แจ๊ส เล่านั่งร้องไห้เมื่อไหร่จะดัง เผยมุมชีวิตที่ไม่ตลก ไร้ปัญหาต่างมีลูกติด
อภิชาตภรรยาอุ๋ยฟังชีวิตแล้วถึงกับลั่น แจ๊ส เล่านั่งร้องไห้เมื่อไหร่จะดัง เผยมุมชีวิตที่ไม่ตลก ไร้ปัญหาต่างมีลูกติด เมียคือผู้เปลี่ยนชีวิตให้มีวันนี้
อุ๋ย บุดด้าเบลส บุกบ้าน แจ๊ส ชวนชื่น เปิดใจ ชีวิตตลกในมุมที่ไม่ตลกของ ไอ้แจ๊สคุณแจง ในรายการ คุยกับอุ๋ย โดยตอนหนึ่ง แจ๊ส เผยเคยมีช่วงที่ชีวิตไม่ดังสักที ตอนที่คาเฟ่เล่นไม่ได้ คาเฟ่ปิดหรืออะไรไม่รู้ ผมไปช่วยพ่อขายชานมไข่มุก ไม่ได้หวังเงินอะไร พ่อให้ทำผมก็ทำ ผมคิดว่าจบแล้ว คงเป็นเหมือนเดิมเป็นตลกฟลุ๊คๆรอมีละครเล่น
ผมเคยร้องไห้กับเพื่อน มีความเครียดว่าทำไมกูทำไม่ได้ ทำไมกูไม่ดังสักที ร้องไห้กับเพื่อนริมระเบียงจำได้ ผมก็ทำมาเรื่อยๆ จับพลัดจับผลูมา ผมทำทุกวันเต็มที่ ไม่ได้เงินก็ไป ก็ได้ประสบการณ์
ความรู้สึกกับอาชีพตลกใครมองไงไม่รู้ แต่ผมมองว่าเล่นในคาเฟ่มึงเท่ หน้าตาไม่หล่อแต่มึงเล่นขำได้รับความนิยม ปัจจุบันนี้ก็ยังโคตรภูมิใจไม่อาย กว่าจะมีวันนี้ผมไม่ใช่ตลกโดยพรสวรรค์ ผมเป็นตลกพรแสวง
ตอนไม่ดังเคยตั้งธงว่าต้องให้คนเรียกชื่อตัวเองให้ได้ พอคนเรียกชื่อผมได้ผมประสบความสำเร็จแล้ว ธงของผมอันนั้นยังปักอยู่ ไม่มีธงใหม่ เดินเลยมาไกลแล้ว กลับไปก็อยู่ตรงธงนั้น ที่เหลือเป็นธงเล็กๆที่ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ทุกวันนี้ไม่ได้อะไรแล้ว ลูกเรียนจบ ทำที่ผมชอบ สุดตรงไหนก็ตรงนั้นแล้ว
ถามว่าจากวันที่คนจำชื่อเราไม่ได้นั่งช่วยพ่อขายชาไข่มุกชีวิตจบแล้วกับวันนี้เพลงร้อยล้านวิวไม่รู้กี่เพลงงานเยอะแยะมีบ้านมีรถยิ่งกว่าที่เคยฝันไว้ ปริมาณความสุขต่างกันโคตรๆเลยไหม แจ๊ส ยอมรับต่างกันโคตรๆ แต่ยังเป็นความสุขที่ระวังตัวอยู่นะ ไม่ได้เกี่ยวกับเงินทองว่าเดี๋ยวเงินกูหมดนะ เรื่องนั้นเมียคิดอยู่แล้ว ระวังตัววันที่กูหล่นลงมา กูต้องไม่รู้สึกเจ็บนะ ไม่รู้หล่นในวิถีทางใดก็แล้วแต่ ต้องคิดเสมอว่าเมื่อก่อนกูได้เท่านี้มาก็สุดๆแล้ว
ผมมองข้างหน้าวันที่ผมโรยแล้ว วันนี้ผมพยายามสร้างความสุขผมไปเรื่อยๆในสิ่งที่ผมรัก ตอนนั้นผมปักธงว่าให้คนจำชื่อได้ ตอนนี้ผมปักธงว่าเพลงที่ผมทำเกินร้อยล้านวิว ขอ 5 เพลงพอแล้ว ตอนนี้มี 3 เพลงแล้ว
ถามเรื่องความทุกข์ในชีวิต แจ๊ส เคยทุกข์นะแต่จะคุยกับตัวเองเหมือนคนบ้าก็ได้ แต่ตอนพ่อตายทุกข์มาก ผมไม่สามารถบอกใครได้ว่าพ่อผมกำลังจะตาย ไม่สามารถบอกพ่อได้ว่าพ่อเป็นมะเร็ง บอกใครไม่ได้เดี๋ยวพ่อรู้
ผมเมาน้ำตาไหลเครียด จนพ่อตายคนที่เรารักมากที่สุดจากเราไปทำให้ได้คิดว่าชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน แต่พ่อเราไม่มีความทุกข์เลยจนวันที่เขาหลับตาไป ทำให้คิดเปลี่ยนไปต่อไปนี้จะใช้ชีวิตกูให้มีความสุข ขอบคุณเลือดกับสมองที่เขาให้ผมมีวันนี้ได้
เห็นแจ๊สตั้งแต่ก่อนเจอ แจง ปุณณาสา ใช้คำว่าแจ๊สได้ดีเพราะเมียเลย แจ๊ส ยอมรับว่า ไปรายการไหนผมก็พูด ได้ดีเพราะเขาจริงๆ
แจง เล่าว่า เข้ามาช่วยจัดการ ถ้าเขาไม่พัฒนาตอนนั้น ถึงไปได้ก็ได้แค่นี้ ไม่มีทางไปได้สุดเพราะความยุ่งเหยิงในชีวิตเขาเยอะ ก็มาจัดเรียงกันใหม่หมด ตั้งแต่เรื่องเงิน แต่ตอนนั้นเขาไม่มีเงินเลย ได้มาเขาก็ใช้ไป ไม่ได้สนใจเรื่องภาษี แล้วโดนภาษีย้อนหลังอีกเป็นล้าน
รถมี4คันก็ผ่อนไม่หมดสักคัน สาวๆก็คิดว่ารวยแต่จริงๆฟุบ เราเป็นเพื่อนตอนนั้น เราช่วยได้เท่าที่จะช่วย ไม่ได้หวังเอาเงินเขาอยู่แล้ว สภาพเขาไม่เอื้ออำนวยที่จะอยู่ด้วยกัน เราบอกเขาขายให้หมดเลยแล้วตั้งต้นใหม่
แจ๊ส เล่าว่า เราเชื่อเขาว่าเขาเก่งจนตกลงปลงใจแต่งงาน เพราะเราเชื่อว่าคนนี้มาเติมเต็มสิ่งที่เราขาดได้จริงๆ
แจง ย้อนช่วงแรกที่เข้ามาช่วยดูแลชีวิตแจ๊ส จากที่เขาใช้เงินเดือนละ 3-4 หมื่น ใช้ 3-4 พันได้ไหม เพื่อไปเคลียร์หนี้สินก่อน ทำงานมาได้เงินต้องแยกไปจ่ายภาษี เราต้องแบกหน้าไปบ้านเราด้วย เพราะถ้าจ่ายหนี้ที่มีดอกเยอะ
แจ๊ส บอกว่า ใช้เดือนละ 3 พันเราก็ทำได้ แล้วไปยืมเงินแม่แจงมา 7 แสน เพื่อไปใช้หนี้ พอมีเงินก็เอาเงินมาใช้หนี้แม่แจง
แจง เล่าว่า ตอนนั้นแม่ก็ไม่ได้ชอบ เพราะแจ๊สพาเที่ยวกลางคืนอย่างเดียว กลับเช้าทุกวัน ตอนหลังพาเขาเข้าไปคุยว่าก่อนไปเที่ยวไปทำงานกันมาก่อน พอเขาเริ่มเห็นชีวิตแจ๊สจริงๆ เห็นว่าขยัน
แจ๊ส เผยติดตลกว่า ภายนอกเราดูเป็นคนเหี้.... ไม่มีทางใครบอกว่าดี เราเห็นว่า แจง ดี เราเห็นผู้หญิงมาเยอะ เขาไม่หลอกเราแน่ แล้วบ้านเขามีตังค์มากกว่าบ้านเรา แลกๆ เราดื้อเถียง แต่หลังๆ มันก็ถูกของเขา แจงเป็นห่วงผมจริงๆ การด่าของมันเพราะมันเป็นห่วงเรา มันมีบทพิสูจน์หลายครั้งตั้งแต่คบกันมา มันห่วงมันรักเราจริงๆ
ถามว่าตอนตัดสินใจจะคบกันคิดไหมว่าอุปสรรคเยอะเราก็มีลูกเขาก็มีลูกเป็นอุปสรรคการตัดสินใจไหม แจง ตอบชัดเจนว่า ไม่ ข้อเดียวของแจงเลย แจงก็บอกเลยว่า กูมีลูกแล้วนะ บอกตั้งแต่วันแรกเลยที่คบกัน และแจงค่อนข้างจะคอนเซนเทรตเรื่องลูกมา เพราะการจะเอาอีกคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตค่อนข้างลำบากใจ
ถามแจ๊สว่ารักลูกกูให้เท่ากับมึงรักกูได้ไหม ข้อเดียวเลยที่เหลืออยากทำอะไร กูจะจัดการให้ทุกอย่าง เขาก็ทำได้คอยซื้อขนมให้ลูกเรา เล็กๆน้อยๆแต่ทำให้เราประทับใจ
แจ๊ส ยอมรับว่า ความอบอุ่นของผม แม้กระทั่งลูกผมเองด้วย จนอยู่ด้วยกันแล้ว 4 คนนี้ บางคนก็โตไปแล้วเขาก็อยู่ของเขา ผมจะเป็นคนไม่พูด แต่จะใช้การกระทำ แล้วแต่คน
ถามถึงชีวิตตลกในมุมที่ไม่ตลกของแจ๊ส แจง เล่าว่า แรกๆเขาเป็นคนตลก แม้ในปัญหาชีวิตเราเห็นเขาร้องไห้ครั้งเดียว ตอนที่งานเขาค่อยๆลดลง เขาร้องไห้ว่าชีวิตเขาทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ตอนนั้นเพิ่งเจอกันใหม่ๆ จากมีงาน 7 วันไม่เหลือเลย
แจ๊ส กล่าวว่า ตอนนั้นห่วงพ่อกับแม่ บ้านหลังแรกยังผ่อนอยู่เลย ตอนนั้นผมเป็นหัวหน้าครอบครัวเต็มตัว พ่อผมเริ่มดาวน์ลงไปแล้ว
แจง กล่าวอีกว่า และอีกช่วงที่เครียดหนัก ตอนนั้นเรามีหน้าที่หาเงิน ต้องหาให้ได้วันละ 1.5 แสน ตอนนั้นมีงานวง มีรายการ บ้านใหม่กำลังทำ พ่อก็เข้าโรงพยาบาล จ่ายค่าโรงพยาบาลวันละเกือบ 5 หมื่น ส่งพ่อไปรักษาที่จีนอีก
ตอนนั้นมีงานเข้ามาเยอะ ยังมีคอนเสิร์ต แจ๊สทำงานกลับบ้านมามันห่อเหี่ยวทุกวัน คนอื่นก็ห่อเหี่ยวด้วย กลับมาแยกไปนั่งคนเดียว คนรอบข้างเครียดไปด้วย แต่เราเข้าใจพ่อเรา
ช่วงพ่อเสียใหม่ๆ นั่งดูวิดีโอร้องไห้ ต้องบอกว่าพอแล้ว เศร้าให้น้อย พรุ่งนี้มึงต้องทำงานต่อ เขาไม่ได้ไปไหนเขาอยู่ในใจมึง 7 เดือนเต็มๆที่อยู่สภาวะแบบนี้ เราก็เป็นแพนิกอยู่แล้ว เราต้องคอยให้กำลังใจคนข้างๆเรา ซึ่งต้องข้ามไปให้ได้
หลังหายป่วยโควิดชีวิตเปลี่ยนเราทำเพื่อคนอื่นมามากแล้วใช้เงินเพื่อความสุขตัวเองบ้างอยากซื้ออะไรซื้อไม่มีใครห้ามกันเลย จนเงินหมด รู้สึกแล้วใช่ไหมการที่เราไม่มีเงิน เรามีแค่บ้าน แต่ค่าใช้จ่ายยังสูง เรารู้เร็วแก้ปัญหาทัน ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปเก็บเงินอย่างเดียว
ออกมาอยากได้อะไร อยากได้รถคันนี้ซื้อ ทั้งที่เพิ่งซื้อที่ ใช้กันเรียกว่าหมด ที่ให้เขาใช้เงินแบบนี้เพราะเขาหาเงินอยู่คนเดียว เราไม่อยากให้เขาทุกข์ อะไรทำให้เขามีความความสุขทำไปเลย (อุ๋ย ถึงกับลั่น อภิชาตภรรยา)
แจ๊ส ขอโทษเรื่องเดียวกับเมียคือเรื่องนอกใจ ด้านแจง กล่าวด้วยว่า ขอบคุณแจ๊สที่ยังเชื่อฟังเมีย ยอมเปลี่ยน เพราะน้อยคนมากที่จะยอม แต่ที่เราพูดไปคือความหวังดีของเราทั้งหมดเลย เงินทั้งหมดอยู่ในบัญชีแจ๊สทั้งหมด แจ๊สจะต้องเป็นคนเบิกคนเซ็นคนเดียว เราไม่เคยเอาเงินเข้าบัญชีเราเลย
https://www.youtube.com/watch?v=9BxTt3vigyI
ขอบคุณที่มา คุยกับอุ๋ย - อุ๋ย บุดด้าเบลส