อย่าเพิ่งมา!! ตู่-มาวิน เปิดใจเลื่อนงานฉลองวิวาห์ ลั่นยังท้องไม่ได้ชุดแต่งงานเอว 24 นิ้วรออยู่ (มีคลิป)
ข่าวบันเทิงวันนี้
คู่รักมาราธอน "ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์" และ "มาวิน ทวีผล" ที่มีโอกาสได้มาเผยเส้นทางความรักกว่า 11 ปี กับอุปสรรคความรักต่างชนชั้น ผ่านทางรายการ "คุยแซ่บ show" ทางช่องวัน 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, ใบเฟิร์น พัสกร และ ได๋ ไดอาน่า เป็นพิธีกร พร้อมเปิดใจครั้งแรกหลังแต่งงาน อีกทั้งยังเผยความเชื่อเรื่องไอ้ไข่กับเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้น
ตู่-มาวิน เปิดใจเลื่อนงานฉลองวิวาห์ ลั่นยังท้องไม่ได้ชุดแต่งงานเอว 24 นิ้วรออยู่
งานแต่ง งานยกน้ำชาผ่านมา 2 เดือนแล้ว เป็นยังไงบ้างชีวิตคู่จริง ๆ?
มาวิน : มีความสุขครับ ตื่นเช้ามาเจอหน้าเขาก็สดชื่นทุกเช้า
ที่คุณตู่โพสต์โครงการคนละครึ่งไม่ได้รวมถึงสามีชาวบ้าน อธิบายหน่อยมาวินไปทำอะไรผิด?
ตู่ ปิยวดี : จริง ๆ ไม่มีอะไร ตู่เป็นคนที่ถ้าคิดแคปชั่นไม่ออกจะไม่ลงรูป จริง ๆ เน้นที่แคปชั่น ก็จะมีกลุ่มนึงที่ตามแคปชั่นเรา เราก็จะคิดไปเรื่อยแหละ แล้ววันนั้นคิดออกก็เลยลงไป ก็เป็นเรื่องเป็นราว ก็ต้องขอโทษด้วยที่อาจจะทำให้เข้าใจผิดกันไป
พอเขาโพสต์ปุ๊บความรู้สึกของเราเป็นยังไงบ้าง?
มาวิน : เอาอีกแล้ว กดไลก์ก่อน แต่โนคอมเมนต์
ตอนที่คุณตู่โพสต์คิดไหมว่ามันจะต้องเป็นประเด็นแน่เลย?
ตู่ ปิยวดี : ตอนนั้นที่โพสต์ไม่ได้คิดเลย คิดแค่ว่ามันขำดีอะไรอย่างนี้
มาวิน : คือตู่เขาเป็นคนที่แคปชั่นเขาจะเด็ดมาก คือไอจีผมเขาจะมีพาสเวิร์ส บางทีผมคิดแคปชั่นไม่ออก ผมบอกให้เขาคิดและลงให้หน่อย
หลังจากที่แต่งงานอย่างเป็นทางการแล้ว ชีวิตเปลี่ยนไปไหม?
ตู่ ปิยวดี : ส่วนใหญ่เหมือนเดิมเลย เพียงแต่ว่าเราคุยกันมากขึ้น ใจเย็นมากขึ้น
มาวิน : เขาใจเย็นมากขึ้น
พอแต่งแล้วอยู่บ้านไหน?
ตู่ ปิยวดี : อยู่บ้านตู่ ครอบครัวเขาอยู่ต่างจังหวัด แล้วเขาอยู่บ้านคนเดียว ให้เขาย้ายมาบ้านเราง่ายกว่า
จริง ๆ ทั้งสองคนจะต้องมีงานมงคลสมรสวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ แต่ต้องเลื่อนไปเพราะสถานการณ์โควิด?
ตู่ ปิยวดี : ใช่ ด้วยโควิด เนื่องจากว่าถ้าเกิดจัดงานเกิน 200 คนเราจะต้องทำเรื่องขอ
แล้วชุดที่ตัดมาแล้ว 4 ชุดจะทำยังไง?
ตู่ ปิยวดี : ก็นี่แหละยังท้องไม่ได้ เพราะว่าต้องไปใส่ชุดที่ตัด 4 ชุดให้ได้ก่อน เพราะว่าตัดไว้เอว 24
สมมติระหว่างรอเกิดมีเบบี๋ขึ้นมาเราจะจัดงานอยู่ไหม?
ตู่ ปิยวดี : ไม่น่ามีศักยภาพขนาดนั้น
มาวิน : คุณยังไม่ได้เจอของจริง
เรื่องแพลนจะมีลูกก็ยังคิดไม่เหมือนกัน เพราะว่าพี่มาวินอยากมีลูกคนเดียว แต่คุณตู่อยากมี 2?
ตู่ ปิยวดี : อยากให้เขามีเพื่อนคุยกัน อยากได้ผู้หญิง
มาวิน : ชอบลูกผู้หญิงครับ
ถ้ามีลูกเราอยากให้ลูกหน้าเหมือนใครมากกว่ากัน?
มาวิน : ให้เหมือนเขา มีความน่ารักมุ้งมิ้ง แล้วมีความเป็นระเบียบ มีความเป็นผู้นำ
แล้วทางครอบครัวของคุณตู่อยากได้หลานขนาดไหน?
ตู่ ปิยวดี : อยากได้ ตอนแรกเขายังบอกเลยถ้ามันต้องเลื่อนไปนานมากก็มีไปเลยไหม เราก็บอกว่าไม่ได้หรอก เดี๋ยวชุดใส่ไม่ได้
ย้อนเล่าหน่อย สองคนนี้เจอกันได้ยังไง?
มาวิน : ผมแอบมองเขามา 2 ปี ตั้งแต่เห็นที่ร้านหมอฟัน ไปทำฟันที่เดียวกัน เมื่อ 13 ปีที่แล้ว คอนนี้คบกันมาปีนี้ปีที่ 11 แล้วครับ
เรารู้ไหมว่าเขาเป็นใคร?
มาวิน : ไม่รู้ พอเราเข้าไปหาหมอเราก็ถามพี่หมอใคร ลูกนายไง เอ้า...ไม่เคยรู้
รู้สึกว่าเกินเอื้อมไหม?
มาวิน : มันไม่รู้สึกว่าเกินเอื้อม เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ก็ละไว้ในฐานเข้าใจ เราก็ปลื้มเขา
พอรู้ว่าหมดหวังแล้ว ยังมีแอบคิดถึงไหม?
มาวิน : ก็แอบคิดว่าเวลามางานช่องจะได้เจอเขาไหม แอบมองไกล ๆ
แล้วคุณตู่จำได้ไหมว่าเจอครั้งแรกที่ไหน?
ตู่ ปิยวดี : ไม่ได้เลย
แล้วมาจำภาพแรกเขาได้ที่ไหน?
ตู่ ปิยวดี : ก็วันครอบครูนี่แหละ
สองคนนี้ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่นะ พี่มาวินบอกว่าคุณตู่เป็นคนเข้าหาเขาก่อน คุณตู่ก็บอกว่าพี่มาวินเป็นคนเข้าหาเขาก่อน สรุปใครเข้าหาใครก่อน?
มาวิน : ผมก็พูดขำ ๆ แหละครับ ผมก็เข้าหาเขาก่อนจริง ๆ ก็นั่งพนมมืออยู่ เขาก็มองมา เราเลยบอกรุ่นน้อง คนนี้ลูกนายโคตรน่ารักเลย โคตรชอบเลย แล้วเขาก็คลานเข่าเข้ามาชวนไปแคสต์ละครของเขา
ทำไมตอนนั้นถึงชวนเขาไปแคสต์ละคร?
ตู่ ปิยวดี : ในเรื่องนั้นมันขาดตัวนึง ซึ่งดูเจ้าชู้ กระล่อน เราเห็นหน้า เออ...หน้าตาไม่ดูเป็นคนดี
ตอนนั้นที่ไปชวนเขาคิดอะไรนอกเหนือจากงานแสดงไหม?
ตู่ ปิยวดี : ไม่คิดเลย
สเปคคุณตู่ไหม ตอนที่เห็นพี่มาวิน?
ตู่ ปิยวดี : สเปคเราชอบตี๋ ๆ อยู่แล้ว แต่วันนั้นที่เข้าไปทัก เรื่องงานล้วน ๆ
จากเรื่องงาน มาเรื่องจีบ เกิดขึ้นได้ยังไง?
มาวิน : ผมขอพินบีบี พอตอนที่เขาถ่ายรูปเพื่อเอาไปให้ทีมผู้กำกับดู ก็ถ่ายรูปคู่กับเขา ผมก็เลยถามคุณตู่ครับแล้วผมจะได้รูปยังไง อ่อเดี๋ยวทีมงานส่งให้ ผมก็เลยรีบยิงไป ถ้าไปยิงไปอดแน่ ๆ คุณตู่ครับจัดฟันเสร็จแล้วเหรอ เขาก็บอกว่าทำไมรู้ ก็ตอบไปว่าเราหาหมอที่เดียวกันครับ ก็เลยเริ่มคุย แล้วบอกว่างั้นผมขอพินบีบีคุณตู่ไว้ได้ไหมครับ
ตอนที่เขาขอพินบีบีเรา รู้ยังว่าเขาจีบเรา?
ตู่ ปิยวดี : ไม่รู้
ข้อความแรกที่ส่งหาเขาคือ?
มาวิน : ชอบแมวไหม
ตู่ ปิยวดี : ก็ตอบไปว่าใช่ ก็งงเหมือนกัน เขาก็เริ่มส่งรูปแมวมาให้ดู
คุยกันนานไหมกว่าจะตัดสินใจไปเดทกัน?
ตู่ ปิยวดี : 2 เดือนได้นะ
แล้วเขาทำอะไรถึงตัดสินใจไปเดทกับเขา?
ตู่ ปิยวดี : ปกติเป็นคนเครียดเวลาทำงาน เขาแบบมันทำให้เราหัวเราะได้เยอะ
มาวิน : ผมเป็นคนไม่มีสาระ
แล้วนานไหมกว่าจะเป็นแฟนกัน?
มาวิน : ประมาณ 2 เดือนได้
ทำไมคุณตู่ถึงตกลงเป็นแฟนกับเขา?
ตู่ ปิยวดี : ชอบความเสี่ยงนิดนึงมั้ง เอาจริง ๆ ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าเรามีความคลิ๊กกันในบางอย่างที่คนอื่นไม่ได้เข้าใจเรา แล้วคุยกับเขาแล้วมันเข้าใจ
อะไรที่ทำให้รู้สึกคลิกกัน ใช่ตอนเด็กโดนบูลลี่เหมือนกันไหม?
ตู่ ปิยวดี : ใช่
มาวิน : โดนครับ
บูลลี่ยังไง?
คุณตู่ : เราคุยกับคนอื่นเขาไม่เข้าใจความรู้สึกเรา ของตู่จะโดนเวลาอยู่ในกลุ่มผู้หญิง กลุ่มใหญ่ ๆ แล้วมีหัวหน้ากลุ่ม เรารู้สึกว่าทำไมทุกมื้อเราต้องกินตามหัวหน้ากลุ่ม เรารู้สึกว่าฉันอยากกินแบบอื่นบ้าง ทำไมต้องทำตามคนนี้ ก็จะโดนเพื่อนแอนตี้ทำไมแกต้องขวางโลก แกไม่อยากกืนใช่ไหม พอเราไปห้องน้ำเขาก็ไปกินข้าวกันเลย มันก็เฮิร์ตเรานะนั่งกินข้าวคนเดียว
มาวิน : ผมเป็นเด็กอ้วนไง ตอนนั้นที่บ้านล้มละลายไม่ค่อยมีเงิน ความต่างกับเพื่อนจะเยอะมาก เพื่อนจะด่า ไอหมูตาหยี๋ แต่งตัวเหมือนเดิมทุกวัน ช่วงซัมเมอร์เอกชนเขาจะใส่ชุดอยู่บ้านไป แต่ผมจะใส่กางเกงอยู่แค่ 2 ตัว แล้วมีเสื้ออยู่ 3 ตัว เรียนอยู่ 2 เดือนนะพี่ รองเท้าก็คู่เดิม ใส่จนขาด เพื่อนก็บอกว่ามึงแต่งตีงเหมือนเดิม อ้วนก็อ้วน มันจี้ใจเรา มันมีปมในใจเรา โอเคไม่เป็นไรเราไม่เคยโทษเพื่อน แต่เรารู้ว่าโดนแบบนี้แม่งเจ็บนะ เราก็แค่ไม่ได้แสดงออกให้เขารู้
ครอบครัวลำบากมาก?
มาวิน : ลำบาก ๆ จากเมื่อก่อนนั่งเบนซ์ไปโรงเรียน มาวันนึงทุกอย่างมันหายไปหมด ต้องขึ้นรถเมล์ เราก็งงว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต
ทั้งสองคนมาคลิกกันเพราะแผลในใจเหมือนกัน พอมาคบกันมีภาพหลุดออกไปเลยไหม?
มาวิน : มี เดือนแรกเลย
ตู่ ปิยวดี : เราไม่ได้คิดว่าเราเป็นคนที่คนสนใจขนาดนั้น เพราะเราเป็นผู้จัดไม่ได้เป็นดารา แล้วเขาก็เป็นดาราไม่ได้ดังมาก เราก็ทำตัวปกติไปเดินห้าง แล้วมีหนังสือกอสซิบถ่ายรูป
แล้วรูปที่หลุดไปฟีดแบ็กเป็นยังไง?
มาวิน : คนก็เริ่มรู้
ตู่ ปิยวดี : คนเริ่มรู้ ในวงการก็เริ่มรู้ คนก็มาถาม มีผู้หวังดีโทรมาหามากมาย บอกว่าอยากรู้เรื่องไหม จะเล่าให้ฟัง ช่วงแรกก็มีจิตตกนิดนึง แต่ตอนหลังรู้สึกว่าอยู่กับเขาไม่เห็นเป็นอะไรเลย
มาวิน : ช่วงที่จีบเขา มันจะมีช่วง 3-4 วันคุยกับเขาแบบไม่หลับ ไม่นอน ผมจะเล่าสิ่งที่ผมเคยทำเลวที่สุดในชีวิตให้เขาฟัง ผมเล่าหมดเลย ผมเล่าเสร็จบอกว่าถ้าคุณตู่รับไม่ได้ไม่เป็นไรครับ ของคุณที่เรียนรู้ และรู้จักผม เก็บผมไว้เป็นเพื่อนคนนึงก็พอ แต่ถ้าคุณตู่ให้โอกาสเราไปด้วยกัน แล้วคุณตู่จะไม่เจอแบบนี้ในชีวิตเลย
ตู่ ปิยวดี : แล้วผู้หญิงที่โทรมาก็เหมือนคอนเฟิร์มเล่าเรื่องที่เขาเล่ามาแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าเขาไม่ได้โกหกจริงด้วย
คุณตู่ฟังแบบนั้นแล้ว อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจคบกับเขา?
ตู่ ปิยวดี : เขาบอกว่าเขาเล่ามาทั้งหมดให้เรารู้ไว้ หลังจากนี้เขาจะไม่เป็น
เรื่องฐานะเจอคนเมาท์ไหม?
ตู่ ปิยวดี : นี่จะโดนเลย หนูตกถังข้าวสาร สำนวนไทยก็มา
มาวิน : มาเกาะผู้หญิง เป็นแมงดา นู่นนี่นั่น
ตู่ ปิยวดี : แต่เราอยู่ด้วยกันเรารู้ว่าเป็นยังไง
มาวิน : ผมก็ออกของผมเอง เขาก็ออกของเขา ขอบคุณที่ยังแฟร์ ๆ กับผมได้ ผมไม่มีปัญญาเลี้ยงเขาแน่นอน แล้วเขาก็ลดตัวเองมา กินข้างทางกับผมได้ กินปลาร้า กินส้มตำได้หมด
แล้วคอมเมนต์ไหนที่เราฟังแล้วรู้สึกอันนี้ไม่ไหว มันหนักมาก?
ตู่ ปิยวดี : ของตู่จะโดนมีสมองหรือเปล่า โง่ โดนหลอก เดี๋ยวก็เลิกกัน
มาวิน : เราก็ให้กำลังใจกันเยอะ ขอบคุณที่ยังมีกัน ที่ยังเชื่อใจกัน ถ้าเราอ่อนไหวตามคนอื่น มันหลายคู่ที่มันอยู่ไม่ได้กับเรื่องนี้
ตู่ ปิยวดี : เพื่อนที่เป็นห่วงมาก ๆ ฉันบอกแกไม่ต้องห่วง ถ้าหนนี้ฉันเลือกผิดคน ฉันแค่โง่ ฉันไม่ตาย แกไม่ต้องห่วง ฉันอยู่รอดแน่นอน
พอข่าวหลุดว่ามาวินจีบคุณตู่ ก็มีนักแสดงระดับพระเอกโทรมามีทีท่าจะจีบเราด้วย เขาเป็นใคร?
มาวิน : มันนานมาแล้วพี่
ตู่ ปิยวดี : ก่อนที่วินจะมาจีบ ไม่มีนักแสดงมาจีบเลย พอรูปนั้นหลุดไปปุ๊บ เรารู้สึกว่าเราก็สวยเหมือนกันนะ
มาวิน : ผมไม่เข้าใจคำนี้จริง ๆ นะ คำว่าเพื่อนคืออะไร คุณตู่ก็ถามว่าวินจะไม่ทำอะไรเหรอ ผมบอกว่าไม่ครับมันสิทธิ์ของเขา เพราะตอนนั้นเรายังไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่ได้เปิดตัว ให้ตู่เป็นคนบอกเองมากกว่า แต่สุดท้ายตู่โอเค ผมก็เลยคุยเลยว่าไม่ต้องโทรมาอีกนะ แฟนผมดูแลได้
แล้วเลิกคุยกันเลยไหม?
มาวิน : ไม่ผมเป็นคนไม่เคยโกรธใคร
ตู่ ปิยวดี : เขาไม่โกรธ หลังจากนั้นก็เป็นเพื่อนกัน
หลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ทั้งคู่ก็เลยคบกันแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่เปิดอีกแล้ว?
ตู่ ปิยวดี : ก็ไม่เปิด เรารู้สึกว่าเราไม่อยากอ่านคอมเมนต์อะไรที่มันเป็นเชิงลบ งั้นก็อยู่เงียบ ๆ ดีกว่า ประมาณ 2 ปีได้
แล้วหลังจาก 2 ปี อะไรที่ทำให้เปิดกว้างให้คนรู้?
ตู่ ปิยวดี : ตู่ว่าคนค่อย ๆ รู้ เนื่องจากเราไปกับกลุ่มเพื่อน เพื่อนถ่ายรูปก็ติดเขาไปบ้าง กระแสแอนตี้ก็เริ่มน้อยลง ถามว่ายังมีดราม่าไหม มีน้อย ๆ ช่วงนั้นก็ห่างหายจากวงการไปด้วย ก็คิดว่าเบื้องหน้าคงไม่ใช่ทางของวินแล้ว ก็เลยบอกวินว่ามาทำเบื้องหลังไหม เพราะเขาเป็นคนชอบคุย ชอบเล่า
มาวิน : ก็เป็นครีเอทีฟ คิดพล็อตละคร ก็ต้องคิดล่วงหน้า 10 ตอน ผมเป็นคนคิดแล้วใส่ดีเทลลงไปให้เขาไปขยายบทต่อ
ตู่ ปิยวดี : อันนั้นก็จะโดนคนเม้าท์เหมือนกันว่ามาเกาะอีกแล้ว แต่ตอนนั้นเราก็แบบช่างทันเถอะ เราต้องมีอาชีพ ต้องมีอะไรบ้าง
แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้โกรธจนอยากจะบอกเลิก?
ตู่ ปิยวดี : ก็เรื่องนี้แหละ เรื่องสังสรรค์กับเพื่อน ที่โกรธเพราะเรารู้สึกว่าก่อนไปกับเพื่อนสัญญาอย่างดีเลย เดี๋ยววินจะอย่างนี้ จะกลับเท่านี้ โทรศัพท์จะรับตลอดเวลา แต่พอไปเจอเพื่อนปุ๊บทุกสิ่งที่พูดกับเราคือ...โทรศัพท์ก็ไม่รับ มันหลายๆ ครั้ง เป็น 10 อะ มันบ่อยจนเรารู้สึกว่าเขาเลือกเพื่อนมากกว่าเรา
มาวิน : เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทาง
ตอนนั้นที่บอกว่าโกรธมาก ๆ แล้วง้อเป็นเดือนคือยังไง?
มาวิน : เขาไม่รับโทรศัพท์ ไม่ให้เข้าบ้าน ขอยามเข้าไปนั่งรออยู่หน้าห้องก็ไม่เปิดประตู คือแบบยังไงก็ไม่ยอม
แล้วเขาใจอ่อนได้ยังไง?
มาวิน : โห...นานอะ ไปเฝ้า โทรเป็นพันมิสคอลกว่าจะยอมรับ
ตู่ ปิยวดี : โทรหาเพื่อนทุกคน โทรหาเลขา โทรหาคนที่ออฟฟิศ ทุกอย่างเลย
ปกติคุณตู่เป็นคนที่ใจแข็งอยู่แล้ว?
มาวิน : โคตรแข็งเลย
ตู่ ปิยวดี : ถ้าตัดสินใจ ถ้าบอกว่าเราจะเลิกคือเลิก เราไม่อยากพูดคำว่าเลิกไปลอย ๆ เปล่า ๆ
แล้วครั้งนั้นอะไรที่ทำให้เราใจอ่อน?
ตู่ ปิยวดี : ก็พูดเหมือนเดิม วินจะไมทำอีกแล้ว
ตอนนั้นสัญญากับเขาว่ายังไง?
มาวิน : ก็สัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้ว รักนะ ซึ่งมันก็ทำได้ เพราะไม่มีเขาเราอยู่ไม่ได้
อย่างนี้เรียกว่ามาวินกลัวเมียไหม?
มาวิน : กลัวครับพี่ ยอมรับครับ กลัวเขามากที่สุด
มาวินแฮปปี้ใช่ไหมกับการแต่งงาน?
มาวิน : แฮปปี้ครับ
เราคบกับคุณตู่เรารู้สึกกดดันตัวเองไหม?
มาวิน : มันก็กดดัน แต่เขาน่ารัก เขาบอกผมเสมอว่า ถ้าไม่ถึงฝั่งฝันได้แต่งงานก็คบกันแบบนี้เขาก็อยู่ได้ แต่ใจเราอะเนอะเราอยากทำให้คนที่เรารัก เขาเลือกฉันไม่ผิด ฉันเปลี่ยนตัวเองเป็นคนดีได้ ทำไมจะมีไม่ได้ ก็พยายามจนสุดท้ายมาทำเพจอาหาร ก็ประมาณ 8 ปีได้
นั่นก็คือช่วงเวลาเดียวกันที่คุณตู่พามาวินเข้าบ้าน?
มาวิน : ครับ ก่อนหน้านั้นไม่เคยเลย
ตู่ ปิยวดี : ไม่เคยเหยียบเข้าไปเลย
เคยเจอใครไหม เคยเยอผู้ใหญ่ไหม?
ตู่ ปิยวดี : ไม่เจอ
ตั้งแต่ปีที่ 1 ถึงปีที่ 8 มีตู่กับมาวิน 2 คน ?
มาวิน : ใช่
แล้วมาวินเคยเรียกร้องแบบพาไปเจอไหม?
มาวิน : ไม่เคย ไม่มีเลย
แล้วเวลาไปงานช่อง เจอผู้ใหญ่หรือเจอใครไหม?
มาวิน : ก็ทำนิ่ง ๆ แยก ๆ เป็นนักแสดงคนนึง
แล้วตอนนั้นมั่นใจอะไรถึงพาเขาเข้าบ้านหลังจาก 8 ปี?
ตู่ ปิยวดี : จริง ๆ ที่บ้านรับรู้มาตลอด เพราะมันจะมีข่าวมาเป็นช่วง ๆ แต่ว่าที่เข้าบ้านได้แบบเนียนมาก เพราะสนิทกับหลาน แล้วหลานเรียกร้อง อยากเจออาวิน หลานถามถึงบ่อย จนที่บ้านบอกพาเขามากินข้าวซิ
วันแรกที่ไปเจอใครบ้าง?
มาวิน : ผมเจอทั้งตระกูล กังวล ลกไปหมด พอไปเจอของจริง ขนนี่ลุกเกลียว ผมก้มตลอด ยกมือไหว้ นั่งกินข้าวเสร็จแล้วไม่ลุกเลย
เพราะว่าทำเพจอาหารทำให้คู่นี้ได้แต่งงานกัน เพราะอะไร?
มาวิน : ใช่ครับ เพราะฟีดแบ็กดีคนยอมรับเยอะ คนติดตาม แล้พอคนรู้สไตล์เรา เรากินเผ็ด เรากินดุ กินมันส์ แล้วกินจริง รีวิวสินค้าคือเป็นสิ่งที่เราชอบเท่านั้น แล้วคนตามก็ไม่ผิดหวัง รู้ว่ารสชาติเป็นแบบนี้ผมจะบอกเลยว่าประเทศไทยไม่ต้องของแพง ของถูกก็อร่อยได้
ตอนนั้นคิดไหมว่าจะประสบความสำเร็จขนาดนั้น?
มาวิน : ตอนนั้นไม่คิด คิดแค่ว่าขอเป็นตัวเอง ตอนที่เริ่มทำเพจ มันมีบางคลิปที่กระแสมันมา แล้วมันก็แผ่วไปอีก 3 เดือน ก็หาทางไม่เจอ แค่เอาอาหาร 2 อย่างมาเทียบกันว่ามันต่างกันยังไง สุดท้ายก็กินเป็นตัวเองนี่แหละ
อีกหนึ่งอย่างที่ทั้งคู่เชื่อมาก ๆ คือไปมูกับไอ้ไข่วัดเจดีย์?
มาวิน : ไอ้ไข่นี่สุดจริง ๆ คือตอนนั้นเครื่องรางมา
ตู่ ปิยวดี : ก็มีช่วงนึงที่เขาฮิตใส่เครื่องราง เราก็ไปเหมือนกัน อยากจะได้มาบูชาบ้าง ก็เลยเริ่มศึกษามาเรื่อย ๆ
มาวิน : แล้วเราก็ได้มา เป็นรุ่นนึง เอาไปทำใส่ข้อมือไว้ เราก็เลยลองข้อดู ตอนแรกขอเล็กๆ ขอให้ได้งานนี่นะ มันก็ปิดจ๊อบได้เรื่อย ๆ แล้วเราก็บอกว่าถ้าได้งานนี้มาจะบินไปที่นครเลย พอได้งานมาก็บินไป พอไปถึงหน้าวัดปุ๊บก็ไปซื้อประทัด พอเข้าไปในวัดปุ๊บก็ไปยืนงงว่าเข้าไปทางไหน เลขาโทรมาบอกว่ามีลูกค้าโทรมาหางานพี่เต็มไปหมดเลย ประมาณ 6-7 งานในเวลาเดียวกัน มาจากไหนก็ไม่รู้ อันนี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เสร็จแล้วจุดประทัดพนมมือว่าถ้าได้ตามยอด เดือนหน้ามาใหม่ ตอนนั้นไป 3 เดือนติด ไปทุกเดือนเลย
ก็เชื่อมาจนถึงทุกวันนี้?
ตู่ ปิยวดี : เชื่อ ๆ ได้บูชาองค์ประธานมาด้วย มาไว้ที่ออฟฟิศ แล้วองค์ประธานชอบให้คนมาไหว้ มาคุยกับเขาเยอะ ๆ เขาเป็นเด็ก 9 ขวบ ก็จะมีคนมาขอหวย ก็ได้ ถูกติดกันหลาย ๆ งวด
แต่ก่อนที่จะเอาองค์ประธานมาไว้ที่ออฟฟิศ อยู่บ้านก่อน มีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นที่บ้าน?
ตู่ ปิยวดี : ก็จะมีกลับบ้านรีบเปิดดูละคร เราก็นั่งดู สักพักแอร์ติด
มาวิน : ตื่นเช้ามาจะไปบ้านเขา พอเปิดประตู ทำไมตาไข่อยู่ในรถ
แล้วมาอยู่ในรถได้ไง?
ตู่ ปิยวดี : ก็เมื่อคืนเขาเปิดแอร์ให้ไง ก็เลยเอาไปไว้ในรถก่อน ก็ไปอยู่ออฟฟิศดีกว่า ก็บอกพี่ไข่ ๆ อยู่ออฟฟิศนะ ที่ออฟฟิศมีคนเล่นด้วยเยอะ
มาวิน : แล้วตอนที่ไปไหว้ตาไข่ มีเพื่อน 2 กลุ่มไปด้วย เพื่อนคนนึงเขาไม่เชื่อ เขามองว่าเป็นแฟชั่น คนที่เชื่อบูชาตาม คนที่ไม่เชื่อบอกว่ามีเงิน ฉันเอาด้วย ก็เอากลับไป พอตอนกลางคืนนางก็สนุกมาก เพื่อนไม่รู้ว่านางเป็นตุ๊ด แต่พอกลางคืนเหล้าเข้าปาก พี่ตินาลง นี่มาเต็ม ทำไมเมื่อเช้าไม่ใช่แบบนี้ มันก็พูดจากปากคำแรกเลยว่า ไข่ลง พูดเท่านั้นแหละ เราก็บอกว่าห้ามพูดแบบนี้นู่นนี่นั่น พอจังหวะที่เดินกลับมา มันกระดกเหล้าเพรียวเข้าปาก ซึ่งมันผิดนิสัยเพื่อนคนนี้ สักพักมีเพื่อนโทรมาบอกว่าเพื่อนคนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล ไปล้มที่หน้าหาด ขาฉีกถึงเส้นเอ็นเห็นกระดูกเลย พอจังหวะที่มันตื่น มันโทรหาเลขาที่ไปด้วย ถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับมัน ทำไมขาพันผ้า โดนเย็บขนาดนี้ มันจำอะไรไม่ได้ มันปวดมาก แล้วถามว่าแล้วจำภาพสุดท้ายได้ตอนไหน มันบอกว่าที่พูดว่า ก็ไข่ลง แล้วหลังจากนั้นมันจำอะไรไม่ได้อีกเลย
เคยคิดไหมว่าตั้งแต่วันแรกที่เจอกันจะมีวันนี้?
มาวิน : ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ สำหรับผมมันมาไกลเกิฝันมาก อีกอย่างนึงที่มองย้อนกลับไปแฮปปี้มาก เพราะเรามีกัน แล้วขอบคุณทุกคนที่รักเรา แล้วเข้าใจว่าเราจริงใจเวลาเราทำทุกอย่าง
ตู่ ปิยวดี : วันที่เขาขอแต่งงาน ทุกคนบอกว่าทำไมน้ำตาไหลเร็วมาก เพราะว่ามันไม่คิดจริง ๆ ว่าเราได้แต่งงานจริง ๆ เราก็ดีในมาก และภูมิใจในตัวเขามาก เราก็บอกเขาว่าคุณไม่ต้องออกให้เรานะ ทุกอย่างเราหารครึ่งหมด แต่คุณต้องดูแลตัวเองให้ได้ แล้ววันที่คุณดูแลตัวเองได้ค่อยมาพูดถึงเรื่องอนาคตของเรา แล้วเขาก็ทำได้
อยากจะบอกอะไรเขา ?
มาวิน : รักนะจุ๊บ ๆ
ตู่ ปิยวดี : ก็รักเขาแหละ เราอยู่กันมาตั้งแต่เขาไม่มีเงิน ไม่มีงานด้วย แต่เราก็ผ่านมันมาได้ และในอนาคตก็เชื่อว่าเราจะผ่านอีกหลาย ๆ อย่างไปได้ด้วยกัน
มาวิน : ก็ขอบคุณเขา ถ้าไม่มีเขา ผมคงไม่มีวันนี้ เขาคือทุกอย่างของผมจริงๆ กำลังใจเดียวในชีวิตเลย
ติดตามชมรายการ "คุยแซ่บShow" ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.30-14.30 น. ทางช่อง one31
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :