Movie Review Jaat (2025) เดือดล้างอิทธิพล ดูเอามันส์บันเทิงเป็นสรณะอย่าหวังความสมจริง แรงโน้มถ่วง โมเมนตัม หรือหลักฟิสิกส์ใดแต่มันคือเสน่ห์งานแอ็กชั่นแบบอินเดี๊ยอินเดีย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! บางครั้งของบางอย่างก็มีดีที่เอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือนกระทั่งไม่มีใครอยากเหมือนและไม่เหมือนใครที่เมื่อดูแค่ผิวเผินก็รู้ว่ามาจากไหนหนังหรือซีรีส์ก็ไม่ต่างกัน อาจเพราะบริบททางสังคมเป็นตัวกำหนดก็คงมีส่วนทำให้เราสามารถเห็นเอกลักษณ์แห่งเอกบุรุษที่สามารถแยกออกได้ว่านี่คือหนังจากฮอลลีวูดจากเกาหลีจากญี่ปุ่นจากจีนจากไต้หวันจากอินเดียหรือแถวๆนี้เอาที่เคยดูบ่อยๆ แต่สำหรับบางที่ที่มีความคล้ายคลึงกันทางบริบทสังคมหรือมีวัฒนธรรมร่วมกันอาจแยกยากแต่กับอินเดียแล้วมันไม่ใช่เพราะหนังหรือซีรีส์อินเดียจะมีความชัดในแบบอินเดียที่ไม่นับเอาเรื่องเครื่องแต่งกายเสื้อผ้าหน้าผม หนึ่งเลยคือเพลงและฉากร้องเล่นเต้นระบำที่เป็นของคู่กับหนังอินเดียมาช้านานจนปัจจุบันเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงบ้างแต่ยังมี สองคือถ้าว่ากันที่หนังแอ็กชันแบบอินเดียสิ่งที่จะได้เห็นคือภาพสโลว์ที่ถ้าไม่สโลว์อาจย่นเวลาฉายได้พอประมาณลีลาบู๊แบบโนสนโนแคร์ความสมจริงใดๆเรียกได้ว่าแมงโม้บินว่อน แต่นั่นแหละคือเสน่ห์คู่หนังแอ็กชันแบบอินเดียที่พ้องกับนิยามของคำว่าดูเอามันส์ เขามาจากไหนไม่มีใครรู้เขาเป็นใครไม่มีใครทราบและไม่มีใครถามว่าเขาจะไปยังที่ใดเพราะเขาคือชายนิรนาม (Sunny Deol) ร่างกำยำหนวดเครารกครึ้มกำลังเดินทางไปไหนสักที่แต่รถไฟที่โดยสารมาต้องหยุด ด้วยความหิวเขาจึงเดินไปซื้ออาหารปรุงสุกใหม่และกำลังกินอย่างเอร็ดอร่อยแต่แล้วพวกนักเลงปลายแถวในพื้นที่ที่มารังควาญร้านค้ามาชนจนจานอาหารหล่นพื้นและไม่ยอมขอโทษ ชายนินามจึงกระทำการอัดพวกมันซะน่วมเพราะต้องการแค่คำขอโทษแต่ไม่ได้รับเพราะพวกชั่วเป็นลูกน้องของผู้มีอิทธิพล แล้วด้วยสองมือสองเท้าก็พาเขาไปถึงหัวหน้าใหญ่ Ranatunga (Randeep Hooda) ที่เป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองโมตูปาลีรัฐอันธารประเทศ ณ ชายขอบของอินเดีย และที่นี่ที่ที่กฎหมายบ้านเมืองเอื้อมไม่ถึง Ranatunga จึงใช้ความกลัวปกครองโดยเข่นฆ่าชาวบ้านอย่างไม่ไว้หน้าเพื่อเป้าหมายบางอย่าง จนเมื่อชายนิรนามเข้ามาซึ่งเขาจึงทนไม่ได้ที่เห็นพี่น้องพวกพ้องอินเดียของเขาถูกกระทำเยี่ยงมิใช่มนุษย์เขาจึงบุกตะลุยเพื่อล้างบางทรชนเพราะเขาคือชาว Jaat พล็อตง่ายๆแต่เล่นใหญ่ใส่สารพัดใช้เวลาเล่าแทบไม่จำกัดทั้งที่เรื่องมีนิดเดียวแต่ก็ไปได้เรื่อยๆแบบเต็มไปด้วยบาดแผลแต่ใครสน ว่ากันตามตรงเรื่องนี้เอาจริงมีนิดเดียวคือเรื่องของคนจรที่บังเอิญผ่านมายังแดนเถื่อนแดนอิทธิพลแล้วมาเจอเพื่อนมนุษย์ถูกกดขี่ข่มเหงหยามเกียร์ติ แล้วมโนธรรมในใจสั่งให้ยอมไม่ได้จึงเข้าทลายเดนทรชนจนสุดท้ายเขากลายเป็นร้อยตำรวจเอกปลอมตัวมาเอ๊ะคุ้นๆว่าเคยเห็นที่ไหนมาแต่ช่างมันเถอะ กระนั้นแม้เรื่องจะมีนิดเดียวบทหนังยังสามารถเล่าเรื่องไปไกลทั้งที่ไปและที่มาสลับไปมาแต่ว่าไม่งงเพราะเล่าตรงๆไม่มีอ้อมค้อม แน่นอนเมื่อส่วนขยายมันมากจึงมีมากที่เป็นริ้วรอยประมาณเล่านี่มาแล้วปล่อยไว้แล้วไปโผล่นู่นผ่านไปจนลืมก็กลับมาเล่าใหม่เป็นแบบนี้ไปตลอดที่มาพร้อมเรื่องที่ไม่จำเป็นต่อตัวเรื่องอีกเยอะ แต่เรื่องแบบนี้ใครมันจะไปสนเมื่อหนังเดินหน้าเข้าหาฉากแอ็กชันกันไม่ยั้งเพื่อพาคนดูไปมันส์เอาเบื้องหน้าที่ไปได้เรื่อยๆเหมือนเล่าเรื่อยเปื่อยแต่ก็มีจุดหมายแค่แวะฉี่ข้างทางบ่อยอาจเพราะเวลาที่ตั้งไว้มีมากเกินไปก็ไม่ทราบได้แฮะ อัดความมันส์ไม่บันยะบันยังด้วยความเป็นอินเดี๊ยอินเดียที่ไม่มีทางหาได้จากที่ไหนแต่ก็กลายเป็นเสน่ห์ทำให้หนังสนุกได้อย่างที่ต้องการ เมื่อหนังตั้งใจมุ่งไปหาฉากแอ็กชันที่เล่นใหญ่ใส่สารพัดในแบบที่ไม่มีใคร (อยาก) เหมือนในความเป็นแอ็กชันแบบอินเดี๊ยอินเดีย ที่โนสนโนแคร์ความสมจริง แรงโน้มถ่วง โมเมนตัมหรือหลักฟิสิกส์ใดๆแถมยังเต็มไปด้วยภาพสโลว์โมชั่นกันแทบทุกสามวินาที กระทั้งเหลืออีกไม่มากอาจกลายเป็นหนังกำลังภายในแถมด้วยพระเอกที่ไม่ตางจากฉีดเซรุ่มซุปเปอร์โซลเยอร์จากหนัง MARVEL แต่นั่นล่ะคือจุดขายแม้ว่าบางครั้งกำลังมันส์ๆก็ดันเผลอขำออกมาว่าพี่จะเท่ไปไหนสุดท้ายไอ้ที่เป็นอยู่นี่และที่เป็นความบันเทิงทำให้หนังสนุกอย่างที่ใจต้องการ นั่นเพราะการบีบหัวใจด้วยความชั่วสุดขีดที่มนุษย์ทำกับมนุษย์ด้วยกันปานว่ามันไม่ใช่ใช่มนุษย์เพื่อร้องหาความสะใจทำให้คนดูเทใจให้ชายนิรนามผู้ทำเพื่อชาวบ้านตาดำๆ นั่นคือเมื่อแรงแค้นมันระอุความสะใจก็รอเวลาระเบิดเมื่อมาพร้อมความมันส์ไม่บันยะบันยังหนังยาวๆก็กลายเป็นไม่มีความน่าเบื่อ ก็หนังตั้งธงไปที่ความบันเทิงโดยไม่มีพื้นหลังการแสดงจึงมาเพื่อบันเทิงแบบโอเวอร์เล็กน้อยมิติสะเทือนอารมณ์มีก็เหมือนไม่มี เพราะไม่มีอะไรในโลกที่ได้มาฟรีๆโดยไม่ต้องแลกและกับหนังบู๊สะบั้นหั่นแหลกเรื่องนี้ก็แลกความบันเทิงสุดติ่งด้วยความเบาบางในเรื่องของหัวใจ ก็ใช่ที่หนังพยายามเล่าเรื่องพื้นฐานตัวละครสองตัวหลักว่าไผเป็นไผทำไมถึงทั้งเก่งทั้งแกร่งขนาดนั้นที่ยอมรับว่ามาในเวลาที่ไม่ถูกต้องนักและมาเหมือนเพื่อแค่มี ส่วนการบีบอารมณ์ให้คลั่งแค้นด้วยความสงสารก็มีนะไม่ใช่ไม่มีแต่หนังไม่ได้เล่าอย่างมีมิติคือเลือกไม่ลงลึกคือเอาแค่มีอีกเช่นกัน นั่นทำให้การแสดงในบางฉากบางซีนดูโอเวอร์แอ้กติ้งไปบ้างแต่นั่นไม่สำคัญเพราะหนังไม่ได้มาเพื่อเรียลอยู่แล้วตั้งแต่ต้นด้วยเหตุผลที่ตั้งธงไว้ที่ความมันส์ระเบิดเถิดเทิงแหละ แต่สำหรับซีนอารมณ์ที่มันควรมีเพราะความน่าสงสารแต่เมื่อบทมันจับหัวใจคนดูไม่ได้เพราะมัวแต่มันส์ไปกับการตะลุยด้วยหมัดเท้าเข่าศอกซีนอารมณ์จึงประดักประเดิด แต่หนังก็มีดีที่โปรดักชั่นที่อลังการพอดูแต่การบันทึกเสียงกลับห่วยแตกซะงั้น นี่คือนิยามของคำว่า "ดูเอามันส์" กันอีกครั้งสำหรับหนังแอ็กชันแบบอินเดียที่แมงโม้บินบินว่อนแต่ยอมรับเถอะว่ามันส์เป็นบ้าเลย สารภาพอย่างลูกผู้ชายว่าแค่ฉากเปิดที่ลูกหาบธรรมดาจัดการทหารทั้งกองทัพแถมแบกหีบทองขนาดเท่าตัวคนวิ่งปร๋อผู้เขียนเกือบปิดทีวีแล้ว แต่กลับคิดถูกที่ลองดูสักนิดจะเป็นไรไปและฉากเปิดที่ว่าแหละที่ทำให้ผู้เขียนปล่อยใจไปกับหนังได้อย่างไม่อาทรร้อนหนาว เพราะตั้งแต่แรกแมงโม้ก็บินว่อนแล้วแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันสนุกตื่นเต้นตื่นตา (มั้ง) กับลีลาแอ็กชันประมาณนี้ แล้วหนังยังสร้างตัวละครที่ต้องติดตามเพราะบีบอารมณ์ให้เอาใจช่วยพระเอกให้จัดการผู้ร้ายที่ชั่วช้าให้สาสมใจเพราะชั่วได้ชั่วดีทั้งเมียและแม่ ดังนั้นสิ่งที่คนดูได้รางวัลคือความสะใจปนขันเมื่อพระเอกเปิดฉากเล่าเรื่องที่มาของเหตุการณ์บานปลายกับการเข้ามายุ่งโดยไม่ตั้งใจเพราะแค่ต้องการคำขอโทษ แล้วเรื่องแค่นี้แหละที่อำนวยความมันส์บู๊สนั่นจอมาอย่างถึงอกถึงใจทำให้ในเวลาฉายสองชั่วโมงกว่าๆกลายเป็นดูรอบเดียวแต่ก็มีลุกไปดื่มน้ำปัสสาวะบ้างเพราะยาวดีเหลือเกิน ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5,6,7 จาก Instagram netflix_in เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !