รีเซต

เปิดลิสต์ 10 อันดับหนังไทยทำเงินสูงสุดตลอดกาล (ฉบับอัปเดต 2567)

เปิดลิสต์ 10 อันดับหนังไทยทำเงินสูงสุดตลอดกาล (ฉบับอัปเดต 2567)
1 พฤษภาคม 2567 ( 12:00 )
70.6K
1

สถานการณ์หนังไทยในอีก 2-3 ปีให้หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นอย่างน่าประทับใจ กลายเป็นว่ามีหนังไทยเรื่องใหม่ ๆ สามารถสร้างปรากฏการณ์รายได้ได้อย่างต่อเนื่องปีต่อปี แม้ว่าจะยังไม่อาจจะพูดได้ว่าเป็นการกลับมาเฟื่องฟูของหนังไทยได้อย่างเต็มปากก็ตาม

แม้ว่า 10 อันดับแรกของหนังไทยที่ทำรายได้เกิน 100 ล้านบาท ส่วนใหญ่ยังคงเป็นของ 2 ค่ายใหญ่แห่งยุค ทั้งค่าย GDH และ สหมงคลฟิล์ม แต่หากพิจารณาถึงความหลากหลายของความคิดสร้างสรรค์ ก็นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีไม่น้อยที่เราได้เห็นความหลากหลายของหนังไทยที่และมีชั้นเชิงกว่าหนังแนว ‘ผี-ตลก’ อย่างที่วงการหนังไทยเคยโดนสบประมาทมานานนับ 10 ปี เสมือนเป็นตัวเร่งชั้นดีให้ค่ายหนังเล็ก ๆ ได้มีที่ทางขึ้นมาในอุตสาหกรรมหนังไทยได้สำเร็จ และทำให้ค่ายหนังใหญ่ต้องปรับตัวขนานใหญ่ท่ามกลางความท้าทายของอุตสาหกรรมที่ไม่มีอะไรง่ายอีกต่อไป

ยกตัวอย่างก็เช่น ค่ายเนรมิตรหนังฟิล์ม ที่ขยันนำเสนอหนังไทยแนวทางใหม่ ๆ ทั้งหนังสัตว์ประหลาด หนังนักเลง ฯลฯ ออกมาให้ได้ตื่นเต้นอยู่ตลอด รวมทั้งค่าย เซิ้ง เจ้าของจักรวาลไทบ้าน ที่ใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง สร้าง ไทบ้าน Cinematic Universe สร้างจักรวาลหนังจังหวะอีสานในแบบของตนเองจนโดดเด่นและมีที่ทางเป็นของตัวเองชัดเจน พิสูจน์ได้จากหนังเรื่องล่าสุดอย่าง ‘สัปเหร่อ’ ที่ทำรายได้ไปกว่า 244 ล้านบาท

บทความนี้เป็นการอัปเดต 10 อันดับหนังไทยที่ทำรายได้สูงที่สุดตลอดกาล (รวมทั้งหนังไทย 20 อันดับแรกที่ทำรายได้เกิน 100 ล้านบาท) ที่นับจากนี้เชื่อว่าอันดับรายได้จะยังคงมีการเปลี่ยนแปลงไปอีกนับไม่ถ้วน ตราบใดที่คนไทยยังคงอุดหนุนหนังไทย และหนังไทยยังคงมีคุณภาพต่อไปอีกนานเท่านาน


หมายเหตุ: รายได้ของหนังไทยในบทความนี้ทั้ง 20 อันดับ เป็นการเรียงลำดับจากรายได้เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดเชียงใหม่ มีเพียงหนังบางเรื่องที่มีการเปิดเผยรายได้ประมาณการจากการฉายทั่วประเทศ


อันดับที่ 10
‘ต้มยำกุ้ง’ (2548)

รายได้: 183.35 ล้านบาท
ค่ายผู้สร้าง: สหมงคลฟิล์ม/บาแรมยู
ผู้กำกับ: ปรัชญา ปิ่นแก้ว
นักแสดง: ทัชชกร ยีรัมย์, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, บงกช คงมาลัย
เรื่องย่อ: ไอ้ขาม เด็กหนุ่มบ้านนอกที่ต้องออกเดินทางข้ามโลก หลังจากที่ผู้มีอิทธิพลระดับประเทศได้ลักพาช้างพลาย 2 พ่อลูกที่เขารักดังชีวิตไปขาย ณ ประเทศออสเตรเลีย เขาจึงต้องบุกตะลุยตามล่าหาช้างไปถึงรังของแก๊งมาเฟียที่นำโดย มาดามโรส ผู้มีลิ่วล้อเก่งกาจด้านการต่อสู้ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก จ่ามาร์ค ตำรวจไทยในออสเตรเลีย และปลา สาวไทยที่ถูกหลอกมาขายตัวในซิดนีย์ ขามจึงต้องใช้แม่ไม้มวยไทยบทใหม่ที่เรียกว่า ตำนานมวยคชสาร เข้าจัดการเพื่อชิงช้างกลับมายังบ้านเกิดให้ได้


อันดับที่ 9
‘ธี่หยด’ (2566)

รายได้: 197.53 ล้านบาท (รายได้ประมาณการทั่วประเทศ 502 ล้านบาท)
ค่ายผู้สร้าง: บีอีซีเวิลด์/เอ็ม สตูดิโอ
ผู้กำกับ: ทวีวัฒน์ วันทา
นักแสดง: ณเดชน์ คูกิมิยะ, รัตนวดี วงศ์ทอง, เดนิส เจลีลชา คัปปุน
เรื่องย่อ: หยาด และครอบครัวอาศัยอยู่แถบชนบท บ้านของเธอทำไร่ทำสวน แต่ฐานะของพ่อเธอถือว่าดีกว่าชาวบ้านละแวกนั้นอยู่โข ช่วงหน้าหนาวน้องสาวของเธอคนหนึ่งที่ชื่อ แย้ม เกิดป่วย ประจวบเหมาะกับที่ช่วงนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับภัยร้ายต่างๆ เกี่ยวกับสิ่งลี้ลับทั้งหลาย นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ หยาดได้รู้ได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ ที่คล้ายกับเป็นลางบอกเหตุบางอย่าง แต่เพราะยังเด็กเลยไม่ได้คิดอะไรมาก จนกระทั่งแย้มล้มป่วยหนักกว่าเดิม เธอจึงเริ่มปะติดปะต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่ได้พบเจอมา ทั้งเพื่อนร่วมชั้นที่เสียชีวิตอย่างผิดธรรมชาติ ทั้งการได้เจอหญิงสาวแปลกหน้าตรงศาลร้างระหว่างทางเดินกลับบ้าน ทั้งการได้ยินเสียงแปลกๆ ในตอนกลางคืน และการได้เจอกับ ยายช่วย หญิงชราผู้โดดเดี่ยวที่อาศัยอยู่คนเดียวท่ามกลางป่าเขา นอกจากนี้อาการของแย้มยังดูแปลกๆ บางครั้งดูเหมือนไม่ใช่แย้มผู้อ่อนโยนคนเดิม จนกระทั่งอาการของแย้มดูท่าจะไม่ไหว จ่ามหันต์ และ ลุงพุฒิ ผู้ได้ชื่อว่ามีวิชาอาคมก็เข้ามาช่วย แต่สายเกินไปเสียแล้ว ในเมื่อเจ้าสิ่งลี้ลับที่อาจจะเป็น “ปอบ” ตบะแก่กล้า ได้กัดกินภายในตัวแย้มและครอบงำเธอเสียสิ้น


อันดับที่ 8
‘ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 ยุทธนาวี’ (2554)

รายได้: 202.9 ล้านบาท
ค่ายผู้สร้าง: สหมงคลฟิล์ม/พร้อมมิตร โปรดักชั่น
ผู้กำกับ: หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
นักแสดง: พลตรีวันชนะ สวัสดี, ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, นพชัย ชัยนาม, อินทิรา เจริญปุระ, จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์, สรพงษ์ ชาตรี, ดอม เหตระกูล, นภัสกร มิตรเอม, ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ, อคัมย์สิริ สุวรรณศุข, ศิรพันธ์ วัฒนจินดา, ปราบต์ปฏล สุวรรณบาง
เรื่องย่อ: ปีพุทธศักราช 2127 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ สมเด็จพระนเรศ ได้สังหารสุรกำมา เหนือยุทธภูมิฝั่งน้ำสะโตง และประกาศเอกราชที่เมืองแครงสร้างความตระหนกแก่ พระเจ้านันทบุเรง องค์ราชันหงสาวดี ด้วยเกรงว่า การแข็งข้อของกรุงศรีอยุธยาจะเป็นเยี่ยงอย่างแก่ประเทศราชที่ขึ้นกับหงสาวดี แต่ด้วยติดพันศึกอังวะ จึงส่งทัพพระยาพะสิม และพระเจ้าเชียงใหม่ เข้าประชิดกรุงศรีอยุธยา ด้วยความประมาทเพราะเห็นสมเด็จพระนเรศยังอ่อนพระเยาว์ และกรุงศรีอยุธยายังบอบช้ำจากคราวเสียกรุง


อันดับที่ 7
‘ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 5 ยุทธหัตถี’ (2557)

รายได้: 206.86 ล้านบาท
ค่ายผู้สร้าง: สหมงคลฟิล์ม/พร้อมมิตร โปรดักชั่น
ผู้กำกับ: หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
นักแสดง: พลตรีวันชนะ สวัสดี, ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, นพชัย ชัยนาม, อินทิรา เจริญปุระ, จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์, สรพงษ์ ชาตรี, ดอม เหตระกูล, นภัสกร มิตรเอม, ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ, เกรซ มหาดำรงค์กุล, วินธัย สุวารี, ชลิต เฟื่องอารมย์
เรื่องย่อ: พ.ศ. 2129 พระเจ้านันทบุเรงพ่ายต่อการศึกกับพระนเรศ จึงระบายความแค้นต่อองค์พระสุพรรณกั­ลยา สมเด็จพระมหาธรรมราชาพระราชบิดาทราบค­วามก็ให้โทมนัส ด้วยสำนึกว่าชะตากรรมของพระ­ราชธิดาและแผ่นดินอยุธยาที่ถูกกระทำการย่ำ­ยีก็ด้วยเพราะพระองค์ทรงแปรพักตร์ไปเข้าข้­างศัตรู จนตรอมพระทัยเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศฯ จึงเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติค­รองกรุงศรีอยุธยาสืบต่อจากพระราชบิดา พระมังสาม­เกียด หรือพระมังกะยอชวา พระมหาอุปราชเจ้าวังหน้ากรีฑาทัพ นำกองทัพทหาร 240,000 นายมาตีกรุงศรีอยุธยา ด้วยพระปฏิภาณไหวพริบของสมเด็จพระนเรศวร จึงไสช้างเข้าไปใกล้ แล้วขอให้กระทำการยุทธหัตถี ท้ายที่สุดสมเด็จพระนเรศวรทรงฟันด้วยพระแสงของ้าวถูกพระมังสามเกียด พระมหาอุปราชาเข้าที่อังสะขวา สิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง


อันดับที่ 6
‘ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 ประกาศอิสรภาพ’ (2550)

รายได้: 216.87 ล้านบาท
ค่ายผู้สร้าง: สหมงคลฟิล์ม/พร้อมมิตร โปรดักชั่น
ผู้กำกับ: หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
นักแสดง: ปรัชฌา สนั่นวัฒนานนท์, จิรายุ ละอองมณี, สุชาดา เช็คลีย์, ฉัตรชัย เปล่งพานิช, สมภพ เบญจาธิกุล, สรพงศ์ ชาตรี, ศรัณยู วงศ์กระจ่าง, สันติสุข พรหมศิริ
เรื่องย่อ: หลังจากพระองค์ดำหรือพระนเรศ หนีกลับพระพิษณุโลกสองแควได้แล้วนั้น พระองค์ได้เจริญชันษาขึ้นและกลายเป็นอุปราชผู้รั้งเมืองพระพิษณุโลกสองแควแทนพระราชบิดา ส่วนมหาอุปราชานันทบุเรงขึ้นครองราชย์เป็น พระเจ้านันทบุเรง สืบต่อจากพระเจ้าบุเรงนองที่เสด็จสวรรคต พระเจ้านันทบุเรงจึงมีพระบรมราชโองการให้อุปราชของ 3 เมือง คือ พระนเรศวร, นัดจินหน่อง อุปราชเมืองตองอู และพระมหาอุปราชามังสามเกียด ยกทัพไปปราบเมืองคัง พระนเรศวรสามารถตีเมืองคังได้สำเร็จ สร้างความแค้นเคืองให้พระมหาอุปราชามังสามเกียด พระนเรศวรได้กระทำพิธีหลั่งน้ำทักษิโณทก เพื่อประกาศว่าพระพิษณุโลกสองแคว จักไม่ขึ้นตรงต่อหงสาวดีอีกต่อไป


อันดับที่ 5
‘ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 1 องค์ประกันหงสา’ (2550)

รายได้: 236.7 ล้านบาท
ค่ายผู้สร้าง: สหมงคลฟิล์ม/พร้อมมิตร โปรดักชั่น
ผู้กำกับ: หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
นักแสดง: ปรัชฌา สนั่นวัฒนานนท์, จิรายุ ละอองมณี, สุชาดา เช็คลีย์, ฉัตรชัย เปล่งพานิช, สมภพ เบญจาธิกุล, สรพงศ์ ชาตรี, ศรัณยู วงศ์กระจ่าง, สันติสุข พรหมศิริ
เรื่องย่อ: พุทธศักราช 2106 พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ทรงกรีฑาทัพเข้าตีราชอาณาจักรอยุธยาทางด่านระแหงแขวงเมืองตาก พระมหาธรรมราชาจึงแปรพักตร์ไปเข้าด้วยกับพระเจ้าบุเรงนองเพื่อร่วมกันโจมตีอยุธยา โดยที่พระเจ้าบุเรงนองได้ขอเอาตัวพระนเรศ หรือองค์ดำ พระโอรสองค์โตในพระมหาธรรมราชาและพระนางวิสุทธิ์กษัตริย์ ไปเป็นองค์ประกันในหงสาวดี องค์ดำกลายเป็นศิษย์เอกของพระมหาเถรคันฉ่อง พระประจำพระองค์ของพระเจ้าบุเรงนอง และทรงเป็นที่รักใคร่ของพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ประดุจพระราชบุตรร่วมสายสันตติวงศ์


อันดับที่ 4
‘สัปเหร่อ’ (2566)

รายได้: 244.95 ล้านบาท (รายได้ประมาณการทั่วประเทศ 729.6 ล้านบาท)
ค่ายผู้สร้าง: ไทบ้าน สตูดิโอ
ผู้กำกับ: ธิติ ศรีนวล
นักแสดง: ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร, ชาติชาย ชินศรี, สมชาย สายอุทา
เรื่องย่อ: เจิด เด็กหนุ่มวัย 25 ปีที่เรีนนจบกฎหมาย 7-8 ปี มีพ่อทำอาชีพ สัปเหร่อ เขาหวังจะไปสอบเป็นทนายหรือปลัดอำเภอ แต่ต้องมาช่วยพ่อเป็นสัปเหร่อ เพราะพ่อมีอาการป่วยจนต้องมาช่วยพ่อทำงาน แต่ลังเลเพราะเกิดเป็นคนที่กลัวผีมากๆ และต้องมาทำงานกับศพ


อันดับที่ 3
‘สุริโยไท’ (2544)

รายได้: 324.5 ล้านบาท (รายได้ประมาณการทั่วประเทศ 550 ล้านบาท)
ค่ายผู้สร้าง: สหมงคลฟิล์ม/พร้อมมิตร โปรดักชั่น
ผู้กำกับ: หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
นักแสดง: หม่อมหลวงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี, ศรัณยู วงศ์กระจ่าง, ฉัตรชัย เปล่งพานิช, จอนนี่ แอนโฟเน่, ใหม่ เจริญปุระ, สรพงษ์ ชาตรี, อำพล ลำพูน
เรื่องย่อ: หนังเล่าเรื่องพระประวัติของพระสุริโยไท พระมเหสีของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ตั้งแต่ขณะทรงพระเยาว์ และวีรกรรมการเสียสละไสช้างเพื่อสละชีพแทนพระสวามี จนอังสาขาดสะพายแล่งสิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้างกลางสมรภูมิยุทธหัตถี ณ ทุ่งมะขามหย่อง กลายเป็นหนึ่งของวีรกรรมความกล้าที่ถูกเล่าขานบนหน้าประวัติศาสตร์ของชาติไทย


อันดับที่ 2
‘ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้’ (2557)

รายได้: 330.55 ล้านบาท
ค่ายผู้สร้าง: จีทีเอช/จอกว้างฟิล์ม
ผู้กำกับ: เมษ ธราธร
นักแสดง: ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, ปรีชญา พงษ์ธนานิกร, ภพธร สุนทรญาณกิจ, โจ๊ก โซคูล, กุลญาดา ตาวิยะ, ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด, โซระ อาโออิ
เรื่องย่อ: เพลง ติวเตอร์ภาษาอังกฤษสาวสวยต้องหัวจะปวด เมื่อลูกศิษย์ต่างชาติของเธอกำลังจะตัดสินใจเลิกกับยิม แฟนหนุ่มคนไทย ช่างเทคนิคในโรงงานผู้มีทักษะภาษาอังกฤษต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เพื่อเดินทางไปอเมริกา ยิมจึงใช้แรงโกรธไปสมัครเรียนภาษาอังกฤษเพื่อไปตามง้อแฟนถึงอเมริกา ก่อนที่ทั้งคู่จะค่อย ๆ เพิ่มพูนความรู้สึกดี ๆ ต่อกันโดยไม่รู้ตัว


อันดับที่ 1
‘พี่มาก..พระโขนง’ (2556)

รายได้: 559.59 ล้านบาท (รายได้ประมาณการทั่วประเทศ 1,000 ล้านบาท)
ค่ายผู้สร้าง: จีทีเอช/จอกว้างฟิล์ม
ผู้กำกับ: บรรจง ปิสัญธนะกูล
นักแสดง: มาริโอ้ เมาเร่อ, ดาวิกา โฮร์เน่, พงศธร จงวิลาส, ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์, อัฒรุต คงราศรี, กันตพัฒน์ สีดา
เรื่องย่อ: ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เกิดเหตุสงคราม ทำให้ชาวบ้านต้องถูกเกณฑ์ไปรบ มาก ผัวหนุ่ม จำต้องทิ้งนาก เมียสาวท้องแก่ไว้กับบ้านเพื่อไปร่วมศึก เขาได้พบเจอกับเพื่อนสนิท เต๋อ เผือก ชิน และ เอ จนเมื่อกลับมาบ้าน มีข่าวลือว่านากกลายเป็นผีตายทั้งกลมไปแล้ว เพื่อนทั้ง 4 คนจึงต้องแอบบอกความจริงเรื่องนี้ให้มากได้ล่วงรู้


สถิติรายได้หนังไทยเรื่องอื่น ๆ ตั้งแต่อันดับที่ 11-20

อันดับที่ 11 'บุพเพสันนิวาส ๒' (2565) (จีดีเอช/บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น) 170.19 ล้านบาท (ทั่วประเทศ 393 ล้านบาท)
อันดับที่ 12 ‘4 KINGS อาชีวะ ยุค 90’ (2564) (เนรมิตรหนังฟิล์ม) 170 ล้านบาท (ทั่วประเทศ)
อันดับที่ 13 ‘หลวงพี่แจ๊ส 4G’ (2559) (ฟิล์มกูรู โปรดักชั่น) 166.53 ล้านบาท
อันดับที่ 14 'นาคี ๒' (2561) ดู เอ็นเตอร์เทนเม้นท์/เอ็ม พิคเจอร์ส 161.19 ล้านบาท (ทั่วประเทศ 417.55 ล้านบาท)
อันดับที่ 15 ‘หลานม่า’ (2567) (จีดีเอช) 166.20 ล้านบาท (ทั่วประเทศ 324 ล้านบาท)
อันดับที่ 16 ‘ATM เออรัก เออเร่อ’ (2555) (จีทีเอช/จอกว้างฟิล์ม) 152.5 ล้านบาท
อันดับที่ 17 ‘บางระจัน’ (2543) (ฟิล์มบางกอก) 151 ล้านบาท
อันดับที่ 18 ‘นางนาก’ (2542) (ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์) 149.6 ล้านบาท
อันดับที่ 19 ‘น้อง.พี่.ที่รัก’ (2561) (จีดีเอช/จอกว้างฟิล์ม) 149 ล้านบาท (ทั่วประเทศ 244.77 ล้านบาท)
อันดับที่ 20 ‘รถไฟฟ้า มาหานะเธอ’ (2552) (จีทีเอช/จอกว้างฟิล์ม) 145.82 ล้านบาท


ที่มา: Wikipedia, Thailand Box Office, Theaterist