Cover Picture Credit : https://realsound.jp/movie/2017/12/post-144134.html Picture Credit : https://www.tbs.co.jp/NIGEHAJI_tbs/สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมาเอาใจผู้ที่ชื่นชอบรับชมซีรีย์ญี่ปุ่นกันสักหน่อย หากว่ายิ่งชื่นชอบแนวคอมเมดี้-โรแมนติกด้วยแล้วละก็ ไม่ควรพลาดเรื่องนี้เลย Nigeru wa Haji da ga Yaku ni Tatsu ซึ่งมีชื่อภาษาอังกฤษว่า We marry as a job นั่นเองค่ะ ซึ่งออกอากาศทางช่อง TBS ในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม ปี 2016 กับการนำนักแสดงสุดฮอตอย่าง ยูอิ อารางากิ มาประกบคู่กับ เก็น โฮชิโนะ เป็นครั้งแรก แม้ว่าจะมีเสียงท้วงติงมาว่าไม่ค่อยเหมาะสมกันเท่าไหร่ แต่เมื่อได้ชมผลงานซีรีย์เรื่องนี้ เรียกได้ว่ากลายเป็นคู่จิ้นที่แฟน ๆ ต่างเชียร์กันอย่างมากเลยล่ะค่ะPicture Credit : https://www.tbs.co.jp/NIGEHAJI_tbs/storyเรื่องย่อเนื้อหาของซีรีย์ญี่ปุ่น Nigeru wa Haji da ga Yaku ni Tatsu จะเล่าเรื่องราวของ มิคุริ สาวสวยวัย 25 ปี ที่ดำเนินชีวิตตามแบบฉบับคนทั่วไปคือเมื่อเรียนจบปริญญาโท ด้านจิตวิทยาคลินิกแล้ว ก็อยากจะหางานประจำทำ แต่ดันต้องมาทำงานเป็นพนักงานจ้างชั่วคราวในบริษัทแห่งหนึ่ง แม้ว่าจะขยันและตั้งใจทำงานอย่างดี แต่เธอดันถูกเลิกจ้างฟ้าผ่า ! แน่นอนว่าหลังจากนั้นก็กลายเป็นคนว่างงาน ทำให้พ่อของมิคุริแนะนำให้ไปทำงานเป็นแม่บ้านชั่วคราวให้กับ สึซากิ โปรแกรมเมอร์วัย 35 ปี ที่มีนิสัยเงียบขรึม บ้างาน มีความเป็นระเบียบเป๊ะเว่อร์ แถมยังไม่เคยมีแฟนมาก่อนอีกด้วยPicture Credit : http://www.tbs.co.jp/NIGEHAJI_tbs/story/story06.htmlแม้จะเจ้าระเบียบจัดแต่เขากลับชอบผลงานของมิคุริมากที่ทำงานบ้านได้สะอาดเนี๊ยบ ประจวบกับมิคุริไม่อยากย้ายไปอยู่ในชนบทกับพ่อและแม่ จึงทำให้เธอยื่นข้อเสนอแก่ สิซากิ ผู้เป็นนายจ้างด้วยการขอทำ สัญญาแต่งงาน ! นั่นก็คือแต่งงานแบบไม่จดทะเบียน แต่จะต้องจ่ายเงินเดือนให้เธอแลกกับการทำงานบ้านให้เหมือนเดิม แม้ว่าจะทำให้สึซากิอึ้งไป แต่เมื่อคิดดูดี ๆ แล้วตั้งแต่มีมิคุริเข้ามาทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นมาก จึงยอมตกลงข้อเสนอนี้ แต่หารู้ไม่ว่าหลังจากอยู่ร่วมชายคาเดียวกันเป็นสามีภรรยา(แบบหลอก ๆ ) ก็ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นกับชีวิตทั้งสองทันทีPicture Credit : http://www.tbs.co.jp/NIGEHAJI_tbs/story/story04.htmlรีวิว 9/10ส่วนตัวแล้วต้องบอกเลยว่าชอบซีรีย์เรื่องนี้มากเลยค่ะ อาจเป็นเพราะเบาสมองดูแล้วทำให้อมยิ้มได้ตลอด ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะเข้าใจกันว่าผู้ชายต้องเป็นฝ่ายจีบผู้หญิงก่อน แต่สำหรับเรื่องนี้ผู้หญิงเป็นฝ่ายรุกก่อนเลยจ้า 5555 ก็ถือว่าน่าจะสร้างแรงบันดาลใจทำให้สาว ๆ ลองหันมาจีบผู้ชายบ้างก็ดีนะคะ สำหรับยุคนี้แล้วไม่ใช่เรื่องที่น่าอายเลยนะ และถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้มีฉากโรแมนติกมากสักเท่าไหร่ก็ตาม ด้วยความที่ทั้งพระเอกและนางเอกต่างมีนิสัยสุภาพกันทั้งคู่เลย แต่ก็มีฉาก Skinship อย่างเช่น การกอดทุกวันอังคาร ><&nbsp; ให้ดูเรื่อย ๆ เลยนะคะยังรวมไปถึงฉากทานข้าวที่มีบ่อยมาก แต่ความธรรมดานี่แหล่ะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งสองคนได้พูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ ที่ต่างพบเจอมาในชีวิตประจำวัน อันที่จริงแล้วชีวิตคนเราหากมีใครสักคนคอยรับฟังทุกเรื่องราวได้ มันดีจริง ๆ เลยล่ะค่ะ นอกจากนี้แล้วยังสะท้อนให้เห็นถึงแง่มุมนึงในสังคมการทำงานของญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ ว่าคนส่วนใหญ่มักจะบ้างาน ไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือชายก็ตาม เรียกได้ว่าทำงานกันแบบหามรุ่งหามค่ำเลยทีเดียว และด้วยวัฒนธรรมการทำงานที่ต้องเคารพนับถือหัวหน้างาน ไม่ว่าจะโดนสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำ อย่างเช่น นางเอกที่ต้องล้างแก้วน้ำให้หัวหน้างาน แม้ว่าเขาจะไล่เธอออกก็ตามค่ะยังรวมไปถึงไม่ค่อยมีความเท่าเทียมกันทางเพศซึ่งผู้หญิงมักจะไม่ค่อยได้รับโอกาสให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานสักเท่าไหร่ และสภาวะการหางานยากในปัจจุบัน เห็นได้จากการที่มิคุริ ที่จบระดับปริญญาโทแต่ก็ยังต้องมาเป็นพนักงานจ้างชั่วคราวอยู่เลย TT เท่านั้นไม่พอ ฝ่ายหญิงซึ่งถ้าหากว่าแต่งงานและมีลูกแล้ว สถานะก็มักจะกลายเป็นแม่บ้านไปโดยปริยายค่ะ รวมไปถึงนิสัยของผู้ชายญี่ปุ่นก็มักจะขี้อายและค่อนข้างเก็บตัว จึงจะเห็นได้ว่านางเอกของเรื่องมักจะเป็นฝ่ายรุกอยู่เสมอนั่นเองแหล่ะค่ะ