แตกประเด็น! ทำไมหนังฟอร์มยักษ์ช่วงนี้ รายได้ฝืดเคือง ทำกำไรยากเหลือเกิน

ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนคงสังเกตเห็นแล้วว่าภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ทุ่มทุนสร้างมากมาย แต่เดินหน้าเก็บรายได้อย่างฝืดเคือง ยากเหลือเกินที่จะก้าวไปถึงจุดที่สามารถทำกำไรได้ เรื่องนี้ Rebecca Rubin, Brent Lang และ Matt Donnelly ได้เขียนบทความลงบนเว็บไซต์ Variety ไล่เรียงเหตุผลว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ผ่านภาพยนตร์ตัวท็อปทั้ง Indiana Jones and the Dial of Destiny, Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One และ Fast X

เริ่มต้นจาก Indiana Jones 5 เข้าฉายในเดือนมิถุนายน สามารถเก็บรายได้ไปกว่า $375 ล้าน หลังจากเข้าฉายไปได้ 6 สัปดาห์ ขณะที่ Mission: Impossible 7 ทำรายได้ที่ $523 ล้าน จากการฉาย 5 สัปดาห์ สิ่งหนึ่งที่ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องนี้คล้ายคลึงกันก็คือ ทุนสร้างที่เฉียด $300 ล้านทั้งคู่ ขณะที่งบทางการตลาดก็ปาเข้าไปอย่างน้อย $100 ล้าน ทำให้ทั้งสองเรื่องก้าวเข้าสู่เขตของภาพยนตร์ทุนสร้างสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา

Shawn Robbins หัวหน้านักวิเคราะห์ของ Boxoffice Pro ได้กล่าวว่า "ภาพยนตร์เหล่านี้จะสามารถทำรายได้ได้ดีกว่านี้มาถ้าไม่ใช่เพราะโควิด แต่แม้ว่านั่นจะทำให้ทุนสร้างของพวกเขาสูงขึ้น สุดท้ายแล้วตัวหนังก็ต้องจ่ายเงินสร้างแบบที่พวกเขาทำ และให้ผลได้ในแบบที่มันเป็น"

ผลที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องอาจจะต้องเสียเงินอย่างน้อย ๆ $100 ล้าน จากการฉายในโรงภาพยนตร์ แต่อาจจะเก็บรายได้ในระยะยาวได้เพิ่มเติมจากการฉายในบริการสตรีมมิ่ง หรือบริการชมที่บ้าน

อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ใช้ทุนสร้างมหาศาลอย่าง Fast X เองก็น่ากังวลไม่ต่างกัน ด้วยทุนสร้างกว่า $340 ล้าน แต่ภาพยนตร์สามารถทำรายได้ทั่วโลกได้ที่ $704 ล้าน ข้ามเส้นคุ้มทุนไปแบบฉิวเฉียด และสามารถทำกำไรได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

มาถึงจุดนี้เราอาจจะคิดว่า การลดทุนสร้างภาพยนตร์ให้น้อยลง อาจจะเป็นทางออก เพราะยุคการแพร่ระบาดของโควิดได้ผ่านไปแล้ว แต่มันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้น เพราะการประท้วงของนักเขียนและนักแสดงในฮอลลีวู้ด ทำให้กองถ่ายภาพยนตร์ทุกเรื่องต้องหยุดชะงัก และมันมีรายได้ด้านงานสร้างที่เพิ่มขึ้นประมาณ $2 ล้าน ต่อเดือน

ทุกอย่างดูน่าเศร้า แต่ Box Office ปีนี้ก็ไม่ได้น่าสิ้นหวังขนาดนั้น

ทั้ง Oppenheimer, Barbie, Guardians of the Galaxy Vol.3 และ The Super Mario Bros. Movie เองก็เป็นแถวหน้าที่สามารถเก็บกำไรได้ โดยเฉพาะภาพยนตร์สองเรื่องแรก ที่ทุนสร้างอยู่ที่ $100 ล้าน กับ $145 ล้าน (ตามลำดับ) ก็สามารถทำรายได้เก็บกำไรถล่มทลาย

เริ่มจาก Oppenheimer ที่ตอนนี้รายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ $648.12 ล้าน และ Barbie กับรายได้มากกว่า $1.18 พันล้าน

คำถามที่น่าสนใจก็คือ พฤติกรรมการดูภาพยนตร์ของผู้ชมในยุคสมัยนี้เปลี่ยนไปแล้วหรือไม่? ภาพยนตร์ทุนสร้างมหาศาลยังจำเป็นมากน้อยแค่ไหน? แล้วในปี 2023 ที่เหลืออีก 4 เดือนนี้จะมีหนังเรื่องไหนทำได้อีกบ้าง??

สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่

Source: Variety