[รีวิวหนัง] "Moana 2" งานภาพตะลึงตาแต่เนื้อหาตื้นไปหน่อย
จากแอนิเมชันฮิตพอประมาณของดิสนีย์ในปี 2016 ‘Moana’ ได้กลับมาเป็นสินทรัพย์ที่ดิสนีย์มองเห็นช่องทางสร้างรายได้อีกครั้ง แม้เริ่มต้น ‘Moana 2’ ถูกพัฒนาเป็นแอนิเมชันภาคต่อเพื่อเอาลงดิสนีย์พลัสในปี 2020 แต่สุดท้ายดิสนีย์ก็เลือกนำมาลงโรงฉายในปี 2024 นี้ และยังมีโครงการสร้าง ‘Moana’ เป็นหนังไลฟ์แอ็กชันโดยมี ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) กลับมารับบท มาวอิ ที่เขาให้เสียงพากย์ไว้โดยวางกำหนดฉายไว้ในปี 2026
ว่ากันถึงเรื่องราวใน ‘Moana 2’ ที่คราวนี้ โมอาน่า (พากย์โดย อัลลิ’อิ คราวัลโย่, Auli’i Cravalho) เจ้าหญิงนักสัญจรในฐานะว่าที่หัวหน้าเผ่าโมทูนุย ได้ฤกษ์เดินทางข้ามมหาสมุทรอีกครั้งเพื่อแก้คำสาปของ นาโล เทพผู้เกลียดมนุษย์เข้าไส้ โดยมี โมนี (พากย์โดย ฮัวลาไล ชุง, Hualalai Chung) หนุ่มล่ำศิลปินประจำเกาะโมทูนุย, เคเล (พากย์โดย เดวิด เฟน, David Fane) เกษตรกรเฒ่า และ โลโท (พากย์โดย โรส มาทาฟิโอ, Rose Matafeo) สาวนักประดิษฐ์ นอกจากนี้ภารกิจดังกล่าวยังนำทางเธอไปช่วยเหลือ มาวอิ (พากย์โดย ดเวย์น จอห์นสัน) ลูกครึ่งเทพผู้วิเศษ สหายเก่าของเธออีกด้วย
ต้องบอกว่านอกจากทีมพากย์ตัวละครหลักแล้ว ทีมงานเบื้องหลังใน ‘Moana 2’ ส่วนใหญ่แทบจะเป็นทีมใหม่หมดจดตั้งแต่ทีมกำกับและเขียนบทภาพยนตร์ และเป็นบทภาพยนตร์นี่แหละที่เหมือนทำหัวใจของความเป็นโมอาน่าดูจืดจางไปหน่อย เพราะหากเราย้อนกลับไปดูหนังภาคแรกเราจะพบหัวใจของเรื่องราวที่ผู้ชมเชื่อมโยงได้ทั้งการพิสูจน์ตัวเองต่อครอบครัวของโมอาน่า การเรียกคืนความเชื่อมั่นของมาวอิ หรือกระทั่งมุกตลกที่หนังแวะเล่นรายทางก็เรียกเสียงหัวเราะให้ผู้ชมได้แบบไม่ขัดเขิน
ทำให้สิ่งที่น่าเสียดายมากสำหรับบทภาพยนตร์ของ ‘Moana 2’ คือการที่มันวางเรื่องราวหลักไว้เพียงภารกิจหรือเควสต์ของฮีโรที่โมอาน่าจะต้องไปปฏิบัติมันให้สำเร็จเพื่อรองรับฉากแอ็กชันอลังการและขายในสิ่งที่หนังดิสนีย์ขายได้คือความน่ารักของคาแรกเตอร์เจ้าหมูพัว หรือความกวนของเจ้าไก่ เฮย์เฮย์ รวมถึงฉากแอ็กชันน่าตื่นตากับเจ้านักรบมะพร้าวตัวจิ๋ว คากาโมรา แต่กับคาแรกเตอร์ใหม่ ๆ ทั้ง โมนี, เคเล และ โลโท ยังรู้สึกว่ามีบทบาทกับเรื่องราวน้อยไปหน่อย แม้จะมีซีนดี ๆ ของ โลโท ที่คราวนี้ โรส มาทาฟีโอ ได้โอกาสโชว์การแรปได้น่าประทับใจก็ตาม
นอกจากงานบทภาพยนตร์แล้ว อีกส่วนที่รู้สึกได้เลยคืองานกำกับและตัดต่อของหนังที่ดูรวบรัดตัดตอนกว่าหนังภาคแรกราวกับเราดูหนังในสปีด X2 ซึ่งข้อดีคือหนังแทบจะไร้ความเอื่อยเฉื่อยและเดินเรื่องเร็วเข้าซีนน่าตื่นเต้นเร็ว แต่อย่างที่บอกว่ามันก็ทำให้เสน่ห์ของดราม่าในหนังลดทอนลงไป ซึ่งหนังภาคนี้พยายามพูดถึงการกล้าลองอะไรใหม่ ๆ แต่หนังก็ไม่ค่อยเปิดโอกาสให้เราซึมซับสารที่มันต้องการจะสื่อได้มากพอเท่าไหร่
ส่วนงานพากย์เสียงโดยภาพรวมสำหรับเสียงภาษาอังกฤษ นักแสดงทั้ง อัลลิ’อิ คราวัลโย่ กับ ดเวย์น จอห์นสัน ยังคงทำหน้าที่ได้ดีเช่นเดิม และเหมือนหนังให้แอร์ไทม์กับคาแรกเตอร์ มาวอิ เยอะเป็นพิเศษเสียด้วย หนังภาคนี้เราเลยได้ยินเสียงจอห์นสันทั้งพากย์แบบขี้เล่นและร้องเพลงกันแบบจัดเต็ม ซึ่งแฟนของพี่หิน เดอะร็อค คงถูกใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ส่วนงานเพลงประกอบต้องยอมรับว่าเพลงในหนังแทบไม่มีเพลงติดหูสักเท่าไหร่ และเพลงส่วนใหญ่ก็มีฟังก์ชันเพื่อเป็นเพลงคั่นเรื่องราวมากกว่าบอกความรู้สึกและช่วยในการเล่าเรื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะมาจากทีมทำเพลงใหม่ที่ไร้เงาของ ลิน มานูเอล มิแรนดา (Lin Manuelle Miranda) ที่เคยแต่งเพลงให้หนังภาคแรกจนทำให้ภาพรวมของเพลงนำภาพยนตร์หรือ Original Song ในหนังเป็นเพลงที่ฟังผ่าน ๆ ประกอบหนังตอนดูเท่านั้น
แม้จะมีข้อเสียมากมายตามที่ยกมา แต่ถ้าถามว่ามันมีผลทำให้ความสนุกของหนังลดลงไหม ก็ต้องบอกว่ามันยังคงตอบโจทย์ความบันเทิงสำหรับครอบครัวไร้พิษภัย เด็ก ๆ จะเอ็นจอยกับภาพและเสียงของหนังได้ไม่ต่างจากหนังภาคแรกแน่นอนครับ โดย ‘Moana 2’ เปิดรอบพิเศษแล้ววันนี้ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ทั้งในระบบปกติและระบบ IMAX ที่จะให้ภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่าโรงทั่วไปด้วยอัตราส่วนภาพ 2:1 เต็มเฟรม (ในบางสาขาเช่น IMAX Quartier Cineart) และจะเข้าฉายจริงในวันพุธที่ 4 ธันวาคม 2567 นี้ครับ
โดย มโน วนเวฬุสิต