ขอเกริ่นด้วยคำว่า Dark Universal กันซะหน่อยครับ เดิมทีเนี่ยมันเป็นชื่อโปรเจคร่วมของเหล่าตัวละครคลาสสิก น่าสยองขวัญที่จะนำมาเชื่อมกันเป็นจักรวาลเดียวในค่ายของ Universal ซึ่งจะประกอบไปด้วยตัวละครอย่าง The Mummy Dracula Frankenstein รวมไปถึงมนุษย์ล่องหนหรือ Invisible Man นี้ด้วยครับ ก็อย่างที่รู้กันครับจากความล้มเหลวของ The Mummy ทำให้ Project นี้เนี่ยต้องล้มพับกลับไปอย่างไม่ทันจะได้เกิด ทั้ง ๆ ที่ค่ายเนี่ยมีการวางตัวนักแสดงทั้งหมดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลังจากที่เห็นแบบนั้นแล้วเนี่ย ผมก็ไม่ได้คิดหรือว่าหวังนะครับว่าชาตินี้จะได้ดูหนังจากซีรีย์เหล่านี้อีก จนกระทั่งข่าวที่ Blumhouse ครับได้เข้ามารับไม้ต่องานที่ Universal ทำไม่สำเร็จครับ พอกันทีกับหนังรวมจักรวาล Blumhouse ดัดแปลงจากหนังฟอร์มยักษ์ให้กลายมาเป็นหนังสยองทุนต่ำตามสไตล์ที่ถนัด ได้ยินข่าวนี้แล้วเนี่ยผมก็หูผึ่งเลยแหละครับ อย่างที่เคยบอกไปหนังแนวที่ผมชอบนี่ก็คือหนังสยองขวัญนี่แหละครับ ยิ่งได้มีดีอย่าง Blumhouse แล้วนะครับ ยิ่งคาดหวังมากขึ้นไปอีกครับ แต่ข้อสงสัยก็คือมันจะเป็นหนังแบบไหนกันแน่ แบบยุคแรกของค่ายหรือเปล่า ตัวผมต้องขอสารภาพเอาไว้ตรงนี้เลยนะครับ ว่าผมยังไม่เคยดู Invisible Man สักเวอร์ชั่นเลยครับ ความรู้เรื่องของไอ้มนุษย์ล่องหนคนนี้เนี่ยมันน้อยเสียเหลือเกิน เคยจำได้ลาง ๆ ครับว่าเคยดูละครสมัยเด็ก ๆ เป็นละครไทยครับที่มีคนล่องหนได้ ผ่านตู้ทดลองอะไรประมาณนี้แหละครับ ถ้าเกิดว่าจำไม่ผิดนะครับ แต่คิดไม่ออกเหมือนกันว่าเรื่องอะไร น่าจะเป็น 10-20 ปีได้แล้วล่ะครับ แต่ก็แค่นั้นจริง ๆ ครับ ความทรงจำเกี่ยวกับมนุษย์ล่องหน จริง ๆ แล้วเนี่ยจินตนาการไม่ออกเลยครับว่าคนที่หายตัวได้เนี่ยมันจะน่ากลัวได้ยังไงหรือว่าจะออกมาหลอกในรูปแบบไหนยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัยครับ เพิ่มความอยากรู้ให้ตัวเองขึ้นไปอีก เรียกได้ว่า The Invisible Man เป็นหนังเรื่องแรกที่รอคอยของปีเลยแหละครับ ตัวอย่างที่ปล่อยออกมานี่ก็ดูดีใช้ได้ มีความ Horror น่าดูครับ ไม่บอกก็คิดว่าหนังผีครับ ทางถนัดเลยแบบนี้ มาถึงเรื่องย่อ ว่าด้วยตัวละครที่ชื่อว่า Cecilia ครับ หญิงสาวผู้มีปัญหาชีวิตคู่ เธอต้องการจะหนีให้พ้นจาก Adrain ผู้เป็นสามี เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ปราดเปรื่อง แต่ลึก ๆ แล้ว แอบมีนิสัยชอบบงการทุกอย่างครับ ไม่เว้นแม้แต่คนรัก ในที่สุด Cecilia เธอก็ทนไม่ไหว ตัดสินใจหนีออกมาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทุกอย่างนั้นเป็นไปได้ด้วยดี จนกระทั่งได้รู้ว่า Adrain นั้นเสียชีวิตไปแล้ว แต่เธอกลับโดนตามล่าโดยอะไรบางอย่าง บางสิ่งที่เธอนั้นมองไม่เห็น ความรู้สึกแรกหลังจากออกจากโรงภาพยนตร์นะครับ ต้องบอกว่าหนังเนี่ยตอบทุกความคาดหวังของผมได้หมดเลยครับ แต่เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังแล้วกันครับว่าไอ้ตรง แต่ นี่มันเป็นยังไง ดูเหมือนจะเป็นธรรมเนียมไปแล้วครับสำหรับหนังสยองขวัญยุคใหม่ที่จะปล่อยหมัดเด็ดใส่ผู้ชมกันตั้งแต่ต้นเรื่องครับ มาเต็ม เรียกได้ว่าเดี๋ยวนี้เนี่ยดูแค่ 5 นาทีก็รู้ทันทีเลยครับว่า The Invisible Man จะเล่นไปในทิศทางแบบไหน หลอกล่อคนดูอย่างไร ระทึกกันตั้งแต่ต้นไปเลยครับ บอกตรง ๆ ครับว่า 5 นาทีแรกที่หนังฉายมาเนี่ยก็รู้ทันทีครับว่าเรื่องนี้เนี่ยมีของครับ ไอที่ผมจินตนาการไม่ออกว่าแค่คนล่องหนเนี่ยมันจะน่ากลัวยังไง เรื่องนี้ตอบได้หมดเลยครับ มันเริ่มจากการปูเรื่องครับ ไอบทง่าย ๆ ที่เกริ่นไปข้างต้นนี่แหละครับ อย่าคิดว่าเนื้อเรื่องสำหรับหนังสยองขวัญไม่สำคัญนะครับ นี่เป็นอีกปัจจัยหนึ่งเลยที่ช่วยให้หนังปังหรือพังเลยก็ได้ แล้วมันก็เหมือนกับ The Invisible Man ครับ ปูมาดีมาก ๆ ครับทำให้เราเนี่ยรู้จักแล้วก็เข้าใจตัวร้ายได้เร็ว รู้สึกถึงความอันตรายและก็ความน่ากลัวครับ โดยไม่ต้องเล่าเยอะเลยทำให้ผู้ชมเห็นภาพได้อย่างชัดเจน เมื่อคนดูอินแล้วเนี่ยคุณจะทำอะไรต่อเนี่ยมันก็ง่าย จริงไหมล่ะครับ มาต่อกันที่สิ่งที่สำคัญอย่างฉากสยองขวัญกันบ้าง สำหรับ The Invisible Man นะครับต้องบอกก่อนเลยว่าฉากจั้มสแกเนี่ยค่อนข้างน้อยครับ โดยมากแล้วจะเล่นกับบรรยากาศซะส่วนใหญ่ แต่ทีนี้เนี่ยมันจะออกมาเป็นยังไงล่ะ ไอการทำให้คนกลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น ดังนั้นผมจะขอยก 2 สิ่งที่เรื่องนี้เนี่ยใช้เยอะแล้วกันครับ จะได้เห็นภาพ อย่างแรกก็คือมุมกล้องครับ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีสิ่งที่เรียกว่ามุมกล้องที่ไม่น่าไว้ใจค่อนข้างมากเลยล่ะครับ หนังผีนี่เป็นแบบนี้เยอะ ไอจังหวะที่กล้องมันจะไปจับภาพมุมที่ไม่ควรจะจับนะครับ แล้วก็ถ่ายมุมกว้างแปลก ๆ ให้เราเห็นหลาย ๆ สิ่งหลาย ๆ อย่าง แพนกล้องไป แพนกล้องกลับให้ชวนลุ้น The Invisible Man มีเพียบเลยครับแบบนี้ แถมยังทำออกมาได้ดีซะด้วยนะครับ การเล่นกับองค์ประกอบฉากต่าง ๆ เนี่ยดูเข้ากับ Concept มนุษย์ล่องหนมาก ๆ ผสานกับเสียงประกอบนะครับ ต้องใช้คำว่า บีบ ครับ ทั้งเสียงดนตรีหรือฉากที่เงียบ ๆ นะครับแต่มีเสียงบรรยากาศรอบข้าง และพอนำมารวมกันนะครับ มันก็กลายเป็นความลุ้น ความกดดันครับ บอกตรง ๆ ว่าช่วงครึ่งแรกนะครับ อยากจะเดินออกจากโรงกันเลยทีเดียว มันเครียด มันกดดันครับ นั่งดูไปก็คิ้วขมวดตลอดเวลาครับ มันลุ้นขนาดนั้นเลยแหละ กล้องแพนไปทีนึงก็เสียวทีนึงครับ ฉากนี้เนี่ยจะออกมาไหม มุมนั้นจะโผล่มาไหม เพลงนี่ก็บิ้วจัง ถ้าจะให้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพแล้วก็อารมณ์เอา Paranormal activity นะครับมารวมกับ Quiet Place ประมาณนั้นเลยล่ะครับ ตอนนี้รู้สึกเลยครับว่าไอ้มนุษย์ล่องหนคนนี้เนี่ยมันน่ากลัวยังไง ไอความที่ไม่เห็นนี่แหละที่เผลอ ๆ จะน่ากลัวกว่ามองเห็นซะอีก แต่ความสยองที่ว่ามาเนี่ยมันก็จะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ ครับ เมื่อหนังผ่านช่วงกลางเรื่องไปครึ่งหลังของหนังจะเน้นไปที่ความเข้มข้นของบทแล้วก็ตัวละครมากขึ้นครับ แล้วก็จะเริ่มทิ้งปมเล็กปมน้อยไว้ตลอดเวลา ช่วยให้คนดูตั้งคำถาม คิดว่ามันจะเป็นยังไงต่อ เป็นแบบนี้แล้วจะทำยังไงได้อีก ทุกอย่างเนี่ยชวนติดตามมาก ๆ ครับ ห้ามละสายตาไปจนถึงตอนจบเลย และที่สำคัญก็หักมุมหลายตลบซะด้วย สรุปว่าใช้ได้ แต่อวยกันมาขนาดนี้เนี่ย แน่นอนครับว่า The Invisible Man ก็มีข้อเสียเช่นเดียวกันครับ ซึ่งมันก็ตามแบบฉบับหนังแนวนี้ทั่วไปเลยล่ะครับ การตัดสินใจของตัวละครที่ดูจะแปลก ๆ โดยเฉพาะตัวละครรอบข้างที่ไม่ใช่ 2 ตัวละครหลัก หนักมากครับ ใช้คำว่าเอาแต่ใจเลยก็ว่าได้ครับ อีกส่วนก็คือบทโดยรวมเนี่ยแม้จะดีนะครับแต่ก็มีช่องโหว่พอสมควร งงเยอะเหมือนกันครับในส่วนนี้เพราะที่นั่งดูที่ก็เอะใจหลายทีเหมือนกันครับ ว่าทำไมมันเป็นอย่างนั้น ทำไมมันเป็นอย่างนี้ แม้จะเปรียบเทียบกับหนังแนวเดียวกัน ตรงจุดนี้ของ The Invisible Man ก็ถือว่าแผลเยอะอย่างที่บอกครับ และอีกอย่างนะครับใครที่คาดหวังความสยองแบบเต็ม ๆ อาจจะ fail เล็ก ๆ ได้ครับเป็นช่วงปลายของหนัง สรุปครับ The Invisible Man หนังสยองขวัญที่เต็มไปด้วยเทคนิคแพรวพราวครับ นี่คือหนังที่มีทุกองค์ประกอบที่ภาพยนตร์ Horror ชั้นดีทุกเรื่องควรจะมีครับ ไม่ต้องมีจั้มสแกให้มากมาย ปล่อยบท ปล่อยบรรยากาศครับ แล้วก็ตัวละครพาคุณอินไปกับเรื่อง Elisabeth Moss ที่รับบทเป็น Cecilia เนี่ยเธอทำได้ดีมาก ๆ ครับ หนังเกือบทั้งเรื่องเนี่ยอยู่บนบ่าของเธอเลย เอาเป็นว่าใครเนี่ยคาดหวังความน่ากลัว เรื่องนี้มีให้ครับ แถมยังได้ดูสนุกแบบไม่มีผิดหวังด้วย ใครเป็นแฟนหนังผีเนี่ยก็จะได้เจอกับบรรยากาศที่แปลกใหม่ที่แม้ว่าตัวร้ายเนี่ยจะไม่ใช่ผีก็ตามครับ 8 แบบเต็ม 10 ครับ นี่คือหนังสยองขวัญที่เยี่ยมที่สุด ณ ตอนนี้ครับขอขอบคุณภาพประกอบทั้งหมดจาก Official Trailer Youtube