มนุษย์ใช้แล้วทิ้ง กับคำถามเรื่องชีวิตที่ “ไม่มีวันตาย” “Mickey 17” ผลงานล่าสุดจาก บงจุนโฮ ผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์จาก Parasite กลับมาอีกครั้งในโลกภาพยนตร์ด้วยการพาผู้ชมท่องไปสู่จักรวาลไซไฟอันบิดเบี้ยว ซับซ้อน และเต็มไปด้วยสัญญะทางสังคม โดยหยิบนิยายไซไฟเรื่อง Mickey 7 ของ Edward Ashton มาตีความและต่อยอดใหม่ให้เป็น “Mickey 17” ทั้งในชื่อและเนื้อหาที่ทะเยอทะยานกว่าเดิม รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ มิกกี้ บาร์นส์ (รับบทโดย โรเบิร์ต แพททินสัน) ชายหนุ่มผู้ขัดสนทางการเงิน เลือกสมัครเป็น “มนุษย์ใช้แล้วทิ้ง” อาชีพที่หมายถึงการตายซ้ำ ๆ เพื่อรับภารกิจเสี่ยงตายบนดาวน้ำแข็ง Nifheim ซึ่งทุกครั้งที่เสียชีวิต ระบบจะสร้างร่างโคลนใหม่พร้อมอัปโหลดความทรงจำทั้งหมด ทว่า เมื่อ “มิกกี้ 17” ถูกสันนิษฐานว่าเสียชีวิตก่อนเวลา ระบบจึงผลิต “มิกกี้ 18” ขึ้นมาแทน โดยไม่รู้ว่า “มิกกี้ 17” ยังมีชีวิตอยู่ ภายใต้กฎของอาณานิคมที่ห้ามการมีอยู่ของสองร่างในเวลาเดียวกัน ทั้ง “มิกกี้ 17” และ “มิกกี้ 18” จึงตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก นอกจากจะต้องหลบเลี่ยงการตรวจจับจากระบบอำนาจเผด็จการ พวกเขายังต้องหาคำตอบให้กับ “ตัวตน” และ “สิทธิในการมีชีวิต” ของตนเองด้วย บงจุนโฮ: ยิ่งกว่านักเล่าเรื่องไซไฟ คือผู้ตั้งคำถามต่อสังคม แม้ชื่อเสียงของ บงจุนโฮ จะผูกโยงกับงานอย่าง Parasite หรือ The Host ที่เน้นการเสียดสีชนชั้นและครอบครัว แต่แท้จริงแล้ว เขาคือผู้กำกับที่คุ้นเคยกับโลกไซไฟมาตั้งแต่ Snowpiercer และ Okja ดังนั้นการเลือกสร้าง Mickey 17 จึงไม่ใช่การ “หลุดธีม” แต่กลับเป็นการพาผู้ชมเข้าสู่พื้นที่ใหม่ที่ยังคงสะท้อนปรัชญาแบบ “บงจุนโฮ” อย่างชัดเจน ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาหยิบประเด็นหนัก ๆ อย่าง “ความเป็นมนุษย์” “คุณค่าของชีวิต” “อัตลักษณ์” และ “อำนาจรัฐ” มาผูกโยงเข้ากับโครงเรื่องไซไฟที่มีทั้งการโคลนนิ่ง การอัปโหลดความทรงจำ และการตั้งคำถามว่า “อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรายังเป็นเรา” หากร่างเปลี่ยน ความทรงจำซ้ำ และความตายไม่ใช่จุดจบอีกต่อไป สองมิกกี้ กับการแสดงสุดท้าทายของ โรเบิร์ต แพททินสัน หนึ่งในจุดแข็งที่สุดของภาพยนตร์คือการแสดงของ โรเบิร์ต แพททินสัน ที่สามารถแยกบุคลิกของมิกกี้ 17 และมิกกี้ 18 ได้อย่างชัดเจน โดยมิกกี้ 17 คือชายผู้หมดไฟ เหนื่อยล้า และหวาดกลัวต่อการตายซ้ำไม่รู้จบ ขณะที่มิกกี้ 18 กลับแสดงออกถึงความแข็งกร้าว กล้าหาญ และหุนหัน เป็นการแสดงที่ดึงความขัดแย้งภายในตัวละครออกมาได้ดีและชวนติดตาม เนื้อเรื่องเข้มข้น แต่จังหวะหนังไม่สมูธ แม้ไอเดียจะยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์เต็มไปด้วยสัญญะที่ชวนขบคิด แต่ Mickey 17 กลับมีจังหวะการเล่าที่ไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะครึ่งแรกของเรื่องที่ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า ปูพื้นให้ตัวละครและโลกของ Nifheim มากเกินไปจนบางช่วงดูอืดเอื่อย และอาจทำให้ผู้ชมหลุดโฟกัสได้ง่าย สิ่งที่ชวนให้เสียดายคือการนำเสนอ “ความผิด” ที่ร้ายแรงอย่างการมีมิกกี้สองคนพร้อมกัน กลับถูกเล่าผ่านอารมณ์ขันแบบ “ทีเล่นทีจริง” ที่ลดทอนความตึงเครียดของสถานการณ์ แถมบางตัวละครผู้นำในเรื่อง ยังถูกออกแบบให้ตื้นเกินไป จนไม่สามารถผลักดันแรงปะทะทางอุดมการณ์ให้ลึกซึ้งมากพอ ด้านภาพและงานสร้าง ด้านงานภาพและ CG โดยรวมอยู่ในระดับมาตรฐานฮอลลีวูด มีบางฉากที่โดดเด่นและสวยงาม โดยเฉพาะภาพของดาวน้ำแข็งและฉากภายในยานที่สะท้อนอารมณ์อึดอัดได้ดี แม้จะไม่หวือหวาหรือล้ำเท่า Interstellar หรือ Dune แต่ก็มีเอกลักษณ์และคงโทนดาร์กที่สื่อถึงโลกอนาคตอันโหดร้ายได้ชัดเจน เหตุผลที่ไม่ควรพลาด Mickey 17 ผู้กำกับระดับออสการ์กลับมาอีกครั้ง นี่คือผลงานการกลับมาของ Bong Joon Ho หลังห่างหายไปเกือบ 6 ปีหลัง Parasite ผลงานใหม่ของเขาย่อมถูกจับตา และครั้งนี้เขาเลือกเล่าเรื่องไซไฟด้วยกลิ่นอายแบบที่ถนัด – เสียดสี สะท้อนสังคม และแฝงปรัชญา บทบาทสุดท้าทายของ โรเบิร์ต แพททินสัน การแสดงบทบาท “สองชีวิตในร่างเดียว” อย่างมิกกี้ 17 และ 18 แสดงให้เห็นศักยภาพการแสดงขั้นสุดของแพททินสัน เป็นการยืนยันว่าเขาเป็นนักแสดงที่ท้าทายตัวเองอยู่เสมอ ประเด็นชวนคิดหลังดูจบ หนังไม่ใช่ไซไฟธรรมดา แต่คือการตั้งคำถามเชิงลึกเกี่ยวกับคุณค่าของชีวิต อัตลักษณ์ และอำนาจทางการเมือง ที่แม้จะแฝงอยู่ในอวกาศ แต่สะท้อนโลกจริงอย่างเจ็บแสบ สำหรับสายหนังลึก และคอหนังปรัชญา หากคุณคือคนดูที่ชอบหนังที่ต้องคิด วิเคราะห์ ตีความ และพูดคุยต่อหลังดูจบ Mickey 17 คือพื้นที่แห่งบทสนทนาและมุมมองที่แตกต่างอย่างแท้จริง บทสรุป Mickey 17 คือหนังไซไฟที่ทะเยอทะยานมากทั้งในแนวคิดและประเด็นที่หยิบมาเล่า แม้ในแง่ของความบันเทิงและการเล่าเรื่องจะยังมีจุดสะดุด โดยเฉพาะจังหวะการเดินเรื่องและความหนักแน่นของบางตัวละคร แต่ในด้าน “ความคิด” และ “สาร” หนังเรื่องนี้มีความลึกและน่าขบคิดอย่างมาก เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชอบหนังไซไฟที่ไม่เพียงแค่ล้ำในภาพ แต่ยังลึกในใจ คะแนน: 8.5 / 10 เหมาะสำหรับคนที่ชอบ Parasite, Snowpiercer, หรือหนังที่ผสมไซไฟกับการตั้งคำถามทางสังคมแบบเฉียบคม รูปภาพที่ 1,2,3,4,5,6,7 นำมาจาก ig ของ mickey17 รูปภาพหน้าปก นำมาจาก ig ของ mickey17 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !