ลงสตรีมใน Netflix ครบทั้ง 8 ตอนจบแล้วสำหรับซีรีส์ไทยแนวดรามา-ครอบครัว ที่ดำเนินเรื่องในปีสุดท้ายของยุค 90 อย่าง 'Analog Squad ทีมรักนักหลอก' ผลงานกำกับการแสดงและร่วมเขียนบท โดย ต้น นิธิวัฒน์ ธราธร ที่เคยฝากผลงานภาพยนตร์แนวฟีลกู๊ดสุดปังอย่าง Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย, หนีตามกาลิเลโอ และคิดถึงวิทยา หากพร้อมแล้วเราขอเชิญทุกคนมาสัมผัสบรรยากาศของประเทศไทยในปี 1999 และ ความดรามาที่ผสมผสานความฟีลกู๊ดและการฮีลใจได้ในซีรีส์ค่ะเรื่องย่อhttps://www.youtube.com/watch?v=m6KAeB8Or10&t=76s ช่วงปลายปี 1999 ก่อนเปลี่ยนศักราชใหม่ 'ปอนด์' ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านที่พังงาอีกครั้งในรอบ 20 ปี เพราะทราบข่าวจากเพจเจอร์ว่าพ่อป่วยหนัก เขาไม่กลับบ้านอีกเลยหลังจากทะเลาะและผิดใจกับพ่อครั้งใหญ่ การกลับบ้านครั้งนี้ปอนด์พาลูกและเมียกลับมาเยี่ยมพ่อแม่ด้วย โดยทั้ง 3 คนประกอบด้วย 'ลิลลี่', 'บุ้ง' และ 'เก๊ก' ล้วนเป็นทีมงานที่เขาว่าจ้างให้มาเล่นละครตบตา สวมบทเป็น 'แหม่ม', 'แม็ก' และ 'ม่อน' เพราะเมียเก่าของปอนด์ได้เลิกราและพาลูกทั้ง 2 หนีไปจากเขานานแล้ว จากช่วงแรกที่คิดว่าเป็นแค่ Job เล็ก ๆ ทำไม่กี่วันได้เงินโคตรดี แต่ยิ่งนานวันเข้า พวกเขากลับผูกพันกันมากขึ้น จนยากจะถอนตัว ท้ายที่สุดความสัมพันธ์ของครอบครัวกำมะลอจะลงเอยอย่างไรรับชมภารกิจการโกหกที่ต้องทำเพื่อเยียวยารักษาจิตใจของคนในครอบครัวได้ใน 'Analog Squad ทีมรักนักหลอก' นักแสดงหลักปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม รับบทเป็น 'ปอนด์' หนุ่มใหญ่วัยกลางคนที่ชีวิตครอบครัวพังทลาย มิหนำซ้ำยังถูกวิฤตต้มยำกุ้งปี 2540 เล่นงานกับชีวิตหนักมากถึงขั้นต้องติดคุกและสิ้นเนื้อประดาตัว ปอนด์เป็นผู้ริเริ่มแผนการทุกอย่าง เพราะต้องการให้ครอบครัวเห็นว่าเขายังมีชีวิตที่ดีอยู่ ในอดีตปอนด์เคยหนีคดีอยู่เป็น 10 ปี เขาทะเลาะกับพ่ออย่างหนัก ปอนด์ไม่เข้าใจและต่อต้านวิธีการช่วยเหลือของพ่อ ปอนด์คิดไปเองอยู่เสมอว่าพ่อคิดว่าเขาโกหก พ่อไม่เคยเชื่อใจเขาเลยตัวละครนี้มีชีวิตแบบขึ้นสุดลงสุดอยู่เสมอ ชีวิตเจอแต่ความพลิกผัน ตั้งแต่ตอนวัยรุ่นที่ความคึกคะนองนำปัญหาและคดีความมาสู่ชีวิต มันคือสารตั้งต้นที่ทำให้ปอนด์ใช้การโกหกเพื่อเอาชีวิตรอด พอเขาถึงวัยสร้างครอบครัวปอนด์ก็ทำมันพังอีกครั้ง เพราะการต้องอยู่แบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ เป็นคนหนีคดี แม้กระทั้งช่วงที่เขาพาครอบครัวกำมะลอกลับไปเจอที่บ้านอีกครั้ง ปอนด์ก็ยังต้องคอยปิดบังปัญหาส่วนตัวเอาไว้ เขาคิดว่าจะจัดการด้วยตัวเองด้วยการหนีหายไปคนเดียว ไม่อยากทำให้ใครเดือดร้อน แม้บางวิธีการจะดูเป็นคนใจร้ายในสายตาคนอื่นแต่เขาก็ยอมปีนี้ผู้เขียนดูผลงานการแสดงของพี่ปีเตอร์มาหลายเรื่อง หลายคาแรคเตอร์มาก สำหรับเรื่องนี้พี่เขาก็ทำให้เราอินไปบท 'ปอนด์' จนลืมภาพจำในเรื่องอื่น ๆ ฉากแสดงความ Loser ทำได้ดีดูตกต่ำแต่ก็ยังมีบารมี ความเป็นนักสู้แฝงอยู่ ฉากที่ต้องแสดงความเลือดเย็นก็นิ่งดี ดูเหมือนไม่รู้สึกอะไรแต่แววตาบอบช้ำสาหัส ฉากดรามาระเบิดอารมณ์ก็ทำได้ดีเช่นเดิมหมายเหตุ : เอม ถาวรศิริ มารับเชิญเป็น 'ปอนด์' ตอนวัยรุ่นด้วยนะ มาน้อยแต่ได้ซีนไปอีกละหนุ่มคนนี้ น้ำฝน กุลณัฐ รับบทเป็น 'ลิลลี่' สาวใหญ่วัยย่าง 50 อดีตเธอเคยเป็นแฟนเก่าของปอนด์ ที่มูฟออนเป็นวงกลม ปัจจุบันเธอเป็นมะเร็งเต้านม เมื่อถูกลูกตื้อจากปอนด์บวกกับการปลงตก อยากใช้ช่วงเวลาบั้นปลายชีวิตทำประโยชน์ เธอจึงตัดสินใจรับงานนี้และช่วยปอนด์ออกค้นหานักแสดงอีก 2 คนมาทำให้แผนการสำเร็จตัวละคนนี้ออกแนวเจ๊ประจำกลุ่ม เป็นสาวใหญ่สายปาร์ตี้ที่ใช้ชีวิตได้สุดมาก เธอไม่เหลือใครในชีวิตอีกแล้ว ฟีลแบบขาดแรงจูงใจในการรักษาโรคเพราะไม่รู้จะอยู่ไปเพื่อใครลิลลี่ ต้องสวมบทเป็น แหม่ม เมียของปอนด์ คอยดูแลควบคุมการแสดงฉากใหญ่ครั้งนี้ไม่ให้โป๊ะเด็ดขาด ส่วนชีวิตคู่สามีภรรยา เธอก็ต้องขุดความรักครั้งยังรักกันดีกับปอนด์และการไม่มูฟออนของเธอมาทำให้การแสดงดูเป็นธรรมชาติถือเป็นการกลับมารับงานแสดงอีกครั้งในรอบ 3 ปี ของพี่น้ำฝน ที่ทำได้ดี ตัวบทมีสีสรรและมีความเป็นมนุษย์สูงมาก ในปี 42 ลิลลี่อายุจะ 50 แล้วแต่ยังปราดเปรียว ตัวแม่ตัวมัมอยู่เลย ความคิดความอ่านมาก่อนกาล เราดูแล้วไม่ได้รู้สึกว่าพี่เขาเป็นแม่นะ แต่ดูเหมือนเป็นอิเจ๊ของกลุ่มมากกว่า วัยรุ่น+สวยแซ่บ+เท่มาก ๆ การแสดงของน้ำฝนเป็นธรรมชาติ สำหรับเราที่ดูละครเขามาตั้งแต่ยังเด็ก บอกเลยว่าชอบบทนี้ค่ะ แปลกใหม่ดีเจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม รับบทเป็น 'เก๊ก' พนักงานหนุ่มคอลเซนเตอร์จากเพจเจอร์ เขาตัดสินใจรับงานของปอนด์ เพราะต้องการนำเงินที่ได้เป็นทุนย้ายประเทศไปอยู่อเมริกา เพราะเขาอึดอัดกับชีวิตที่ต้องเกิดมาเป็นลูกชายของดาวโป๊ เก๊ก ต้องสวมบทเป็น ม่อน ลูกชายคนเล็กของปอนด์ที่มีดีกรีเป็นถึงนักเรียนแพทย์ซึ่งไม่ง่ายเลย เพราะมันห่างไกลจากชีวิตจริงของเขาเจเจเล่นบทเก๊ก ได้น่ารัก ยียวน มีความกะล่อนนิด ๆ เป็นตัวสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และ เบรกความเครียดของเรื่องได้ดี ตัวละครนี้ก็มีฉากที่แสดงความซับซ้อนทางอารมณ์ เขาต้องคอยตบตาให้แม่เชื่อว่าเขายอมรับในสิ่งที่แม่เป็นได้ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ ข้างในใจอัดแน่นไปด้วยความอึดอัด ปริม พัทธ์ณศิริ รับบทเป็น 'บุ้ง' ลูกสาวเจ้าของร้านเช่าม้วนเทปวิดีโอ ที่หลงใหลในการแสดง เธอเป็นสมาชิกคนสุดท้ายที่เข้าร่วมแผนการของปอนด์ เพราะต้องการนำเงินไปซื้อรถยนต์คันใหม่ให้พ่อบุ้ง ต้องสวมบทเป็น แม็ก ลูกสาวคนโตของปอนด์ ที่เป็นแอร์โฮสเตส เป็นสาวเรียบร้อยซึ่งขัดกับบุคลิกจริงของบุ้งอย่างแรง เธอเป็นสาวห้าว แมน ๆ ลุย ๆ และมีรสนิยมชอบผู้หญิงสำหรับปริมมี่ที่ต้องแสดงบทนำในเรื่องนี้ก็ทำได้ดีเช่นกัน ตอนแรกตัวละครนี้ฟิลแบบทอมบอย สาวห้าวมาก ไม่มีความหวานเลย แต่พอได้มาใกล้ชิดกับเก๊ก ผ่านปัญหาและอุปสรรคมาด้วยกัน ทำให้เริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ ก็เริ่มเห็นจริตจะก้านความหวานน้ำตาลมิตรผล ตัวละครนี้ต้องมีแพสชั่นด้านการแสดงและมีความอาร์ต ความคูล ความเท่อยู่ในตัว ซึ่งเข้ากับบุคลิกของปริมมี่นะ ฉากดรามาสะเทือนอารมณ์ก็เล่นได้ดี ตอนแรกตัวละครนี้ภูมิหลังดีกว่าใครเพื่อน แต่ไป ๆ มา ๆ ชีวิตเธอก็หนักหนาสาหัสเหมือนกัน สุรสีห์ อิทธิกุล รับบทเป็น 'ปู่เขียว' พ่อของปอนด์ ซึ่งเปิดกิจการร้านถ่ายรูป ปู่เขียวเป็นคนตรง ๆ ชอบความจริง ชอบอะไรที่พิสูจน์ได้ มากกว่าจะมาช่วยปิดบังอำพราง บุคลิกเป็นคนที่ไม่แสดงออกมากเท่าภรรยา แต่เราเห็นอินเตอร์ความห่วงใย และพยายามประคับประคองครอบครัวให้อยู่รอดปลอดภัย ในเรื่องคุณปู่ต้องป่วยด้วย ก็คีพคาแรคเตอร์ได้ดีค่ะ ตอนเล่นเป็นพ่อของปอนด์ตอนวัยรุ่นก็เล่นได้แตกต่างจากการเป็นคุณปู่ค่ะ ตุ๊ก วิยะดา โกมารกุล ณ นคร รับบทเป็น 'ย่าสดใส' แม่ของปอนด์ เป็นคุณย่าที่สดใสสมชื่อ ชอบเสียงเพลง งานรื่นเริง การดื่มฉลอง เป็นเซฟโซนที่ดีของลูกหลานเธอรักและเข้าใจในตัวลูกชายคนเดียวอยู่เสมอ และช่วยลูกแบบตรง ๆ เป็นวิธีที่แสดงออกแบบชัดเจน ไม่ต้องต้องให้ปอนด์ไปตีความเป็นตุเป็นตะการแสดงของทั้งคุณตุ๊กและคุณสุรสีห์ ถ่ายทอดได้ดีทั้งตอนเป็นพ่อแม่และปู่ย่า ดูเป็นคนมีเมตตา เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกหลาน เป็นพระประจำบ้าน ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ลิลลี่ บุ้ง และ เก๊ก จะอินกับครอบครัวนี้มาก เราคนดูยังอินเลย อยากมีญาติผู้ใหญ่แบบนี้ ฮือ ๆ อ่อง กษาปณ์ จำปาดิบ รับบทเป็น 'รัก' พนักงานคอลเซ็นเตอร์รุ่นใหญ่ของเพจเจอร์ เป็นป๋ารักในสายตาของเก๊ก เพราะเขาเป็นทั้งเพื่อนร่วมงาน ที่ปรึกษาปัญหาชีวิต รวมถึงเพื่อนดื่มกิน จนทำให้เก๊กคิดว่าถ้ามีพ่อ เขาอยากมีพ่อแบบป๋ารักสำหรับเรื่องนี้เราชอบตรงที่นำดาวร้ายรุ่นใหญ่อย่างพี่อ่อง มารับบทเป็น ป๋ารัก เรามองว่าน่าสนใจมาก ๆ พี่เขาเล่นให้เราเชื่อว่าเขาเป็นเซฟโซนที่ดีของเก๊ก ตัวละครมีความอ่อนโยน อบอุ่นและให้ฟิลคุณพ่อท่านหนึ่งมาก ๆ ถือว่าดีค่ะ ให้พี่เขาได้พักจากบทร้ายหรือบทพ่อมดหมอผี มาเล่นเป็นคนปกติดูบ้าง โยโกะ ทาคาโน่ รับบทเป็น 'ปูเป้ ปารัช' อดีตดาวโป๊ชื่อดัง ที่ฝากผลงานการถ่ายแบบสุดเซ็กซี่ติดตาตรึงใจคุณผู้ชาย ปัจจุบันเธอแขวนนวมมาเปิดกิจการโฮสเทลอยู่ที่ถนนข้าวสาร ปูเป้ คือแม่แท้ ๆ ของเก๊ก เธอคิดไปเองอยู่ฝ่ายเดียวว่าลูกชายยอมรับในตัวตนของแม่และสิ่งที่แม่รักได้สำหรับพี่โยโกะ ดารานางแบบดังยุค 90 นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนได้มีโอกาสรับชมการแสดงของพี่เขา ถือว่าสื่ออารมณ์ได้ดี เล่นเนียนไปกับบทที่ได้รับ สำหรับดาราที่ห่างหายจากการแสดงไปนานถือว่าทำได้ดีค่ะ พิมฐา ฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล รับบทเป็น 'แม็ค (ตัวจริง)' เธอเคยมาพังงาและเจอปู่ย่าแล้วเมื่อครั้งเป็นเด็ก เมื่อพ่อต้องหนีคดีและอยู่อย่างหลบซ่อน ๆ จึงทำให้แม่ตัดสินใจพาเธอและน้องชายหนีไปจากพ่อ เพื่อชีวิตความเป็นที่อยู่ที่ดีขึ้นแหม่ม (ตัวจริง) พยายามปิดบังและทำให้ลูก ๆ คิดว่าปอนด์ลืมพวกเขาไปหมดแล้ว ความจริงที่เธอพึ่งรู้ก่อนถึงงานวิวาห์ของตน ทำให้แม็กตัดสินใจกลับมาพังงาอีกครัังเพื่อตามหาพ่อและพาพ่อไปงานแต่งของเธอให้ได้มาถึงพิมฐา ที่อยู่ ๆ ก็โผล่มาเซอร์ไพรส์ผู้ชมในเรื่อง ถือว่าขโมยซีนพอสมควร บุคลิกรูปร่างและความเป็นพิมฐาช่วยเสริมให้อินกับบทแม็ก มาก ๆ ค่ะ ฉากดรามา ดูแล้วอินตาม ร้องไห้ได้สวย+น่าสงสารมาก ๆ ดูแล้วใจจะขาดตาม ประเด็นที่น่าสนใจการโกหกเพื่อเยียวยารักษาจิตใจ ถือว่าเป็นประเด็นหลักในซีรีส์ทุกตัวละครล้วนมีเรื่องที่ต้องโกหกปิดบัง เพื่อรักษาความสัมพันธ์และทำให้อีกฝ่ายสบายใจ ซึ่ง 'ความจริง 'เป็นสิ่งที่ดีแต่บางครั้งความจริงก็เจ็บปวดเกินไปสำหรับใครหลายคน การโกหกจึงเกิดขึ้นเพื่อปิดบาดแผลที่ปวด ถือว่าเล่นประเด็นนี้ได้ดี เผยให้เห็นทั้ง 2 มุม แล้วให้ผู้ชมพิจารณาว่าทางไหนคือทางที่ถูกและควร แต่ที่แน่ ๆ หากเราได้ลองโกหกแล้วครั้งหนึ่งมันก็จะต้องมีเรื่องให้ต้องโกหกอยู่เรื่อย ๆ เพื่อกันโป๊ะแตกเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว ซี่งสะท้อนออกมาผ่าน 3 ครอบครัว ดังนี้ครอบครัวของปอนด์ ความสัมพันธ์แบบที่ทัศนคติของพ่อและลูกไปกันคนละทาง พ่อมีคุณธรรมประจำใจเยอะเกินไป ในขณะที่ลูกทำได้ทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดของตน ครอบครัวนี้มีหลายสิ่งที่ไม่ได้แสดงออกมา ไม่บอกกันหลายเรื่อง จนเกือบสายไป ถือเป็นบทเรียนสอนใจว่าเวลาอยากทำอะไรให้รีบทำครอบครัวของเก๊ก ที่โตมากับแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เป็นอดีตดาวโป๊ชื่อดัง เขาเก็บความลับและเล่นละครตบตาแม่มาตลอด ว่ายอมรับแม่แบบนี้ได้ แต่จริงแล้วเก๊กฝืนทน จริง ๆ เขาอยากหนีไปจากที่นี่ใจจะขาด ถ้าเขายอมบอกแม่ตรง ๆ ตั้งแต่แรก ทั้งสองคงมีทางออกที่ดีครอบครัวของบุ้ง ที่ดูปกติสุดแล้วในช่วงต้น แต่...ก็จะมีปมบางอย่างแฝงเอาไว้ ทำให้บุ้งต้องก้าวข้ามผ่าน ซึ่งเป็นเรื่องทดสอบจิตใจและสั่นคลอนศีลธรรมและสถาบันครอบครัวอย่างมาก ซึ่งเธอต้องใช้บทเรียนที่ได้จากบ้านของปอนด์มาแก้ไขปัญหาชีวิตตัวเองจากการดูชีวิตของทั้ง 3 ครอบครัวแล้ว ผู้เขียนมองว่า คนที่คุยยากที่สุดคือคนในครอบครัวนี่แหละ แต่ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น แค่ต้องใช้เวลาเยียวยารักษาใจความประทับใจในซีรีส์ทีมนักแสดงเคมีเข้ากันมาก ถือเป็นการแคสติ้งที่ดี เข้ากับบทที่ได้รับ แต่ละคนเล่นเนียนไปกับบทที่ได้รับ ที่สำคัญเรื่องนี้มีนักแสดงมารับเชิญเป็นกิมมิกกิมใจอยู่หลายคนนะ ที่จำได้ม ต่าย ชุติมา, ปิ๊ง อดิสร, ไก่ กนกวรรณ, เอม ถาวรศิริ ภูมิ รังษีธนานนท์, แจ็ค กิตติศักดิ์และ ไมล์ ณกรณ์ ลูกชายพี่อ่องมารับบทเป็นป๋ารักตอนหนุ่มด้วย มีลูกเล่นสุด งานโปรดักชัน เลือกโลเคชันได้สวยงามมีความวินเทจ ที่เราชอบคือ ร้านเช่าวิดีโอของบุ้ง, ร้านถ่ายรูปของปู่เขียว และจังหวัดพังงา สวยงาม สงบ และวิวทะเลดีมาก ๆ การดำเนินเรื่องช่วงแรกยังดูเนือย ๆ เน้นให้รายละเอียด ให้เราเรียนรู้และซุึมลึกไปกับตัวละคร แต่หลังจากครอบครัวกำมะลอแยกย้ายกลับกรุงเทพ ตอนต่อจากนี้คือพีกและไต่ระดับความสนุกจนทำให้เราดูรวดเดียวจบได้อุปกรณ์ประกอบฉาก ชอบเพจเจอร์ ซึ่งเป็นพร็อพหลักของเรื่อง รวมทั้งอาชีพของเก๊กที่เป็นคอลเซ็นเตอร์ถ่ายทอดออกมาดูน่าสนใจ ดูเป็นยุค 90 มาก ๆ เราชอบนะการสื่อสารในสมัยนั้นรวมทั้งตู้โทรศัพท์สาธารณะ การใช้โทรศัพท์บ้านติดต่อกันด้วย ท้ายเรื่องก็แสดงการเปลี่ยนผ่านได้ดี ช่วงท้ายโทรศัพท์มือถือแบบพกพาเริ่มมาละภาพรวมของซีรีส์ถือว่าซีรีส์ 'Analog Squad ทีมรักนักหลอก' เป็นซีรีส์ดี ๆ อีกเรื่องหนึ่งของไทยที่ส่งท้ายปี 2566 ได้แบบสุดปัง ดูแล้วรู้สึกฮีลใจ ยิ้ม หัวเราะ ลุ้นระทึก และเสียน้ำตาไปเยอะเหมือนกันนะ รู้สึกผูกพันกับตัวละครในเรื่องและอินไปกับเนื้อเรื่อง ส่วนตอนจบก็จบได้เป็นชีวิตมนุษย์จริง ๆ เพราะอย่างที่บอกทุกอย่างต้องใช้เวลา เป็นซีรีส์อีกเรื่องที่อยากให้ดูกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวและดูในเดือนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ค่ะ ให้คะแนนภาพรวมของซีรีส์เรื่องนี้ 9/10 คะแนน เครดิตภาพหน้าปก ออกแบบโดย canvaภาพพื้นหลังหน้าปก Netflix : ภาพที่ 1ภาพประกอบหน้าปก Netflix : ภาพที่ 1 ภาพประกอบเนื้อหา Netflix : ภาพที่ 1/ ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 / ภาพที่ 10ลิงก์คลิปวิดีโอประกอบเนื้อหา Netflix Thailand : คลิปที่ 1 คอมมูนิตี้ “โลกคนรักหนัง” ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน