Series Full ReviewDear My Friends : เพื่อนกันจนวัยดึกมิตรภาพอันเป็นนิรันดร์ ความสวยงามของการเข้าใจผู้สูงวัย และการเดินเข้าหาวาระสุดท้ายอย่างมีความสุขNETFLIX : 1 Season 16 Episodes (2016)ใครบางคนเคยบอกกับผู้เขียนว่าถ้าหากได้ดูซีรีส์เกาหลีแล้วเจองานที่ประทับใจอย่างแรงจะเกิดอารมณ์ประมาณซีรีส์จบคนไม่จบ Passion ในการดูใหม่จะถดถอยและมันคงจะจริงเพราะหลายครั้งที่เราดูซีรีส์ชั้นเยี่ยมแล้วผู้เขียนมักจะมีอาการหน่วงในอารมณ์ หมดความท้ามายที่จะไปดูเรื่องอื่นและมันพิสูจน์อีกครั้งหลังจากที่ดู Doctor Prisoner จบแล้วรู้สึกถึงพลังงานในการดูซีรีส์เรื่องใหม่ลดลง เหมือนกับกลัวที่จะได้เจอกับงานที่น่าผิดหวังซึ่งอันที่จริงมันไม่ถึงขนาดนั้น แต่สำหรับงานชิ้นเยี่ยมที่ประทับใจสุดๆนั้นที่จริงก็นับเรื่องได้ผู้เขียนจึงมีวิธีการปรับอารมณ์กลับมาคือการหาหนังดูบ้าง เพื่อปรับความรู้สึกให้เข้าที่เข้าทาง เช่นคราวนี้ที่เมื่ออารมณ์ยังตึงกับหมอในเรือนจำจึงหันไปดูหนังไปสามเรื่องคือ Double World (2019),Rampant (2018) และ The Chase (2017)แล้วทันทีที่ดูเรื่องสุดท้ายจบ ด้วยการที่เป็นหนังเล่าเรื่องของชายชราปากร้ายแต่จิตใจดี ที่ทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกลักพาตัว ทุกการกระทำของเขาสวนทางกับบุคลิกและปากคอที่เราะร้าย ทำให้สมองหวนไปนึกถึงงานซีรีส์ที่กดไว้เป็น My List ใน NETFLIX ไว้นานพอดูแต่ก็ละเลยมาตลอด จนในที่สุดเมื่อตัดสินใจลองเปิดดูกลับพบความงดงามของเรื่องราวของมิตรภาพที่เป็นนิรันดร์ของเหล่าผู้สูงวัย การมองโลกอย่างเข้าใจของพวกเขา ความงดงามของความรักในหลายมุมมอง และการเดินเข้าสู่วาระสุดท้ายของชีวิตด้วยรอยยิ้ม ในซีรีส์ที่นักแสดงหลักอายุรวมกันหลายศตวรรษ แต่กลับเล่าเรื่องได้อย่างมีมิติ ทรงพลัง และงดงามที่สุด Dear My Friendsเรื่องย่อเรื่องราวของพัควาน (โกฮยอนจอง) นักเขียนนิยายสาวโสดวัยใกล้เลขสี่ ที่ชีวิตของเธอถูกรายล้อมไว้ด้วยคนชราผู้สูงวัยที่เป็นเพื่อนๆกับแม่ของเธอคือชางนันฮี (โกดูชิม) เจ้าของร้านอาหารชื่อดัง ส่วนเหล่าเพื่อนๆสูงวัยของแม่วานประกอบด้วยป้าโชฮีจา (คิมฮเยจา) ผู้ที่น่าจะมีชีวิตที่สุขสบายเพราะลูกๆมีหน้าที่การงานดีและดูแลแม่อย่างดี ป้ามุนจองอา (นามูนฮี) หญิงชราชนชั้นกลางที่มีความฝันจะไปเที่ยวรอบโลกกับสามีที่ร้ายทังปากและการกระทำ ป้าโอชุงนัม (ยูยอจอง) หญิงชราผู้ไม่เคยแต่งงานและร่ำรวย และน้าอียองวอน (พัควอนซุค) ดาราดังรุ่นใหญ่ผู้มีความหลังฝังใจจนไม่มองหน้ากันกับแม่ของวานเองถ้านั่นยังไม่วุ่นวายหนักพอครอบครัวของวานเองยังมียาย (คิมยองอ๊ก) ที่ยังแข็งแรงอยู่อีกคน ในขณะที่ตัวเธอเองเรื่องก็ไม่ได้ปิดบังว่าเธอมีคนเคยรักที่อยู่ห่างไกล แต่ต้องมีเหตุให้ต้องเลิกรากันอย่างเป็นปริศนาคือซอยอนฮา (โจอินซอง) และเรื่องก็ไม่ได้ซ่อนเร้นอารมณ์ของวานว่า ในฉากหน้าของความยิ้มแย้มของเธอนั้นได้ซ่อนความรำคาญในความชราภาพของคนรอบข้างเธอจนกระทั่งวันหนึ่งเธอต้องไปส่งแม่ ป้ายองจา และป้านันฮีไปงานรวมศิษย์เก่าโรงเรียนประถมของเหล่าผู้สูงวัยอย่างเสียมิได้ และสิ่งที่เธอเห็นและได้สัมผัสเรื่องราวบางประการได้ทำให้สายตาเธอเริ่มเปลี่ยนมุมที่จะมองผู้ชรา และมันนำพาให้เรื่องราวเล่าถึงการเขียนนิยายเกี่ยวกับชีวิตผู้ชรารอบข้างตัวเธอในมุมมองที่เข้าใจ เข้าใจในพื้นฐานของชีวิต เข้าใจความงดงามของมิตรภาพ เข้าใจในการลดช่องว่างระหว่างวัย เล่าผ่านการบอกเล่าของพัควานในเรื่องราวหลากหลายมิติหลากหลายตัวละคร แต่ล้ำลึกเชิงอารมณ์และงดงามอย่างที่สุดอีกเรื่องหนึ่งบทที่ไร้ที่ติที่มอบความสวยงามผ่านเรื่องราวหนักหนาที่หลากหลาย จนกลายเป็นเข้าถึงทุกมิติอารมณ์ในความเห็นส่วนตัวผู้เขียนมองเรื่องนี้ว่าดูคล้ายความสวยงามในเรื่องราวที่แสนประทับใจใน It's Okay,That's Love (2014) ด้วยโทนเรื่อง งานด้านภาพ และที่ชัดที่สุดคืองานดนตรีประกอบที่ไม่แน่ใจว่าเป็นเพลงเดียวกันหรือ ไม่แต่โทนของเพลงและจังหวะในการปล่อยเพลงที่ลงตัวเสริมส่งอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม อาจเพราะเป็นบทจากปลายปากกาของโนฮีคยองเหมือนกัน และอีกอย่างที่เหมือนกันคือโจอินซอง ด้วยโทนเรื่องที่ไปในทางเดียวกันผู้เขียนมองว่า ถ้า It's Okay,That's Love คือความยอดเยี่ยมในการมองผู้ป่วยจิตเภทด้วยความเข้าใจและมอบความรักให้ เรื่องนี้ก็คือการมองผู้สูงอายุด้วยความเข้าใจและมอบความรักให้เช่นกัน และมันคือความงดงามในการนำเสนอ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ซีรีส์เรื่องนี้จะคว้ารางวัลแพ็คชัง อาร์ต อวอร์ดส 2017 ในสาขาซีรีส์ยอดเยี่ยม และบทโทรทัศน์ยอดเยี่ยม เพราะมันละเมียดละมัย อบอุ่นละมุนหัวใจ มอบให้ทุกมิติทางอารมณ์ทั้ง โศก ซึ้ง ตื้นตัน และอิ่มเอม ด้วยความไร้ที่ติของตัวบทที่ลงตัวและสมบูรณ์แบบในทุกอารมณ์ความรู้สึกไม่ว่าจะมองในมุมไหน มุมของมิตรภาพระหว่างเพื่อน มุมความเป็นลูก มุมความเป็นแม่ มุมความเป็นพ่อ หรือแม้แต่มุมของคนรักทั้งในวัยหนุ่มสาวและในวัยชราที่ต้องเรียกว่าคู่ชีวิต บทเยี่ยมมากในการใส่มิติเชิงลึกให้ทุกเรื่องราวปลีกย่อยและทุกตัวละครที่ล้ำลึก ทั้งที่ตัวละครเยอะแยะมากมายแต่ไม่มีการละเลย หลงลืม หรือมาแบบลอยๆแม้แต่คนเดียวและความมากมายด้วยตัวละครมันคือความเยอะของประเด็นส่วนตัวและครอบครัวที่แต่ละคนที่เรื่องต้องเล่าให้ลึกได้ เพราะไม่มีใครในเรื่องนี้มีชีวิตหรือมีปูมหลังที่ปกติแม้แต่คนเดียว ทุกคนล้วนแต่มีปมในใจมีรอยแผลในอดีตที่บาดลึก ซึ่งถ้าบทไม่ดีพอไม่มีทางเล่าเรื่องดราม่าหนักหนาให้ออกมาสวยงาม อบอุ่นตื้นตันแต่ก็โศกเศร้าเคล้าซาบซึ้งได้ลงตัวขนาดนี้ได้ และถ้าบทเกินไปแม้เพียงนิดจะกลายเป็นบีบน้ำตาหาใช่ปล่อยให้มันไหลเองได้แบบนี้ทุกคนล้วนมีบาดแผลที่เจ็บลึก แต่ก็ถูกเล่าได้ลึก มีมิติ มีความสัมพันธ์ และมันออกมาในมุมสว่างเปี่ยมความหวังอีกความยอดเยี่ยมที่บทมอบให้คือการร้อยเรียงเรื่องราวของปัญหาชีวิตและปมในอดีตของทุกตัวละครอย่างมีน้ำหนัก เกี่ยวเนื่องกันอย่างพอเหมาะและลงตัวในทุกมิติ เริ่มที่ตัวของวานที่เป็นแกนหลักของเรื่องคือเด็กหญิงลูกคนเดียวที่แม่เลี้ยงมาอย่างดี เป็นคนรุ่นใหม่ที่มองทุกอย่างในมุมของตัวเองและมองความเรื่องมากวุ่นวายและอารมณ์ที่กลับกลายเป็นเด็กของคนชราด้วยความรำคาญและไม่พึงใจ แต่หารู้ไม่ว่าเหล่าผู้ชราได้ผ่านคืนวันในอดีตที่ผ่านมาอย่างระทมขมขื่นขนาดไหนกว่าจะมาเป็นเช่นวันนี้ แม่ของเธอเองคือหญิงที่สามีนอกใจไปกับเพื่อนแต่ต้องทนอยู่กันมาจนตายจากกัน ความขมขื่นที่ถูกเพื่อนสวมเขาดันไปพาดทับกับเพื่อนอย่างน้ายองวอนที่เหมือนกับมีส่วนในความขมขื่นนั้น และกลายเป็นความเกลียดชังทั้งที่เคยรักกันมากขนาดไหนป้าฮีจาคือคนที่มีรอยแผลในอดีตจากความรักที่เคยมีแล้วแต่งงานกับคนอื่นจนมีลูก และมีแผลใจกับการสูญเสียที่แม้จะผ่านมาเนิ่นนานแต่แผลนั้นยังอยู่มิรู้หาย ป้าฮีจามีเพื่อนสนิทตัวติดกันอย่างป้ายองจาที่คล้ายกับเป็นทาสสามีที่ต้องรองรับทุกอารมณ์ และต้องอดทนอยู่กับสามีจอมเผด็จการและเป็นศูนย์กลางจักรวาลมาจนวันนี้ แน่นอนว่าทั้งป้าฮีจาและป้ายองจาก็มีแผลในใจที่เกี่ยวข้องกันทั้งที่รักกันจนตายแทนกันได้ ส่วนป้าชุงนัมคือคนที่ใช้ชีวิตต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบากมาเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวจนกระทั่งร่ำรวย แต่นั่นกลายเป็นว่าเธอไม่เคยได้มีความรักในวัยสาว เพราะเวลาในวัยสาวหมดไปกับการใช้ชีวิตที่ยากลำบากนั้นและคนที่เหมือนเป็นศูนย์รวมจิตใจของเหล่าเพื่อนซี้ไม้ใกล้ฝั่งคือยายของวาน ที่ยังแข็งแรงที่ทุกคนนับถือเหมือนกับแม่ แต้แม้กระทั้งยายที่ชราที่สุดก็ยังมีพื้นฐานที่เคยถูกสามีนอกใจและทำร้ายมา จนกระทั่งวันที่สามีป่วยยังต้องดูแลพร้อมกับลูกหลงอีกคนที่พิการ และยายก็อยู่ด้วยหัวใจที่แกร่งเสมอมา ซึ่งการกระจายบทให้เด่นได้ทุกคนไม่มีใครขโมยเรื่องราวไปได้ทั้งที่ตัวละครมากมายนับว่าเป็นความยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และแน่นอนมันนำเสนอในโทนสว่างและมีความหวังบทเรียนชีวิตที่หลากหลาย คล้ายดั่งบอกเล่าผ่านประสบการณ์ชีวิตของเหล่าผู้สูงวัยที่ต้องผ่านอะไรมามากมาย ตลอดทางตั้งแต่ต้นจนจบ เรื่องนี้ได้ให้บทเรียนชีวิตกับผู้ชมได้อย่างลึกซึ้งและกินใจ ทั้งในมุมของการใช้ชีวิตในบั้นปลายของคนชราที่อุดมไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่างๆกันไป หากแต่พวกเขายังคงใช้ชีวิตอย่างมีความหวังและเดินหน้าไปสู่ความตายในวาระสุดท้ายด้วยรอยยิ้ม ในมุมของครอบครัวที่ไม่มีใครสมบูรณ์แบบต่างคนต่างมีรอยแผล แต่ก็ประคับประคองอยู่กันได้ด้วยความอดทน และสุดท้ายเมื่อถึงวัยที่ต้องยิ้มให้กับยมทูตที่ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ก็ยิ้มให้อย่างเข้าใจโลกและเข้าใจชีวิต บทยังงดงามในการมอบความสวยงามในการมองความรักในหลายมุมมอง ทั้งในมุมมองของแม่ที่มีต่อลูกที่ชัดจนสัมผัสได้ ที่แม่ทุกคนจะมองลูกเหมือนลูกเป็นเด็กอยู่เสมอยังกลัวลูกจะลำบาก เช่นกันยังมองในมุมความรักของลูกที่อาจจะไม่เข้าใจแม่นักเพราะชุดความคิดต่างกันตามสมัย หากแต่ก็ยังรักและเป็นห่วงเหมือนกับที่เรื่องเปรียบเปรยว่าการสูญเสียแม่ของแต่ละคนคือความร้าวรานและทุกคนสูญเสียแม่ได้แค่คนละครั้งในชีวิต และมันเจ็บปวดมากเมื่อความสูญเสียนั้นมาในวันที่เราอยู่ในวัยชรา ทั้งนี้ในความรักของคนสองวัยมันคือการมองด้วยความต่างมันจึงเกิดการปะทะ แต่เรื่องก็เสนอให้เห็นมิติของการหันหน้าเข้าหากันและพูดคุยสลายช่องว่างระหว่างวัย ถ้านั่นยังไม่พอยังเสนอในมุมของมิตรภาพที่เป็นนิรันดร์ ที่เวลาเนิ่นนานที่ผ่านมาจนวันนี้อาจจะมีหลายอย่างที่ทำให้เข้าใจผิด และสิ่งเดียวที่จะลบมันได้คือการพูดคุยและหันหน้าเข้าหากัน ปรับความเข้าใจกัน เพราะไม่ว่ายังไงมิตรภาพความเป็นเพื่อนคือสิ่งจีรังอีกทั้งยังเสนอในมุมมองของความรักที่มีอุปสรรคของคนรุ่นหนุ่มสาว ที่ว่ามันคือจุดเริ่มต้นของความรักที่กลายมาเป็นคู่ชีวิตในปั้นปลาย มองมุมความรักในวัยชราในแง่ของความอดทนและก้าวผ่านความยากลำบากในการครองคู่ ความรักที่งดงามในความต้องการอยู่เป็นเพื่อนและดูแลคนที่เรารักมากกว่าเรื่องของอารมณ์ ซึ่งตัวเรื่องมอบให้อย่างอิ่มเอม สมูธ สมบูรณ์แบบ มอบทุกมิติอารมณ์ ลึกซึ้งทั้งความหมายโดยตรงและโดยนัย สุดท้ายความเข้าใจเท่านั้นจะทำให้เรามองชีวิตให้ทะลุ เหมือนกับที่วานถามยายว่ายายมองชีวิตที่ผ่านมายังไงและได้คำตอบว่า "ไม่เห็นมีอะไรเลย"ทำให้นี่คือเรื่องที่สามารถเข้าไปอยู่ในใจผู้ชมได้อย่างไม่ต้องสงสัย อาจดูเหมือนไม่มีอะไร เรียบๆ เรื่อยๆ แต่กลับมีพลังการดึงดูดบนความเรียบง่ายจนไม่อาจละวางจาการรับชม และหากผู้เขียนเคยเปรียบเปรยความสวยงามของการชม It's Okay,That's Love ว่าคล้ายกับนั่งมองทะเลวันที่ไร้คลื่นลม เรื่องนี้ก็ไม่ต่างกัน แม้ในวันที่คลื่นลมสงบทะเลยังมีความสวยงามในความเป็นทะเลที่สามารถนั่งมองได้ทั้งวันโดยไม่มีเบื่อ หากแต่เมื่อมีริ้วลมพัดผ่านมาบ้างจะมีคลื่นลูกโตมาซัดฝั่งเป็นครั้งคราวให้เห็น เช่นกันกับการชมเรื่องนี้ที่อาจจะเหมือนการนั่งชมระลอกคลื่นในทะเล และมีลมพัดคลื่นลูกใหญ่ใส่มาเป็นระยะด้วยเรื่องราวสะเทือนอารมณ์ด้วยประเด็นที่เจาะทะลุหัวใจ แต่นั่นกลับไม่รู้สึกว่าอารมณ์ถูกบีบเค้น มันเป็นธรรมชาติ มันคล้ายกับเรื่องราวเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับใครก็ได้ และสิ่งที่ชัดอีกเรื่องคือเรื่องของสิทธิสตรีที่เรื่องเสนอในมุมของผู้หญิงในบริบทสังคมเกาหลีที่ผู้ชายเป็นใหญ่ในบ้าน การใส่มิติของตัวละครผู้หญิงที่ต้องเจ็บปวดกับสามีที่นอกใจ อารมณ์ร้าย และเผด็จการ มองความอดทนของคนเป็นแม่ได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้เมื่อชมเรื่องนี้ไม่มีทางเลยที่จะไม่คิดถึงแม่ ความหลากหลายที่สมบูรณ์นั้นก็ยังทำให้ต้องคิดถึงพ่อที่ทำทุกอย่างเพื่อลูก แต่บางทีลูกอาจไม่ได้รับรู้เพราะพ่อไม่เคยเอ่ยปากบอก และถ้าคนในวัยผู้เขียนจะคิดถึงลูกและมองลูกด้วยความเข้าใจ ว่าแท้จริงแล้วพวกเขาห่วงใยเราขนาดไหนแต่บางทีเขาแค่ไม่กล้าเอ่ยมันออกมาเท่านั้นเองในความอาสุโสพอกัน เก๋าพอกัน จึงมอบการแสดงที่ไม่มีใครด้อยกว่าใคร และบทก็เยี่ยมพอที่จะให้ทุกคนมีเวลาที่น่าจดจำในความสมูธและยอดเยี่ยมของบทที่มีมาหากการแสดงไม่ถึงมันก็ไร้ค่า แต่สำหรับเรื่องนี้อยู่ในระดับที่ไม่มีใครยอมใคร ไม่มีใครเด่นไปกว่าใคร ทุกคนทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกฉากทุกซีน การร่ำให้ในซีนอารมณ์หนักๆ ขอบตาที่แดงก่ำในซีนที่ต้องกลั้นน้ำตา การระเบิดอารมณ์ในซีนที่ต้องระเบิดมัน สีหน้าสับสน สายตาเวิ้งว้างว่างเปล่า หรือการหัวเราะด้วยความสนุกสนานถูกถ่ายทอดอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เห็นริ้วรอยของคำว่าการแสดงเลยแม้แต่ซีนเดียว มันเหมือนกับเรานั่งดูชีวิตของเหล่าผู้เฒ่าทรนงจริงๆตัวตนจริงๆไม่มีการปั้นแต่ง แม้กระทั้งตัวละครพัควานของโกฮยอนจองหรือซอยอนฮาของโจอินชองยังดูเป็นคนคนนั้นได้อย่างน่าเชื่อถือ แต่ด้วยความที่แต่ละผู้อาวุโสอยู่ในระดับเก๋ากันทั้งนั้น เรื่องนี้สองคนหนุ่มสาวอาจจะต้องยอมหลีกทางให้ แต่ที่ผู้เขียนอึ้งมากคือโกดูชิมที่เรื่องมีมาดูยังสาวเฟี้ยวมาก ผิดกับเรื่องอื่นๆที่ดูชราเป็นคุณยายได้ จนทำให้เห็นว่านักแสดงอาวุโสมีของดีอยู่แล้ว เพียงแต่จะมีบทให้ได้ปล่อยของเหมือนเรื่องนี้หรือไม่ ทั้งนี้รวมไปถึงตัวละครเล็กๆที่ทำให้ไม่รู้สึกว่าดูการแสดงอย่าง การมีนักแสดงที่คุ้นหน้าคุ้นตามากมาย และความสวยงามของฉากที่สวย เพลงประกอบที่เพราะและจังหวะในการส่งเสริมอารมณ์ในแต่ละฉากพอเหมาะ ทำให้การดูซีรีส์ที่ดูเหมือนไม่มีอะไรกลับมอบความประทับใจอย่างที่สุด สุดจนสามารถบอกได้ว่านี่คือซีรีส์ในดวงใจอีกเรื่องที่หยุดดูไม่ได้ แม้ว่ามันอาจจะดูเหมือนไม่มีอะไรก็ตามถ้าว่ากันที่ความชอบ ผู้เขียนชอบที่ความหลากหลายในมุมมอง ชอบในการมองชีวิตผ่านผู้อาวุโสที่ได้ผ่านเรื่องราวผ่านร้อนผ่านหนาวในชีวิตมาอย่างโชกโชน ชอบในบทที่เยี่ยมมากที่สามารถใส่มิติให้ตัวละครที่มากมาย ชอบการเล่าเรื่องราวผ่านความหลากหลายมากมายในประเด็นได้อย่างสมบูรณ์ลงตัว การนำเสนอในโทนมอบความสวยงามให้กับชีวิต ความรักความเข้าใจ มองการก้าวเข้าสู่วัยไม้ใกล้ฝั่งที่แต่ละคนต้องกินยากันคนละกำมือด้วยความพะอืดพะอม อาจเพราะด้วยวัยของผู้เขียนเองและการที่เรามีบิดามารดาในวัยไล่เลี่ยกับในเรื่อง จึงได้เข้าใจในมุมมองของพวกท่าน เข้าใจในอารมณ์ของการปะทะกันระหว่างกรอบความคิดที่มาจากประสบการณ์คนละอย่าง เข้าใจว่ามนุษย์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความชราไปได้ แต่เราจะไปสู่วัยชราอย่างเข้าใจโลกเข้าใจชีวิตอย่างในเรื่องได้หรือไม่ หรือเราจะเข้าใจความสูญเสียและเดินหน้าเข้าหาความตายได้ด้วยรอยยิ้มได้หรือไม่ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และสำหรับซีรีส์เรื่องนี้เราต้องบอกว่าต้องดูเท่านั้น เพราะมันเรียบง่าย งดงาม ยิ้มทั้งน้ำตา หัวเราะได้น้ำตาหลั่งได้ เป็นความสวยงามที่ลงตัวและคู่ควรกับการประทับตราว่า"อย่าเพิ่งตายถ้ายังไม่ได้ดู" ดั่งเช่นที่ในเรื่องบอกว่า "ไม่ต้องคาดหวังอะไร แล้วมีความหวังก็พอ"ดูไปบ่นไปNETFLIXขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 / ภาพที่ 10 / ภาพที่ 11 / ภาพที่ 12 / ภาพที่ 13 จาก Facebook tvN (International)จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !