"บ้านเช่าบูชายัญ" หนังไทยแนวลึกลับ สยองขวัญ ดรามา สะท้อนสถาบันครอบครัว ผลิตโดย GDH กำกับการแสดงโดย จิม โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ ซึ่งพ่วงตำแหน่งผู้เขียนบทร่วมกับ ธนีดา หาญทวีวัฒนา ออกฉายครั้งแรก 6 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ปัจจุบันลง Streaming ใน Netflix แล้ว ไปติดตามอ่านรีวิวจากอู๊ดสีชมพูกันเลยค่ะเรื่องย่อ https://youtu.be/WNLVu7CE6Okครอบครัวของหนิง มีสมาชิกทั้งหมด 3 คน คือตัวเธอ สามีทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างกวิน และอิง ลูกสาวคนเดียววัย 7 ขวบ ซึ่งเปรียบเหมือนโซ่ทองคล้องใจ และเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์ วันหนึ่งหนิงการย้ายที่อยู่ของครอบครัวจากบ้านเดี่ยวของสามี อพยพกัน 3 ชีวิตไปอยู่คอนโดของเธอ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ปล่อยเช่าผ่านนายหน้า เมื่อเธอกลับไปดูห้องหลังจากผู้เช่าย้ายออก ห้องของเธอมีสภาพเละเทะ ข้าวของถูกทำลายเสียหายอย่างหนัก แต่ด้วยความที่ไม่อยากขายคอนโด อยากมีเงินผ่อนต่อ บวกกับอยากประหยัดค่าใช้จ่าย และหารายได้เพิ่ม จึงตัดสินใจประกาศให้คนมาเช่าบ้านผ่านคุณต้อมซึ่งเป็นนายหน้า ไม่กี่วันก็ก็มีสองแม่ลูกที่อ้างตัวเองว่าเป็นหมอ อย่าง หมอราตรี และหมอนุช มาขอเช่าบ้าน สองสามีภรรยาตอบรับทันทีเมื่อครอบครัวเธอย้ายไปอยู่ตอนโด และผู้เช่าทั้ง 2 ย้ายเข้าไปในบ้าน ชีวิตครอบครัวของหนิงก็เริ่มไม่ปกติ ตั้งแต่รอยสักปริศนาบนตัวของสามี ซึ่งนุชผู้เช่าบ้านก็มีรอยสักแบบเดียวกัน ลูกสาวของเธอก็มีอาการเหมือนคนมี Six Senses รวมทั้งข่าวสารจากเพื่อนบ้าน ที่ลือกันว่าหมอราตรีและนุช แอบสวดมนต์คาถาบางอย่าง เหมือนกำลังทำพิธีอะไรบางอย่างทุกวันเวลาตี 4สิ่งเหล่านี้คือเบาะแสสำคัญ ทำให้หนิงต้องลุกขึ้นมาสืบสวน ว่าเรื่องราวทั้งหมดมันคืออะไรกันแน่ ยิ่งตามสืบก็ยิ่งเห็นพฤติกรรมแปลก ๆ จากสามีและคนรอบข้าง รวมถึงความสยองขวัญจากสิ่งเร้นลับหนิงจะช่วยเหลือครอบครัวของเธอให้รอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ได้หรือไม่ และผู้เช่าบ้านทั้งสอง รวมถึงสามีเธอกำลังทำอะไรกัน รับชมได้ใน บ้านเช่า บูชายัญ นักแสดงหลักมิว นิษฐา จิรยั่งยืน รับบท "หนิง" อดีตสาวออฟฟิศ ปัจจุบันผันตัวมาเป็นแม่บ้านดูแลสามีและลูก ชีวิตของเธออยู่ไม่ปกติสุขตั้งแต่ผู้เช่าทั้ง 2 ย้ายเข้าไปในบ้าน ความผิดปกติจากคนในครอบครัว และตัวผู้เช่าบ้าน ทำให้เธอเริ่มออกคามหาความจริง ยิ่งสืบความน่ากลัว สิ่งลี้ลับก็ยิ่งเข้าประชิดตัว แต่เธอก็ต้องเดินหน้าสู้เพื่อปกป้องลูกสาวคนเดียวให้รอดพ้นจากภัยอันตรายการแสดงของมิว ทำได้ดี เรียกว่าเป็นตัวแบกของเรื่อง สิ่งที่หนิงเจอ เหมือนโดนปั่นประสาท จนอาจทำให้เสียสติได้ ฉากที่เราชอบการแสดงคือ ฉากที่แอบไปดูสามีทำพิธีชวนขวัญหัวลุก แล้วต้องแอบกลับมานอนร้องไห้ กลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ เพราะกลัวสามีรู้เรื่อง นอกจากนี้การแสดงออกทางสายตาก็สื่ออารมณ์ได้ดี ทั้งตกใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้า หวาดกลัว แต่ก็ต้องฮึดสู้ โดยที่แววตาก็ยังกังวลอยู่ ซีนดรามาก็ทำให้อินตามไปด้วย เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ รับบท "กวิน" สามีของหนิง เป็นวิศวกร ช่วงแรกบทของมิวจะเดนกว่า ได้โชว์ทักษะการแสดงมากกว่า แต่การเอาเวียร์มาเล่น บทนี้ต้องไม่ธรรมดา และต้องมีอะไรพีคแน่นอน ซึ่งซีนพีคของตัวเองเวียร์ก็รับผิดชอบได้ดี อินเนอร์เป็นธรรมชาติ ไม่เค้นหรือโอเวอร์แอคติ้ง ฉากเข้ากับลูกเป็นธรรมชาติมาก ฟิลคุณพ่อท่านหนึ่งสุด ๆ ดูเป็นพ่อที่ลูกจะติดและรักมากกว่าแม่ ตอนหลงงมงายในลัทธิก็เล่นได้ดู Loser ดี ไม่บ่อยนักที่เวียร์จะเล่นแนวนี้ บท กวิน คือตัวต้นเรื่องและตัวนำหายนะมาสู่เมียและลูกเลยก็ว่าได้ ความเห็นเรานะ ตัวละครนี้เห็นแก่ตัวและทำเพื่อสนองความสุขตัวเองเกินไป รวมถึงยึดกับอดีต จนนำภัยมาสู่ลูกและเมียในปัจจุบัน ต่าย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล รับบท "ราตรี / นภาพร" 1 ใน 2 ผู้เช่าบ้านของกวินและหนิง ที่อ้างตัวว่าเป็นหมอ แต่จริง ๆ แล้วคือคุณแม่ผู้นำลัทธิสุดสะพรึง ในการออกหาร่างเพื่อเปลี่ยนถ่ายวิญญาณและสืบทอดทายาทไสยศาสตร์ การแสดงของเพ็ญพักตร์ ในเรื่องนี้เราว่าทำดีเสมอตัว ตามมาตรฐานของตน ด้วยความที่ตัวบทเข้าทางกับลุคของพี่ต่ายอยู่แล้ว โดยส่วนตัวเรามองว่า ยังไม่เห็นอะไรแปลกใหม่ หรือมิติของบทนี้เท่าที่ควรและ น้องกัสจัง ธัญญภัสร์ มยุรลีลา รับบท "อิง" ลูกสาวคนเดียวของกวิน และ อิง มีสัมผัสที่หก มองเห็นและสื่อสารกับวิญญาณได้ เป็นเด็กที่ติดพ่อมากกว่าแม่ เชื่อฟังคำสั่งของพ่อ จนคล้อยตามยอมให้ร่างของตนมีอีกหนึ่งวิญญาณเข้ามาสิงสู่ น้องกัสจังหน้าตารัก บ้องแบ๊ว แต่การแสดงไม่แบ๊วเลย สื่ออารมณ์ได้ดี และทำให้อินตาม การแสดงของน้องตรึงให้เราอยากติดตามต่อไปว่าชะตากรรมของครอบครัวนี้จะไปลงเอยที่ใด ส่วนใหญ่ต้องเข้ากับนักแสดงเบอร์ใหญ่ก็รับส่งอารมณ์กันได้ดี ถึงแม้ยังเด็ก แต่การแสดงไม่จม แสดงออกทางสายตาได้ดี เราเชื่อว่าถ้าใครดูจะต้องประทับใจกับน้องกัสจังในบทนี้ บทภาพยนตร์ช่วงแรกดำเนินเรื่อง โดยเล่าผ่านมุมมองของ"หนิง" ที่เปรียบเหมือนกับผู้ชมคือ ยังไม่รู้อะไร เราและหนิงรู้เท่า ๆ กัน ออกผจญภัยไปกับสิ่งเร้นลับและลัทธิประหลาดไปด้วยกัน เราและหนิงค่อย ๆ พบเจอหลักฐานและพฤติกรรมแปลก ๆ ของคนรอบข้างเธอ เหตุการณ์กำลังถึงจุดไคลแม็กซ์ แต่...ช่วงกลางเรื่อง ตัวหนังกลับพาเราจมดิ่งไปกับเรื่องราวในอดีตเมื่อ 11 ปีที่แล้ว ของ "กวิน" ซึ่งปมพีคและกลายเป็นสารตั้งต้นของเรื่องราวชวนขนหัวลุกทั้งหมด ตรงนี้เราชมในความกล้านะ บทครึ่งแรกกำลังได้ที่ แล้วมาโค้งหักศอกตรงฉากย้อนอดีต เหมือนเป็นการเติมโครงเรื่องใหม่เข้าไป ซึ่งเขาเขียนบทได้เข้าใจง่ายและดูไม่งงต่อจากนั้นเรื่องก็เล่าในมุมของกวินบ้าง ในการเห็นเหตุการณ์และประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมด จนเขาเลือกที่จะงมงายเพื่อพาบางคนกลับบ้านอีกครั้งในแบบที่เป็นรูปธรรมมีร่างให้สิงสถิตส่วนช่วงท้าย มีอีกโครงเรื่องแทรกเข้ามาเกี่ยวกับลัทธิ และตัวนภาพร ซึ่งไม่ลงรายเอียดมากแบบเน้น ๆ มาแค่โปรย รวบรับ ช่วงนี้ดำเนินเรื่องในมุมของ "อิง"ตอนใกล้จบและตอนจบมันคือพาร์ทของครอบครัวแบบเน้น ๆ เลย แต่ความลุ้น ตื่นเต้นก็ยังมีอยู่ ว่าจะจบอย่างไร แต่เราบอกได้เลยว่าทัวร์ไม่ไปลง GDH แน่นอนค่ะ ชีวิตของหนิงและอิงเจออะไรหนัก ๆ มาเยอะละความเห็นส่วนตัวบทบางส่วนยังมีช่องโหว่และไม่เคลียร์อยู่ แต่ภาพรวมยังโอเคประเด็นที่น่าสนใจการเลือกเล่าความสยองขวัญผ่าน "อสังหาริมทรัพย์ "อีกครั้งของจิม โสภณ จาก โรงหนัง ใน โปรแกรมหน้าวิญญาณอาฆาต (2551) , หมู่บ้าน ใน ลัดดาแลนด์ (2554) ฯ มาสู่ ตัวบ้านเช่า ในหนังเรื่องนี้ ก่อนจะมาเป็นบ้านเช่าแน่นอนต้องเป็นบ้านที่มีเจ้าครอบครองมาก่อน ส่วนตัวเรามองว่าเหมือนกับร่างของอิงและนภาภรณ์ ที่เคยมีสิทธิ์ในพื้นที่ของตัวเอง แต่มาวันหนึ่งมีคนจะมาขอเช่าร่าง เพื่ออิงแอบอาศัย มีชีวิตอีกครั้ง ไม่ต้องเป็นวิญญาณเร่เร่อน แต่สุดท้ายเขาเหล่านั้นก็จะถือสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ กว่าจะเจ้าของบ้านหรือร่างจะลูกตัวก็อาจจะสายเกินไป เพราะพวกเขาเหล่านั้นจะไม่ยอมย้ายออกไปเด็ดขาด"บ้าน" คือ อีกสถานที่หนึ่งที่สนับสนุนความยึดติด บ้านเคยเป็นความทรงจำที่ดีของกวิน แต่แล้ววันหนึ่งบ้านกลับทำให้เขาสูญเสีย จนกลายเป็นบาดแผลฝังลึกในใจ และอีกนัยหนี่ง บ้านคือที่แห่งการรอคอย เขาเชื่อเสมอว่าคนที่จากเขาไปแค่ร่างแต่จิตวิญญาณยังอยู่ในบ้านหลังนี้ ตัวของกวิน จึงมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ บางทีถ้าเขาตัดสินใจขายบ้านไปตั้งแต่วันนั้น เรื่องราวเลวร้าย และการชักศึกเข้าบ้านคงไม่เกิดขึ้นลัทธิความเชื่อ และการมูเตลู ในเรื่องสะท้อนผ่านครอบครัวชนชั้นกลางอย่าง กวิน ความเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็นอาจเป็นทางออกของปัญหาสำหรับใครหลายคนที่ไม่รู้จะจัดการปัญหาตรงหน้าอย่างไร ยิ่งจิตตกและไม่รู้เท่าทันด้วยแล้ว มูผิดชีวิตอาจเปลี่ยนและพังเลยก็ได้นะสถาบันครอบครัว กวินปิดบังเรื่องราวทั้งหมดไม่ให้หนิงรู้ เพราะการจะแชร์ร่างของอิงให้กับจ๋าลูกคนแรกของเขา เหมือนกับการนำลูกติดเขามาอยู่ใต้ชายคาเดียวกับแม่เลี้ยง หนิงคือคนที่น่าสงสารที่สุด เธอสามีและลูกรวมหัวกันปิดปัง ทั้ง ๆ ที่นอนข้างกันมาเกือบ 10 ปี แต่กวินเหมือนคนแปลกหน้าสำหรับเธอ หนิงไม่รู้อะไรเลย เธอต้องเสียสละอะไรหลายอย่าง เช่นเดียวกับอิง เพื่อเป็นนางแบกเพื่อคนเป็นสามีและพ่อ ท้ายที่สุดคนที่ทนเจ็บช้ำก็คือหนิง งานกำกับและโปรดักชั่นงานภาพแสง สี เสียง โอเคตามสไตล์ GDHสิ่งที่ชอบและเสริมบรรยากาศของเรื่องคือ ใช้สีแดงเพื่อเสริมความไสยศาสตร์ ให้ดูขลัง น่ากลัว ขนลุก ชวนหวาดระแวงทีมพร็อพ เซ็ตอัพฉาก อุปกรณ์ประกอบได้ดี เละจริง สกปรกจริง อับเฉาจริง น้อง ๆ สัตว์ประกอบฉากก็จัดเต็มดูเรียลดี สิ่งที่ชอบคือ หนังสือสวดมนต์คาถาของลัทธิ การดำเนินเรื่อง โดยส่วนตัวเราดูในทีวี สามารถดูเพลิน ๆ ได้จนจบ ไม่เบื่อ ไม่กรอ ไม่วอกแวก เนื่องด้วยประเด็นเยอะด้วย กลัวพลาดอะไรเด็ด ๆ มีบางช่วงที่เรากรอกลับไปบ้าง เพราะยังไม่เก็ตบางประเด็นการกำกับ มีความตุ้งแช่ มีผี ตามสไตล์หนังสยองขวัญ ชวนหวาดระแวง หากเทียบกับหนังตระกูลบ้าน เราว่าลัดดาแลนด์ทำได้หลอนกว่า ในบ้านเช่า บูชายัญ เราไม่ตกใจมุกตุ้งแช่ เฉย ๆ ไม่มีเอามือมาปิดตาฉากที่ชอบ ซีนท่องบดสวดหลอนสำหรับเรา เสียงติดหูสยองนะ ภาพรวมของหนังเป็นหนังแนวลึกลับ สยองขวัญ ที่ไม่น่ากลัวมาก หรือโหดจนเกินไป มีความดาร์กในส่วนการสะท้อนจิตใจของมนุษย์ ที่คนเป็นพ่อเป็นสามี เป็นหัวหน้าครอบครัวได้กระทำเอาไว้ ลัทธิ/พิธีกรรมในเรื่องสื่อออกมาทางอินเตอร์ไม่ได้มีกลิ่นอายไทย ใครที่ชอบหนังแนวความสัมพันธ์ในครอบครัวและความตื่นเต้น ลุ้นระทึก ชอบคาดเดา ขอแนะนำให้รับชมค่ะ ให้คะแนนภาพรวมของหนัง 8/10 เครดิตภาพหน้าปก ออกแบบโดย canvaภาพพื้นหลังหน้าปก canva : ภาพที่ 1 gdh559 : ภาพที่ 2ภาพประกอบหน้าปก gdh559 : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 - 6 ภาพประกอบเนื้อหา netflixth : ภาพที่ 1 gdh559 : ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9ลิงก์คลิปวิดีโอประกอบเนื้อหา GDH : คลิปที่ 1 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !