 2561 ( 15:33 )
977

ครั้งสุดท้ายที่เราจะได้ดูหนังที่โรงภาพยนตร์ ลิโด ด้วยกัน มงคลซีนีม่า ชวนคนรักหนังร่วมอำลาโรงภาพยนตร์ ลิโด ในวันสุดท้ายก่อนปิดกิจการ ด้วย 2 ภาพยนตร์คุณภาพเรียกน้ำตา Tonight ,at Romance Theater รักเรา จะพบกัน ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดถึง เรื่องรักโรแมนติกของคู่รักที่สัมผัสตัวกันไม่ได้ เพราะนางเอกเป็นตัวละครที่หลุดออกมาจากภาพยนตร์ขาวดำ อีกทั้งตัวหนังยังสะท้อนถึง เรื่องราวยุคล่มสลายของภาพยนตร์และโรงหนังเก่าเมื่อคนส่วนใหญ่ หันมาดูโทรทัศน์แทนภาพยนตร์ และ KIDS ON THE SLOPE เพลงแรก รักแรก จูบแรก ภาพยนตร์แนว คัมมิ่ง ออฟ เอจ ที่พูดถึง มิตรภาพ ความฝัน และรักแรก ความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตในช่วงเวลาของวัยรุ่น ที่ได้ 3 นักแสดง สุดฮอตแห่งยุค นานะ โคมัตสึ , จิเน็น ยูริ , ไทชิ นาคากาวะ นำแสดง

สำหรับ กิจกรรม Farewell to our theater เริ่มเปิดขายบัตร วันที่ 19 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 10:00 น. เป็นต้นไปที่โรงภาพยนตร์ LIDO ชมภาพยนตร์วันที่ 31 พ.ค. จัดฉาย Tonight at Romance Theater รอบเวลา 18:45 น. Kids on The Slope รอบเวล 20:45 โดยทุกที่นั่งจะได้รับโปสเตอร์จากภาพยนตร์ และลุ้นรับ T-shirt ลิขสิทธิ์ พร้อมร่วมถ่ายภาพกับเหล่าพนักงานสุภาพบุรุษในสูทเหลือง และ มอบของ ที่ระลึกให้กับ พวกเขา โดยผู้ที่ซื้อบัตรชมภาพยนตร์ในรอบเวลาดังกล่าว สามารถนำบัตรมาแลกรับโปสเตอร์ในวันที่ 31 พฤษภาคม ได้ตั้งแต่เวลา 17:00 ที่โต๊ะลงทะเบียน บริเวณหน้าโรงภาพยนตร์ลิโด 2 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-252-6498

โรงภาพยนตร์ลิโด เปิดฉายภาพยนตร์ครั้งแรก เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2511 ด้วยภาพยนตร์เรื่อง ศึกเซบาสเตียน (Games For San Sebastian) ในตอนนั้น ลิโด เป็นโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ความจุ 1000 ที่นั่ง หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ ในวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2536 โรงภาพยนตร์ลิโด จึงก่อสร้างปรับปรุงใหม่ เป็นโรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก (มัลติเพล็กซ์) จำนวน 3 โรง ความจุรวม 633 ที่นั่ง

และเปิดทำการอีกครั้ง ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2537 ต่อมาราวปี พ.ศ. 2544 โรงภาพยนตร์ทั้งสามแห่ง ทยอยติดตั้ง ระบบเสียง เซอร์ราวด์ ดอลบี ดิจิตอล รวมทั้งทยอยติดตั้ง ระบบปรับอากาศโอโซน เพื่อฟอกอากาศให้บริสุทธิ์สดชื่น นอกจากนี้ โรงภาพยนตร์ทั้งสามแห่ง ยังเปิดพื้นที่ใต้ถุนโรงภาพยนตร์ โดยแบ่งเป็นห้องเล็กๆ ให้ผู้ประกอบการรายย่อย เช่าเปิดเป็นร้านค้าต่างๆ โดยส่วนมากจะจำหน่ายเสื้อผ้า และเครื่องประดับตามแฟชั่น อนึ่ง เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เมื่อกำลังทหารพร้อมอาวุธสงครามและรถหุ้มเกราะ เข้าสลายการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บริเวณแยกราชประสงค์จนกระทั่งแกนนำ นปช.ต้องประกาศยุติการชุมนุม และเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากนั้นเกิดการจลาจลขึ้นทั่วกรุงเทพมหานคร โดยในเวลาบ่าย มีกลุ่มบุคคลเข้าวางเพลิงอาคารโรงภาพยนตร์สยาม แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าดับเพลิงได้ เนื่องจากมีการใช้อาวุธปืน ยิงผ่านไปมาบริเวณที่เกิดเหตุตลอดเวลา จึงเป็นภาวะที่มีความไม่ปลอดภัย จนกระทั่งอาคารเริ่มทรุดตัวและพังถล่มลงมา ในเวลา 15.45 น. ทั้งนี้ ภาพยนตร์เรื่อง มหาประลัย คนเกราะเหล็ก 2(Iron Man 2) เป็นเรื่องล่าสุดที่เข้าฉาย ก่อนโรงภาพยนตร์สยาม จะเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ โดยปัจจุบันที่ดินอันเป็นที่ตั้งของโรงภาพยนตร์ได้ถูกสำนักทรัพย์สินแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนำไปก่อสร้างใหม่เป็น ศูนย์การค้าสยามสแควร์วันเนื่องจากคาบเกี่ยวกับช่วงที่สัญญาเช่าที่ดินได้สิ้นสุดลงพอดี รวมถึงสัญญานี้ได้ครอบคลุมพื้นที่ของโรงาพยนตร์ ลิโด ด้วย 31 พฤษภาคม 2561 จึงถือเป็นการ ปิดตำนาน โรงภาพยนตร์อินดี้ของคนรักหนังที่มีอายุยาวนานกว่า 50 ปี ลงอย่างแท้จริง