รีวิว Blonde (บลอนด์) ภาพยนตร์ชีวประวัติ มาริลิน มอนโร ผสมทั้งเรื่องแต่งและเรื่องจริง มาพร้อมองค์ประกอบศิลป์ที่สวยงาม แต่ดำเนินเรื่องช้าจึงอาจไม่ถูกใจทุกคน บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ Blonde (บลอนด์)ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง Blonde ผลงานการเขียนของ Joyce Carol Oates ที่จะมาตีแผ่เรื่องราวของนักแสดงสาวดาวจรัสฟ้า มาริลีน มอนโร (รับบทโดย อนา เดอ อาร์มัส) ซึ่งเรื่องราวที่บอกเล่าในภาพยนตร์จะเป็นทั้งเรื่องจริงและเรื่องที่ถูกปรุงแต่งขึ้นมา โดยจะทำการเล่าตั้งแต่เรื่องราวในวัยเด็กของเธอที่เดิมทีแล้วมีชื่อว่า นอร์มา จีน มอร์เทนสัน เด็กสาวที่มีชีวิตแสนขมขื่นที่ก้าวเข้าสู่วงการมายาที่เต็มไปด้วยปัญหาใต้พรมและความดำมืด เนื่องด้วยเธอเป็นนักแสดงที่โด่งดังในยุค 1950 ยุคที่เพิ่งผ่านพ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 มาหมาดๆ และเป็นยุคสมัยที่ผู้หญิงยังเป็นแค่เพียงวัตถุทางเพศของเหล่าชายฉกรรจ์ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมาตีแผ่มุมมืดและเรื่องราวอันน่าเศร้าในชีวิตของเธอแบบหมดเปลือก เรื่องราวในชีวิตของสตรีผู้โด่งดังคนนี้จะเป็นเช่นไร ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตนเอง Blonde (บลอนด์) รับชมได้แล้วตอนนี้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflixตัวอย่าง Blonde (บลอนด์)รีวิว Blonde (บลอนด์)ส่วนตัวบอกก่อนเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่ใช่สำหรับทุกคน เพราะมีการดำเนินเรื่องที่เรื่อยเปื่อย ยืดเยื้อ และไร้จุดหมาย ซึ่งหากว่าผู้ชมสนใจในตัวของ มาลิรีน มอนโร เป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็อาจจะเพลิดเพลินและสนุกไปกับมันได้ แต่ในทางกลับกันถ้าหากไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ก็อาจจะรู้สึกเบื่อและทนดูต่อไปจนจบไม่ไหว ส่วนตัวมองว่าบทเรื่องนี้ยังคงขาดๆ เกินๆ ไม่มีการเล่าเรื่องแบบง่ายๆ ฉับไว และน่าติดตามเหมือนอย่างหนังชีวประวัติเรื่องอื่นๆ จึงทำให้ขาดความดึงดูดใจและไม่สามารถรั้งคนดูเอาไว้ได้ หนังปูเรื่องช้ามากๆ ซึ่งถ้าหากเขาใส่เสียงเล่าเรื่องราวมามันน่าจะช่วยได้เยอะ แต่เหมือนผู้กำกับเขาอยากนำเสนอองค์ประกอบศิลป์ ทั้งงานภาพ บรรยากาศต่างๆ จึงเลือกแบบนี้ ซึ่งส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ และการที่หนังเป็นทั้งเรื่องจริงและเรื่องแต่ง ผู้กำกับก็น่าจะตัดแต่งเรื่องราวเพิ่มเติมให้มีจุดยึดหน่อยก็น่าจะดี แต่อันนี้คือเหมือนดูสารคดีเสียมากกว่า ดูไปจนจบก็ไม่ได้รู้สึกอิมแพ็คอะไรมากมายเลย มีหลายประเด็นที่น่าเล่นน่าขยี้แต่ก็ทิ้งไปเสียดื้อๆ เรื่องบทและการดำเนินเรื่องคือไปแบบช้าๆ อย่างที่บอก และจะเรียกว่า Slow Burn ก็คงจะไม่ได้ เพราะ Slow Burn คือการปูเรื่องแบบเรื่อยๆ แต่ไประเบิดในตอนท้าย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่แบบนั้น เพราะเขาปูเรื่องไปเรื่อยๆ และก็จบไปแบบดื้อๆ ซึ่งตอนจบมันน่าเศร้านะ แต่ก็ไม่ถึงกับน่าจดจำ ทั้งที่ชีวิตของเธอน่าสงสารขนาดนั้น แต่กลับสร้างอารมณ์ร่วมให้คนดูได้น้อยมากๆ ในด้านของการแสดง อนา เดอ อาร์มัส แสดงได้ดีนะ เสน่ห์เธอเหลือล้นมากๆ แต่ก็ยังมีหลายฉากที่ดูแปลกๆ และดูล้นๆ ไปบ้างๆ แต่หากมองในภาพรวมก็นับว่าใช้ได้พอสมควร อีกอย่างที่ต้องชื่นชมคือเธอดูทุ่มเทกับบทนี้มาก เพราะมีฉากที่ติดเรทเยอะเลย แต่เธอก็แสดงแบบจัดเต็มจริงๆ เรื่องนี้ขอชื่นชม นอกจากเธอแล้วนักแสดงสมทบคนอื่นๆ ก็แสดงกันได้ดีและมีเสน่ห์ทุกคน ในด้านการแสดงไม่ได้มีอะไรจะติมากมายนักส่วนต่อมาคือด้านงานภาพ ส่วนนี้นับว่าทำออกมาได้ดีมากๆ และดูใส่ใจเอาเสียมากๆ ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ผมชอบที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้เลยก็ว่าได้ มีการใช้สเกลภาพหลายขนาด มีการใช้ทั้งภาพขาวดำและภาพสีตัดสลับกันไป หากสังเกตดีๆ จะพบว่า ภาพขาวดำขนาด 4:3 มักจะถูกใช้ในฉากที่มาริลินอยู่ในกองถ่ายภาพยนตร์หรือตอนที่เธอเปิดตัวออกสื่อ เนื่องจากภาพขาวดำขนาด 4:3 เป็นสเกลภาพของจอโทรทัศน์ในยุคนั้น ส่วนภาพสีจะใช้ในฉากที่เธอใช้ชีวิตส่วนตัวในฐานะ นอร์มา จีน นอกจากนี้ยังมีขนาดภาพ 16:9 ที่ก็จะมีทั้งภาพสีและขาวดำเช่นกัน ซึ่งภาพสเกลนี้ก็จะทำให้เราได้เห็นรายละเอียดในฉากต่างๆ มากขึ้น ยกตัวอย่างฉากที่เธอถ่ายภาพปิดกระโปรงบนฝาท่อระบายน้ำ ฉากนี้นับเป็นฉากที่ผมชอบที่สุด เพราะฉากนี้จะใช้ภาพขาวดำ 16:9 ที่สีขาวดำน่าจะสื่อถึงว่าเธอกำลังอยู่ในการทำงานและยังคงสวมบทเป็น มาริลีน ฉากนี้จะเป็นฉากตอนที่เธอทำท่าปิดกระโปรงและมีลมเป่า ซึ่งกลายมาเป็นรูปถ่ายสุดคลาสสิคที่เราเคยเห็นกัน โดยรอบๆ ตัวเธอในตอนนั้นเต็มไปด้วยเหล่าชายฉกรรจ์ที่แสดงความหิวกระหายออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ทำเหมือนกับเธอเป็นเพียงวัตถุทางเพศ ทว่าตัวเธอเองก็ดันชอบเสียด้วย เพราะเธอมีปมในใจและเป็นคนที่อยากให้คนยอมรับ พอเห็นคนชอบกับสิ่งที่เธอทำเธอก็เลยมีความสุข ซึ่งเป็นฉากที่ทำให้เราเห็นความผิดเพี้ยนในตัวของเธอ ซึ่งพอฉากนี้สเกลภาพกลายเป็น 16:9 นั้นช่วยถ่ายทอดบรรยากาศของฉากนี้ออกมาได้อย่างดีนอกจากสเกลภาพที่น่าสนใจแล้ว เรื่องนี้ยังมีการตัดต่อที่แปลกแต่ก็มีเสน่ห์ไม่น้อย ยกตัวอย่างง่ายๆ คือทุกครั้งที่มาริลินนึกถึงเรื่องลูก หรือช่วงที่เธอท้อง หนังจะมีการตัดภาพของเด็กในครรภ์ขึ้นมา 1-2 วินาที หรือพวกภาพที่เป็นการแสดงถึงการก่อกำเนิดชีวิต ซึ่งโดยส่วนตัวผมก็ไม่แน่ใจว่าฉากเหล่านี้มีความหมายอะไรที่ซ่อนไว้มากแค่ไหน แต่นับเป็นสิ่งที่ช่วยให้หนังดูมีความแปลกใหม่และไม่เหมือนใครดี พูดถึงงานภาพกันมานานแล้ว ไปในเรื่องการโปรดักชั่นบ้าง ส่วนนี้ก็ดีไม่แพ้กัน ฉากต่างๆ ดูเหมือนอยู่ในยุค 1950 จริงๆ เสื้อผ้าหน้าผมตัวละครก็ทำออกมาได้ดีมากๆ แต่งองค์ทรงเครื่องจน อนา เดอ อาร์มัส ดูเหมือนมาริลีนแทบจะ 100% ทั้งที่สัญชาติของนักแสดงนั้นไม่ตรงกับบทบาทด้วยซ้ำ เรื่องนี้นับว่าเก่งมากๆ ส่วนเรื่องการลำดับเสียง ซาวน์ประกอบฉาก ทุกอย่างทำได้ดีพอสมควรเช่นกัน สรุปโดยรวมคือเป็นหนังที่พอดูได้ และถ่ายทอดชีวิตสุดระทมของ มาริลีน มอนโร ออกมาได้ดีพอตัว แต่ยังขาดความน่าสนใจและความยาวของหนังก็ยาวถึงเกือบ 3 ชั่วโมง แต่ก็เป็นความยาวแบบเปล่าประโยชน์ หากกระชับและเพิ่มความน่าสนใจไปมากกว่านี้จะดีไม่น้อย ท้ายสุดนี้ผมขอให้คะแนนภาพยนตร์เรื่อง Blonde (บลอนด์) ไว้ที่ 7/10 คะแนนสุดท้ายนี้ ฝากกดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับชื่อเรื่อง : Blonde (บลอนด์)แนว : ชีวประวัติ, ดราม่าผู้กำกับ: Andrew Dominikความยาว : 166 นาทีระบบเสียง : เสียงไทยและบรรยายไทยช่องทางการรับชม : Netflixช่องทางอื่นๆในการติดตาม ละเลงหนังFacebook Fanpage : ละเลงหนังกลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก By ละเลงหนังบทความอื่นๆของ ละเลงหนัง :รีวิว Cyberpunk: Edgerunners อนิเมะโคตรดีที่อยากให้ทุกคนได้ดู แอ็คชั่นจัดเต็ม ดราม่าตับพัง และเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่เหลือล้นรีวิว Fullmetal Alchemist: The Final Alchemy (แขนกลคนแปรธาตุ: ปัจฉิมบท) ภาคสุดท้ายที่พอดูได้และดีกว่า 2 ภาคแรกรีวิว LOU (แกะรอยในความมืด) หนังแอ็คชั่นไล่ล่าเรื่องล่าสุดจาก Netflix เขียนบทอย่างเข้ม จัดเต็มความเรียล [มีพากย์ไทย]รีวิว ATHENA (อเธน่า) หนังแนวสงครามกลางเมืองจากฝรั่งเศส ถ่ายทอดได้อย่างสมจริงด้วยฉาก Long Take สุดเท่รีวิว Thai Cave Rescue (ถ้ำหลวง: ภารกิจแห่งความหวัง) ซีรีส์ฝีมือคนไทยจาก Netflix ที่อัดแน่นไปด้วยดราม่าเรียกน้ำตา และมุมมองใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็นแหล่งที่มาของรูปภาพและวิดีโอภาพปก : ภาพที่ 1 จาก Twitter : Netflixภาพประกอบ : ภาพที่ 1 จาก Twitter : NetflixTH / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 ภาพที่ 2-5 จาก Twitter : Netflixวิดีโอ : บลอนด์ (BLONDE) | ตัวอย่างภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ จาก Youtube : Netflix Thailandเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ๆ App TrueID โหลดฟรี!