Movie Review Teasing Master Takagi-san Movie (2024) แกล้งนัก (รัก) นะรู้ยัง? ดูแล้วสบายตา ดูแล้วดีต่อใจ กับหนังง่ายๆสวยงามอุดมไปด้วยความน่ารักดูแล้วมีความสุข แต่มีข้อแม้ว่าต้องดูฉบับซีรีส์มาก่อน รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ก่อนหน้านี้มีท่านผู้อ่านคอมเมนต์มาทางเพจ Facebook ดูไปบ่นไปว่าผู้เขียนเริ่มจะเขียนถึงหนังอินเดียแบบรัวๆหรือเขียนถึงหนังอินเดียบ่อยขึ้นซึ่งหมายความว่าดูหนังอินเดียบ่อยขึ้น แต่หลังจากบทความนี้อาจจะถูกคอมเมนต์ว่าผู้เขียนเขียนถึงหนังญี่ปุ่นแบบรัวๆเพราะในระยะหลังอายุอานามที่มากขึ้นทำให้ผู้เขียนค่อนข้างเลือกดูหนังที่เนื้อหามากขึ้น ซึ่งในความชอบส่วนตัวจะเน้นไปทางหนังหรือซีรีส์ที่มีเนื้อหาเป็นมนุษย์มนาไม่ค่อยชอบอะไรที่ดูปรุงแต่งหรือเอาให้แน่นลงไปอีกคือชอบเนื้อหาที่มีภาวะเป็นจริงยิ่งเป็นเรื่องบ้านๆการใช้ชีวิตพื้นฐานยิ่งชอบ อาจเพราะชีวิตที่ผ่านมาได้บ่มเพราะประสบการณ์มาพอควรทำให้อะไรก็ตามที่เป็นเรื่องบ้านๆการใช้ชีวิตปกติมันโดนใจแต่มีหนังญี่ปุ่นนี่แหละที่ยกเว้นไว้ เพราะญี่ปุ่นจะมีมาตรฐานบางอย่างที่ลูกคนเล็กเรียกว่าเบียวให้จับต้องเสมอเช่นเรื่องที่ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปได้ญี่ปุ่นก็สามารถเล่าให้จับต้องได้เรื่อยไปจนคล้ายกับว่าเรื่องเหนือจินตนาการประมาณจะเป็นเรื่องจริงและสิ่งนั้นเองที่ทำให้ผู้เขียนหลงไหลหนังญี่ปุ่นไม่น้อย สิบปีหลังจากที่คุณทาคากิ (เมอิ นากาโนะ) จากลานิชิคาตะ (ฟูมิยะ ทาคาฮาชิ) ไปทำให้ไม่มีใครมาแกล้งนิชิคาตะเล่นสนุกๆอีกต่อไปเพราะคนแกล้งก็มีเหตุผลคนถูกแกล้งก็เต็มใจ แล้วสิบปีที่ไม่ถูกแกล้งก็เวียนมาบรรจบเมื่อนิชิคาตะที่ปัจจุบันเป็นครูพละที่โรงเรียนเดิมอยู่กับสถานที่เดิมๆต้องต้อนรับครูฝึกสอนคนใหม่ในวิชาศิลปะและคนคนนั้นคือทาคากิซัง ทว่าการมาของทาคากิซังก็ยังคงแกล้งนิชิคาตะเช่นเดิมเมื่อทุกคนรู้วาครูฝึกสอนเป็นใครและจะมีการนัดเจอกันระหว่างเพื่อน ม.ต้น เมื่อกาลก่อนแต่คนเดียวที่ไม่รู้คือนิชิคาตะที่ทาคากิซังจงใจแกล้งปิดบังไว้ จนเมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันในฐานะครูที่เป็นผู้ใหญ่ได้จัดการบางอย่างร่วมกันวันเวลาเก่าๆก็เหมือนหวนคืนแน่นอนมันพาความรู้สึกที่ถูกเก็บไว้ในเวลานั้นให้เอ่อล้น แต่นิชิตาตะก็ยังทึ่มเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนในขณะที่ทาคากิซังก็ไม่กล้าพอที่จะออกตัวแรงๆจนเมื่อบทเรียนของนักเรียนในชั้นที่ทาคากิซังกับนิชิคาตะดูแลร่วมกันมากระตุ้น สุดท้ายคนแกล้งและคนที่เต็มใจถูกแกล้งจะได้เผยความในใจเมื่อไหร่กันนะ... ง่ายๆไม่ต้องซับซ้อนสานต่อเนื้อหาที่อยากรู้เพื่อเดินไปสู่บทสรุปที่ต้องการที่เหมือนไม่มีอะไรแต่มีอะไรตามสไตล์ญี่ปุ่น นี่คือการเล่าเรื่องที่ง่ายไม่มีลีลาแต่ลื่นไหลนั่นเพราะนี่คือการสานต่อเนื้อหาที่คนดูที่ได้ดูฉบับซีรีส์มาคุ้นเคยและรู้ทางว่ามันจะเป็นอะไรยังไง แต่ต้องออกตัวก่อนว่าแม้ผู้เขียนจะดูฉบับซีรีส์มาและอยู่ในระดับที่ชอบเลยแต่ฉบับมังงะหรืออนิเมะไม่เคยผ่านตามาก่อนทำให้ความรู้สึกจึงเต็มไปด้วยความค้างคาอยากเอามะเหงกเขกกบาลนิชิคาตะสักทีที่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ซึ่งนั่นคือจุดขายของฉบับซีรีส์ที่สามารถลากเรื่องเล่าได้อย่างมีสีสันแม้ไม่ฉูดฉาดแต่ก็สวยจนบทสรุปที่มีสร้างความอยากรู้อย่างหนัก แล้วหนังก็สานต่อตรงนั้นตรงที่คนดูอยากรู้โดยอ้างถึงฉบับซีรีส์ทำให้ดูแล้วอารมณ์เดิมมันกลับมาไม่ต่างจากตัวละครทั้งสองซึ่งนับว่าร้ายกาจ แถมด้วยการมีดราม่าจางๆแฝงไว้กระตุกใจตามสไตล์ญี่ปุ่นที่จะไม่เร่งเร้าบีบคั้นและโลกสวยทำให้เหมือนจะไม่มีอะไรเดินไปเรื่อยๆแต่มีอะไรแฝงไว้สวยๆเลยเพื่อเดินไปสู่บทสรุปที่คนดูต้องการช่างแสนรู้เสียนี่กระไร อุดมไปด้วยความน่ารักเหมือนกับฉบับซีรีส์ที่สร้างรอยยิ้มที่มีความสุขเนื้อหาสวยงามไม่มีพิษไม่มีภัยในความพอดีที่ลงตัว เมื่อเดินตามหรือสานต่อเนื้อหามาจากฉบับซีรีส์สิ่งที่ทำได้ดีคือการคืนอารมณ์ตรงนั้นมาอย่างครบถ้วนและเดินตามทางเส้นนั้นอย่างเคร่งครัด หรือเรียกได้ว่าอะไรที่คนดูรักจากฉบับซีรีส์ฉบับหนังก็หยิบเอามาเอาใจคนดูอย่างถึงขนาดแม้ว่าจะเหมือนการย้อนฉากซ้ำซีนเพื่อจับอารมณ์ตรงนั้นแต่เมื่อถึงเวลาหนังก็มีอรรถาธิบายได้ลงตัว ซึ่งความจริงในฉบับซีรีส์ก็จะเล่าเรื่องประมาณนี้คือเด็กสองคนชอบกันคนหนึ่งแกล้งอีกคนเพื่อให้อีกฝ่ายสนใจอีกคนก็เต็มใจให้แกล้งเพราะมีความสุขมันคือความชอบนั่นแหละดูออก และในฉบับหนังก็พัฒนาขึ้นมาตามวัยวุฒิเมื่อตัวละครอยู่ในวัยที่มีความรักได้เต็มที่จากคามชอบก็ลายเป็นความรักแต่ระหว่างนั้นหนังก็เดินตามทางความน่ารักอย่างดี ทำให้จุดเด่นที่เคยมีคือภาพสวยทิวทัศน์งดงามสบายตาเนื้อหาสวยดีต่อใจยังคงโดดเด่น จนถึงขนาดยิ้มไม่หุบตลอดเวลาที่ดูดูแล้วมีความสุขบนความพอดีที่ลงตัวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ใช้นักแสดงที่มีชื่อเสียงมากกว่าและมีเสน่ห์มากกว่าทำให้เพลินตาชุ่มชื่นหัวใจกับการสวมบทบาทที่เหมือนถอดบล็อคออกมา เมื่อเรื่องเล่าหลังจากเวลาในเรื่องผ่านไปสิบปีสิ่งที่ทำไม่ได้คือการเอานักแสดงฉบับซีรีส์มาเล่นบทเดิมเพราะวัยยังไม่ได้ความเปลี่ยนแปลงยังไม่ชัด แต่สิ่งที่มักจะเป็นปัญหาในการเปลี่ยนตัวนักแสดงคือเค้าหน้าที่ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ยังมีแต่ถูกทดแทนได้ด้วยการสวมบทบาทจนลงตัวชนิดที่ถอดบล็อคบุคลิกกันมา นั่นทำให้ลบความน่ากังขาตรงนั้นไปได้เพราะลักษณะทางบุคลิกและการแสดงออกเหมือนถอดแบบกันมาเชื่อได้ว่าคือเด็กคู่นั้นที่โตแล้วซึ่งนี่คือความน่าชื่นชมด้านการแสดง อีกสิ่งคือการได้นักแสดงระดับเมอิ นากาโนะที่เสน่ห์และพลังดารามากกว่ารูอิ สึคิชิมะในฉบับซีรีส์ที่มีเสน่ห์แต่พลังดารายังไม่จัด เช่นเดียวกับฟูมิยะ ทาคาฮาชิที่เสน่ห์มีมากกว่าโซยะ คุโรคาวะที่ยังดูดิบในฐานะนักแสดงทำให้ชุ่มชื่นหัวใจและสายตาดูแล้วเพลิน หนังยังมาพร้อมเพลงประกอบเดียวกับฉบับซีรีส์ซึ่งเป็นข้อดีเพราะนี่คือสิ่งที่คนดูต้องการอยู่แล้ว ดูเพลินจนลืมเวลาแม้ว่าเหมือนไม่มีดราม่าหรือสิ่งเร้าที่รุนแรงแต่แม้จะเป็นเช่นนั้นก็มีบทสรุปสุดท้ายที่ได้ลุ้นไม่น้อย เอาจริงหนังแทบไม่มีอะไรเดินหน้าเรียบง่ายออกจะเรื่อยๆด้วยซ้ำแถมเหมือนจะมาเพื่อขายเสน่ห์ของเมอิ นากาโนะกับฟูมิยะ ทาคาฮาชิเต็มที่ ซึ่งถ้ามองในความเป็นเอกเทศมันเป็นแบบนั้นแต่ถ้าคนที่ได้ดูฉบับซีรีส์มาจะเห็นอีกอย่างคือเหมือนการหยิบเอาลูกเล่นที่คนดูชอบหรือรักในซีรีส์มาเล่าในเนื้อหาเดิมแต่มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ทำให้หนังอาจไม่มีดราม่าจัดจ้านไม่มีสิ่งเร้ารุนแรงไม่มีตัวร้ายนางอิจฉาเล่าเรื่องคนสองคนที่กว่าจะเอื้อนเอ่ยวาจาสารภาพออกมาก็ต้องลุ้นกันนานสองนาน แล้วเมื่อหนังเดินไปแบบนั้นด้วยจุดขายของความทึ่มของเจ้านิชิคาตะที่ในซีรีส์ยังพอเข้าใจได้เพราะยังเด็กอยู่แค่ ม.ต้น แต่สิบปีให้หลังเพื่อนแต่งงานไปแล้วยังไม่หายทึ่มอันนี้อยากเขกกะโหลก ทำให้หนังมีบทสรุปที่ลุ้นทั้งหัวใจแม้จะไม่ใช่หนังทริลเลอร์รอหักมุมใดๆ แถมยังรู้ทั้งรู้ว่าจะต้องลงเอยนะแต่ยังไม่วายลุ้นเพราะหนังสร้างอารมณ์ร่วมมาตั้งแต่ฉบับซีรีส์แล้วมาสุกงอมกันตอนนี้ ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 จาก Instagram takagi3_2024 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !