"อี๊ฟ พุทธธิดา " เปิดใจเสียงสั้นเครือ หลังสูญเสียคุณพ่อ "ต้อย เศรษฐา"
การจากไปอย่างไม่มีวันกลับของศิลปินแห่งชาติ "อาต้อย เศรษฐา ศิระฉายา" สร้างความเสียใจให้กับครอบครัว เพื่อน ๆ วงการบันเทิงและแฟน ๆ เป็นอย่างมาก... วันนี้ (21 ก.พ 65) เวลา 11.00 น. ลูกสาว "อี๊ฟ พุทธธิดา" พร้อมครอบครัวเดินทางมารับร่างคุณพ่อ "ต้อย เศรษฐา ศิระฉายา" ที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ก่อนจะนำร่างไปที่ศาลา 1 วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ซึ่งจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเย็นวันนี้
ภาพจาก True Inside
อี๊ฟ เปิดใจถึงคุณพ่อ ว่า "มันมีช่วงเวลา เราก็รู้สึกตลอดล่ะ แต่ก็มันมีเวลาที่จะต้องจากกัน ถึงจะทำใจไว้แล้ว แต่ก็ยังไม่พร้อมอยู่ดี คุณพ่อทานอะไรไม่ได้มาเป็นเดือนแล้ว ก็จะมีทานได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ช่วงหลังคือทานไม่ได้เลย ทานประมาณ 1 ช้อน 2 ช้อน คุณพ่อไม่อยากใส่ท่ออาหารเพราะคุณพ่อไม่ชอบ เราไม่บังคับให้ใส่เพราะอยากให้คุณพ่อมีความสุขที่สุด เราได้ทำให้คุณพ่อมีความสุขมากที่สุดในวันนี้"
กำลังใจของคุณพ่อ ก็ขึ้น ๆ ลงๆ พ่อป่วยมาได้ 3 ปีแล้ว หนักบาง เบาบางแต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาโดยตลอด คุณหมอนัดพอดี ก็เลยไปหาหมอกัน ไปพักนอนสักวัน 2 วัน พอไปถึงคุณพ่อ มีเสมหะเยอะมาก ก็มีการดูดเสมหะกัน ความดันตก ก็คิดตลอดว่าไม่น่า ไม่น่า ก็กระตุ้นด้วยยาความดันก็ไม่ขึ้น อี๊ฟไม่ได้อยู่กับคุณพ่อ เพราะช่วงที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ยากลำบากพอสมควร อย่างคุณพ่อไม่ทานข้าว คุณแม่ก็ไม่ทานเหมือนกัน เพราะเขาอยู่ด้วยกันดูแลกันมาตลอด
เราคุยกันว่า ในช่วงที่คุณหมอนัด 1 หรือ 2 วันเนี่ย พอดีอี๊ฟมีธุระไปคุยงานกันที่เสม็ดเลยเอาคุณแม่ไปด้วย พ่อนอนโรงพยาบาล 2 วัน พอกลับมาเราค่อยไปรับคุณพ่อกลับบ้านด้วยนะ นี่คือคุยกันแบบนี้ ในวันที่เดินทางตอนเช้าก็อยู่ส่งพ่อ ยังคุยกันว่าเดี๋ยวกลับมาก็ไปรับที่ รพ. ซึ่งทุกอย่างก็ปกติ เที่ยวนี้คือให้ผู้ช่วยกับคนดูแลก็เฝ้าคุณพ่อแทน อี๊ฟจะได้พาแม่ไปเที่ยว ให้ได้พักบ้าง ก็ยังโทรคุยกันตลอด สอบถามกันได้ห้องหรือยัง คือทุกอย่างเป็นปกติ เหมือนเป็นสิ่งที่เราทำกันในช่วงที่ผ่านมา เพียงแค่คราวนี้ อี๊ฟไม่ได้พาพ่อไปแค่นั้นเอง
ตกกลางคืนก็ยังโทรคุยกัน ทุกอย่างก็โอเค บอกคุณแม่ว่ามีแค่เรื่องเสมหะเท่านั้น พอประมาณตีสอง ผู้ช่วยโทรมา บอกเรื่องความดัน คุณหมอก็ปรึกษาเรื่องการใช้ยากระตุ้นความดัน แล้วก็จะกลับในวันรุ่งขึ้นตอนเช้าเลย แต่พอตี4 ผู้ช่วยก็โทรมาใหม่ บอกอยากให้คุยกับคุณพ่อเลย พอเห็นพ่อแล้วก็รู้สึกว่าไม่อยากให้เขากังวลใจ หรือ ทุกข์ใจก็ได้แต่บอกว่า ถ้าพ่อเหนื่อย พ่อก็พักเลย ไม่เป็นไร แต่ก็ในใจก็คิดอยู่หรือว่าควรบอกให้พ่อรอ แต่ก็คิดว่าถ้าพูดอย่างงั้นพ่อคงไม่โอเค คุณแม่ก็บอกพ่อว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะ พวกเรารักพ่อมากที่สุด แล้วพ่อก็ค่อย ๆ หลับไป เสียใจที่ไม่ได้อยู่ด้วยตอนนี้ แต่คิดว่าพ่อเข้าใจ...
ภาพจาก True Inside
ภาพจาก True Inside
ภาพจาก True Inside
ภาพจาก True Inside