In My MemoriesThe 8-Year Engagement บันทึกน้ำตารัก 8 ปี (2017)สร้างจากเรื่องจริงยิ่งกว่าละครสะท้อนว่า "รักแท้" มีอยู่จริงที่เล่าได้ซาบซึ้งตราตรึงจนหัวใจพ่ายตับพังวลีที่ว่า "โลกนี้คือละคร" มิใช่คำกล่าวเกินจริงเพราะบางครั้งเราก็ได้เห็นชีวิตจริงที่ยิ่งกว่าละคร แล้วบ่อยครั้งที่ได้ทราบเรื่องเหล่านั้นที่ในชีวิตจริงมีอะไรพลิกผันโศกเศร้าซาบซึ้งหัวใจก็มักจะถูกผูกมัดให้มีส่วนร่วม แล้วบ่อยครั้งอีกเช่นกันที่เรื่องราวเหล่านั้นที่ไม่น่าเชื่อว่ามันคือเรื่องจริงแต่ก็เป็นไปแล้วจนมีบ้างที่เรื่องราวเหล่านั้นได้ถูกสร้างมาเป็นหนังหรือละคร แน่นอนการเอาเรื่องจริงมาสร้างเป็นภาพยนตร์อาจมีเสริมเติมแต่งให้ดึงดูดใจแต่แก่นแท้ที่ทำให้เรื่องราวเหล่านั้นเกิดขึ้นก็ยังคงอยู่ แล้วแก่นแท้นั้นเองที่สามารถจับใจคนดูเพราะบางคราการดูหนังสักเรื่องก็สะเทือนใจหรือประทับใจมากพอ แล้วเมื่อหนังเรื่องนั้นกลับได้รับรู้ว่ามันคือเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริงยิ่งจะทำให้หัวใจสัมผัสแง่มุมในเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ลึกซึ้งกว่า อาจเพราะบางเรื่องคือเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ถ้าวัดจากมาตรฐานมนุษย์ทั่วไปเพราะอะไรก็ตามที่เป็นการทำเพื่อคนอื่นด้วยเหตุผลใดก็ตามอย่างไร้เงื่อนไขคือเรื่องประโลมโลก เช่นเดียวกับหนังในดวงใจดูไปบ่นไปเรื่องนี้ที่สามารถดูได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะหัวใจผูกติดกับเรื่องราวความจริงที่ยิ่งกว่าละครนี้ออกตัวมาเลยว่านี่คือการอ้างอิงจากเรื่องจริงของฮิซาชิ (ทาเครุ ซาโตะ) หนุ่มช่างซ่อมรถที่มีความเป็นตัวเองรักสันโดษแต่จิตใจดี วันหนึ่งในงานเลี้ยงเขาได้พบกับมาอิ (ทาโอ สึชิยะ) ที่ก็ยังไม่ใช่ว่าสะดุดตา ทว่ากิริยาของฮิซาชิที่เย็นชาในงานเลี้ยงกลับขัดใจมาอิจนตามมาต่อว่าแล้วก็พบว่าฮิซาชิทำกิริยาแบบนั้นเพราะเขาดันปวดท้อง เมื่อด่าไปโดยความไม่รู้มาอิจึงไปซื้อถุงร้อนมาให้ฮิซาชิเพื่อไถ่โทษและนั่นคือจุดเริ่มต้นของความรัก แต่ความสุขกลับอยู่ไม่นานเมื่อฮิซาชิขอมาอิแต่งงานแต่แล้วมาอิก็มาล้มป่วยเป็นโรคประหลาดที่มีโอกาสเกิดขึ้นเพียงหนึ่งในสามล้าน เมื่อสมองของมาอิถูกทำลายเธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราแต่ฮิซาชิก็ยังมาดูแลเรื่อยๆจนพ่อและแม่ของมาอิบอกให้เขาถอยไปเพราะไม่อยากทำลายอนาคตของคนดีๆ แต่เมื่อฮิซาชิมาคิดอีกทีความสุขเดียวในชีวิตเขาคือมาอิเขาจึงไม่ย่อท้อที่จะดูแลคนที่รักด้วยความหวังจนกระทั่งมาอิฟื้นขึ้นมาเหมือนเกิดใหม่คือไม่เหลือความทรงจำ แต่รักแท้ก็คือรักแท้ที่สัมผัสได้ตลอดแปดปีแห่งความทุกข์ทรมานสุดท้ายมาอิก็รักฮิซาชิอีกครั้งแต่สำหรับฮิซาชิเขาไม่เคยหยุดรักมาอิเล่าเรื่องจริงที่ไม่ต่างจากนิยายโศกซึ้งตราตรึงอย่างต้องทึ่งในความรักแท้ หนังแสดงออกได้ดีด้านพัฒนาการที่อาจมีแต่งเติมแต่ไม่ทำให้เรื่องจริงกลายเป็นนิยายไปทำให้ความเชื่อของคนดูยังคงเชื่อว่ากำลังดูเรื่องราวความรักที่ยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นจริงแม้จะดูเหลือเชื่อ เช่นเคยที่ความเป็นหนังญี่ปุ่นจะดูคล้ายกับเรียบเรื่อยและเน้นที่ความรู้สึกให้ออกมาจากข้างใน ก็ใช่ที่ญี่ปุ่นมีดีที่สามารถเล่าเรื่องเหนือจริงให้รู้สึกเหมือนเป็นจริงที่สามารถเกิดขึ้นได้แต่เมื่อได้บทที่สมจริงญี่ปุ่นก็เล่าได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน และกับเรื่องนี้ที่ถ้าไม่บอกว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงก็อาจเป็นเรื่องเหนือจริงที่มีแต่ในนิยายเพราะท้าทายสมมติฐานและมโนสำนึกของมนุษย์เต็มที่ ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้ใช่หรือไม่ว่าเรื่องแบบนี้แม้อาจเหมือนกับโรคที่มาอิเป็นที่มีโอกาสเพียงหนึ่งในสามล้านที่จะมีคนที่รักแท้คงมั่นได้อย่างฮิซาชิแต่ก็มีคนแบบนี้จริงสามารถเกิดเรื่องราวที่น่าทึ่งแบบนี้ได้จริง ที่สำคัญแม้การเล่าเรื่องที่ก็คงมีเติมแต่งอะไรลงไปเพื่อให้มีความเป็นภาพยนตร์บ้างแต่คนดูกลับจับสัมผัสไม่ได้จนคล้ายกับเป็นพยานในความรักคงมั่นครั้งนี้แบบทึ่งแล้วทึ่งอีกรักแท้ที่คงมั่นและแม้จะไม่ได้สานต่อความรักแต่ก็ก่อรักครั้งใหม่กับคนคนเดิม เพราะฮิซาชิและมาอิคือคนที่มีตัวตนจริงจึงต้องทึ่งในเรื่องจริงที่เหมือนดังนิยายรักนี้ทึ่งในความอดทนที่มั่นคงในรักตลอดเวลาแปดปีที่คงนานแสนนานเพราะระหว่างนั้นมันมีเรื่องบั่นทอนเขาเสมอมา ไม่เพียงแต่มาอิไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเขาแล้วแต่ด้วยความมั่นคงของเขาทำให้ครอบครัวของมาอิต้องบอกให้เขาปล่อยวางและไปมีชีวิตใหม่ที่ดีเพราะไม่เห็นความหวัง แต่ฮิซาชิที่ยึดมั่นในรักก็พิสูจน์ให้ครอบครัวของมาอิยอมรับได้จนวันที่เธอฟื้นเมื่อมีคนที่ไม่รู้จักมาอยู่เคียงข้างคอยดูแลซึ่งเธอได้รับรู้เรื่องราวของเขาแต่เธอจำไม่ได้และพยายามเรียกความทรงจำส่วนนั้นกลับมา ทุกการกระทำสร้างความเจ็บปวดให้ฮิซาชิจนตัดสินใจถอยออกมาเพื่อไม่ให้คนรักต้องทุกข์ทรมาน จนที่สุดความผูกพันและสัมผัสของรักแท้ได้ก่อร่างความรักรั้งใหม่กับฮิซาชิในความทรงจำใหม่จนทั้งคู่ผ่านมันไปได้ สุดท้ายแม้ความทรงจำเดิมจะไม่กลับมาแต่จะผิดอะไรที่ความรักจะเกิดอีกครั้งกับคนคนเดียวกันขณะที่อีกคนไม่เคยที่หยุดรักกับบทสนทนาตอนท้ายที่ว่ามาอิ "ฉันจำไม่ได้อยู่ดีแต่ไม่เป็นไรเพราะฉันรักคุณฮิซาชิอีกครั้งแล้ว พูดว่ารักอีกครั้งมันคงฟังดูแปลกๆ"ฮิซาชิ "ส่วนผม... รักไม่เคยเปลี่ยนเลย"เพราะความหวังทรงพลังกว่าความกลัวความหวังจึงทำให้โลกหมุน ในเรื่องราวที่แสนประทับใจแฝงความนัยคือชีวิตยังมีความหวังและไม่ว่าชีวิตจะโหดร้ายปานไหนความรักจะพาข้ามพ้นไปได้เสมอ ในความประทับใจนั้นตั้งบนความเหลือเชื่อว่าจะมีใครสักคนที่มั่นคงได้ขนาดนั้นใครสักคนที่อยู่กับความทุกข์ได้นานขนาดนั้น เพราะความสุขเดียวของฮิซาชิคือมาอิและความเจ็บปวดก็คือมาอิอีกเช่นกันเพราะแม้จะมีปาฏิหาริย์แต่เขากลับไม่ได้อยู่ในความทรงจำของคนที่รัก เช่นกันที่มาอิต้องแปลกใจเพราะมีคนแปลกหน้ามาดูแลแต่รักแท้สัมผัสได้กลายเป็นความรับผิดชอบให้เธอพยายามเรียกความทรงจำจนฝืนอาการป่วย ขณะเดียวกันความทุกข์ของคนเป็นพ่อและแม่ที่หนังเน้นแม่มากกว่าว่าลูกป่วยหนักก็ทุกข์พออยู่แล้วแล้วเมื่อมีคนที่ไม่ใช่คนในครอบครัวมาทำทุกอย่างเพื่อลูกกระทั่งไม่คิดถึงตัวเอง ความเจ็บในการตัดใจบอกไปว่าหมดหวังแล้วและให้ไปใช้ชีวิตใหม่แม้ดูโหดร้ายแต่นั่นเพราะความหวังดีต่อผู้ชายดีๆคนหนึ่ง ซึ่งคิดว่าลูกคงไม่มีโอกาสได้ครองรักกับเขาแล้วแม่ว่านั่นจะเป็นการดูถูกน้ำใจของฮิซาชิก็ตามสุดท้ายเพราะรักแท้จึงเกิดความหวังที่ทำให้โลกหมุน เพราะไม่สิ้นหวังจึงผ่านพ้นแล้วเมื่อทุกข์มากแต่มีความหวังที่เปี่ยมล้นความสุขที่ได้รับก็ล้นตามการแสดงที่คู่ควรกับการเสียน้ำตาเพราะคนดูรับรู้ทุกความรู้สึก กับทาเครุ ซาโตะนั้นเขาถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าสงสารเมื่อแรกเห็นก็รู้ว่านี่คือคนที่จิตใจดีทาเครุ ซาโตะแสดงให้เห็นว่าฮิซาชิคือคนที่รักมั่นคงโดยแท้จริงดูอมทุกข์เมื่อต้องใช้ชีวิตปกติและดูมีความสุขเมื่อได้อยู่ดูแลคนที่รักอยู่ข้างๆ ส่วนทาโอ สึชิยะยิ่งจัดหนักเพราะเล่นเป็นคนป่วยแบบไม่ห่วงสวยดูน่ารักและมีเสน่ห์ที่เชื่อหมดใจว่าเป็นคนที่ฮิซาชิหลงรักแน่นอนคนดูก็รักเธอ ฝั่งพ่อกับแม่ก็ไม่น้อยหน้าทั้งฮิโรโกะ ยาคุชิมารุกับเท็ตตะ สุกิโมโตะโดยเฉพาะรายแรกที่หนังเน้นกับความทุกข์ทรมาณเมื่อลูกเจ็บความหวังที่ยังมีอยู่ความสุขเมื่อลูกมีอาการดีขึ้นทำได้อย่างน่าเชื่อถือสมราคานักแสดงแถวหน้าของญี่ปุ่นอีกคน แล้วส่วนสำคัญที่จับสัมผัสได้แม้เรื่องจะไม่ขับเน้นแต่แฝงมาเนียนคือคนรอบข้างที่รายล้อมฮิซาชิที่บอกให้รู้ว่าโลกนี้ยังมีคนดีๆที่พร้อมอยู่ข้างคนดีที่นักแสดงสมทบทำได้ดีอย่างไม่มีที่ติ แล้วความเป็นหนังญี่ปุ่นคือต้องเรียบนิ่งปล่อยให้ภาพดึงอารมณ์พร้อมเพลงประกอบที่มาในโทนโลกสวยเปี่ยมความหวังจนคนดูรับรู้ทุกความรู้สึกกล้าท้าเลยว่าใครดูเรื่องนี้แล้วน้ำตาไม่แตกคือคนใจหิน ซึ่งน้ำตาที่เสียไปนั้นมาจากทุกอารมณ์ทั้งเจ็บปวดโศกเศร้าซาบซึ้งเปี่ยมสุขหรือกล้าบอกว่าหนังเรื่องนี้ที่คนบ่อน้ำตาตื้นขอบตาจะชื้นได้ในทุกฉากทุกซีนกับทุกอารมณ์ แต่นั่นไม่ได้มาจากอาการเร่งเร้าบีบคั้นเพราะหนังก็บอกแล้วว่านี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงทุกอย่างที่เห็นมีรากฐานของความจริง แล้วเมื่อคนดูรู้ว่านี่คือเรื่องจริงคนดูจะยิ่งจับสัมผัสอารมณ์ความรู้สึกได้ลึกจนบางครั้งน้ำตาก็ไหลมาโดยไม่รู้ตัวที่แม้หนังจะดูเรียบเรื่อยแต่ก็มีความพลิกผันเพราะหนังเริ่มต้นที่สุขสลับกับทุกข์และเจ็บปวดตลอดเวลาจนมาเปี่ยมสุขในตอนท้ายเอาง่ายๆคือจะลุ้นว่าเมื่อไหร่ความทรงจำของมาอิเกี่ยวกับฮิซาชิจะกลับมา แน่นอนภาพสวยเพลงเพราะกับความดีงามของหนังญี่ปุ่นคือความไม่พยายามเร้าและบีบน้ำตาแม้ว่ากับเรื่องนี้ถ้าจะทำก็คงรองได้เป็นโอ่ง แต่กลับปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติน้ำตาที่คลอเบ้ามาจากความเศร้าเคล้าความสงสารกระทั่งปลื้มปริ่มในตอนจบที่สวยงามในตอนท้ายหาใช่ถูกเร้า แต่เป็นเพราะเราได้เป็นพยานที่ได้รับรู้อย่างใกล้ชิดกับความรักของพวกเขาต่างหากดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก1,ภาพปก 2,ภาพที่ 1,2,3,4,5,6,7 จาก sahamongkolfilm.comภาพที่ 8 จาก Facebook Major Group ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/45vb3XWyGVZ5https://entertainment.trueid.net/detail/DjVDwd5Gy1nxhttps://entertainment.trueid.net/detail/R2xVW3n4oBz5https://entertainment.trueid.net/detail/93Nj28ybqEa3 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !