เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา GDH ได้มีการปล่อยตัวอย่างภาพยนตร์ "หลานม่า" ที่เชื่อว่าหลายคนตั้งตารอชมผลงานของนักแสดงนำอย่าง บิวกิ้น พุฒิพงศ์ ซึ่งตัวหนังกำหนดเข้าฉายจริงวันที่ 4 เมษายนที่จะถึงนี้ บอกเล่าเรื่องราวครอบครัวคนจีนในไทยผ่านตัวละคร เอ็ม (บิวกิ้น พุฒิพงศ์) ที่หวังรวยเหมือนลูกพี่ลูกน้องที่ดูแลอากงจนกลายเป็นทายาทมรดกสิบล้านเพียงคนเดียวเมื่ออากงตาย เอ็มจึงหันมาดูแล อาม่า (แต๋ว อุษา) ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเพราะหวังสมบัติบ้าง แต่สิ่งนี้กลับกลายเป็นการทำให้ตัวละครเอ็มได้เข้าใจความหมายของคำว่า 'ครอบครัว' มากยิ่งขึ้น โดยเรื่องราวทั้งหมดจะถูกถ่ายทอดผ่านผู้กำกับ พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ซึ่งหลังจากที่ได้รับชมตัวอย่างจบ สิ่งที่ตกตะกอนมันคือมวลอารมณ์ของเรื่องและความคาดหวังในเนื้องานเรารู้สึกว่าตัวอย่างและเรื่องย่อที่ถูกปล่อยออกมา ถึงจะเล่าเยอะเกินไปสำหรับการที่ควรจะให้คนดูได้ไปเห็นเรื่องราวเองในจอภาพยนตร์ แต่ด้วยความที่พล็อตไม่ได้แปลกใหม่อะไร เล่าเพียงความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน โดยเน้นที่อาม่ากับหลานเป็นหลัก ใดใดคือเชื่อว่าคนดูสามารถเดาเรื่องราวได้ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ แล้วระหว่างทางยังไงล่ะ โมเมนต์ต่าง ๆ การกลืนเข้าหากัน ซีนอารมณ์ การตอบโต้ของตัวละคร นี่คือสิ่งแท้จริงที่หนังแนวนี้ต้องการที่จะให้ประสบการณ์กับผู้ชม ซึ่งจะดีหรือไม่นั้น มักมาจากบทภาพยนตร์ ฝีมือผู้กำกับและศักยภาพของนักแสดงเป็นหลักมีเรื่องของช่องว่างระหว่างอายุ ที่ส่วนตัวรู้สึกว่าน่าสนใจและน้อยค่ายหนังในไทยที่จะทำ หรือหากทำ ก็ไม่ใช่แนวดราม่า การที่จะได้เห็นโมเมนต์ของคนที่อายุห่างกันราว 50 ปีพูดคุยกันเรื่องต่าง ๆ มันเป็นสิ่งที่เราคาดหวังให้มันออกมาลงตัวและเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับเราได้ไม่มากก็น้อย จากตัวละครที่คนหนึ่งผ่านโลกมาจนสุกงอมกับอีกคนที่อาจจะพึ่งเข้าใจความหมายของคำว่าชีวิตด้วยซ้ำ อีกสิ่งคือความขาว ดำ เทา ของตัวละครเอ็ม ว่าจะไปสุดที่ไหน จนบทสรุปสุดท้าย เราจะรักหรือจะเกลียดตัวละครตัวนี้ ซึ่งล้วนเป็นคำตอบของผู้กำกับที่มีไว้ในใจ และสุดท้ายแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้จะให้อะไรแก่สังคมได้บ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นน้อยมาก ๆ แล้วแต่วัตถุประสงค์ อาจจะทำมาเพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียวก็ได้ แต่หากมี ก็จะเป็นการยกระดับตัวหนังขึ้นไปอีกในมุมมองของเรา เพราะส่วนตัวเรา เพียงแค่ดูตัวอย่างแรกนี้จบ เราก็คิดถึงใครคนหนึ่งที่อาจจะไปเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์แล้วส่วนเรื่องของงานสร้างและการตัดต่อ เราเชื่อมือ GDH มาตลอด เพราะเขาทำออกมาได้ดีมีมาตรฐานเกือบทุกเรื่อง กับเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน เช่นเดียวกับงานอาร์ตภายในเรื่อง ความเป็นชนชั้นกลาง ความเป็นครอบครัวคนจีนในไทย ต้องปรบมือให้เพราะทำถึง และขอวกกลับมาที่ประเด็นเรื่องของคนแก่ สิ่งนี้ที่เล่าผ่านตัวอย่างเพียงไม่กี่นาทีก็หยิบมาเล่าได้เรียลมาก ๆ บั้นปลายชีวิตของเขา เขาจะมองอยู่แค่ไม่กี่อย่าง หลัก ๆ คือตัวเขาเองได้ให้อะไรกับคนอื่นแล้วบ้างและมันงอกเงยมั้ย ถ้าเขามองเห็น ชีวิตนี้เขาก็พร้อมละ และความเหงาก็เป็นอีกสิ่งที่ควบคู่กับมา ซึ่งหากอย่างแรกเขามองยังไม่เห็น การได้มีคนหาเวลามาคอยดูแลเขาก็อาจจะช่วยให้ไม่หมกมุ่นกับสิ่งที่เขาทำยังไม่สำเร็จและมีความสุขกับชีวิตปัจจุบันที่เป็น ไม้ใกล้ฝั่ง ได้เช่นกันโดยสรุป จากตัวอย่างภาพยนตร์ หลานม่า ที่ปล่อยออกมาพร้อมทั้งเรื่องย่อของเรื่องราวทั้งหมด อาจจะไม่ใช่แนวทางที่แปลกใหม่จากทางค่ายหนัง แต่ก็เป็นทางที่น่าสนใจในการหยิบเอาประเด็นเรื่องของผู้สูงอายุ ช่องว่างระหว่างคนต่างเจน ครอบครัวจีนในสังคมไทยและน่าจะมีมุมของปัญหาจากมรดกตกทอดอีกด้วย ซึ่งอย่างน้อย ๆ เราเชื่อว่าคนที่ตัดสินใจไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ในวันที่เข้าฉาย ซึ่งเริ่มต้นวันที่ 4 เมษายน จะต้องกลับบ้านมาแล้วคิดถึงใครสักคนที่รอคอยเราอยู่บ้านหรือจากไปแล้วก็ตาม ส่วนตัวขอเชียร์ภาพยนตร์ "หลานม่า" ให้ประสบความสำเร็จ ทั้งด้านกระแสการวิจารณ์และรายได้แหล่งที่มา Twitter (X) GDH ภาพหน้าปกภาพประกอบ ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 4 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !