เกมธุรกิจใน Race ซีรีส์ออฟฟิศโรแมนซ์เรื่องใหม่กำลังบังเกิด เปิดสังเวียนแห่งกลยุทธ์โดยทีมนักแสดงชั้นนำ อียอนฮี นางเอกสาวสวยผู้โคจรมาประกบคู่พระเอกสายอบอุ่น ฮงจงฮยอน เสริมทัพด้วยหนุ่มหล่อ ยุนโฮ TVXQ รวมทั้งนักแสดงตัวแม่ระดับตำนาน มุนโซรี พร้อมแล้วเตรียมปลุกไฟในการทำงานไปกับพวกเขาเหล่านี้กันได้เลย เรื่องย่อRace บอกเล่าเรื่องราวของ พัคยุนโจ (รับบทโดย อียอนฮี) หญิงสาวผู้ต่อสู้กับโชคชะตาอันแร้นแค้นมาตั้งแต่ยังเด็ก ความยากจนทำให้เธอขาดโอกาสเล่าเรียนหลักสูตรสามัญเฉกเช่นมนุษย์วัยเดียวกัน ต้องอาศัยการศึกษาทางเลือกจนจบหลักสูตรประกาศนียบัตรจากมหาวิทยาลัยออนไลน์ แม้โปรไฟล์ของเธอจะถูกมองว่าไร้ค่า ทว่าบริษัทการตลาดขนาดเล็กแห่งหนึ่งกลับเล็งเห็นถึงความสามารถของพัคยุนโจ เธอจึงมุ่งมั่นทำงานจนตะกายขึ้นเป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้สำเร็จ ทั้งยังทุ่มแรงกายแรงใจอย่างสุดกำลังโดยไม่สนว่าองค์กรของเธอจะอยู่ในระดับต่ำสุดของวงการนี้ก็ตามชีวิตธรรมดาสามัญของพัคยุนโจกำลังเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อกลุ่มธุรกิจชั้นนำของประเทศอย่าง เซยง (SEYONG) เปิดรับสมัครพนักงานโดยไม่สนใจประวัติการศึกษา ใครบางคนถือวิสาสะยื่นใบสมัครให้เธอโดยไม่บอกกล่าว ซ้ำเธอยังผ่านการคัดเลือกจนได้เข้าทำงานฝ่ายประชาสัมพันธ์อย่างไม่คาดคิด ณ ที่แห่งนั้นพัคยุนโจได้พบกับบุคคลต้นแบบอย่าง กูอีจอง (รับบทโดย มุนโซรี) เธอต้องพิสูจน์ตัวเองผ่านการแก้ไขปัญหาที่ถาโถมเข้ามารายวัน พร้อมรับมือกับการจู่โจมจาก รยูแจมิน (รับบทโดย ฮงจงฮยอน) และ ซอดงฮุน (รับบทโดย ยุนโฮ) สองหนุ่มต่างขั้วที่กำลังคิดกับเธอเกินกว่าเพื่อนร่วมงาน บทบาทนักแสดงอียอนฮี รับบทเป็น พัคยุนโจ หญิงสาวผู้มีชีวิตปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่เด็ก ทว่ายังขวนขวายหาทางเล่าเรียนนอกหลักสูตรเพื่อเอาตัวรอด วันหนึ่งเธอจับพลัดจับผลูเข้าไปทำงานในฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทยักษ์ใหญ่โดยไม่คาดคิด ทว่ากลับต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนักให้ทุกคนยอมรับในความสามารถฮงจงฮยอน รับบทเป็น รยูแจมิน พนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ประจำบริษัท เซยง (SEYONG) เขาเป็นหน้าเป็นตาให้กับองค์กรด้วยมันสมองและฝีมืออันเก่งกาจ ทั้งยังสามารถแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันได้อย่างเด็ดขาด กระทั่งถึงวันที่เพื่อนสนิทซึ่งตนแอบหลงรักก้าวเข้ามาทำงานในแผนกเดียวกันมุนโซรี รับบทเป็น กูอีจอง ผู้หญิงหัวก้าวหน้าที่มีชื่อเสียงกว้างขวางในวงการธุรกิจ เธอทิ้งชีวิตอันรุ่งโรจน์ที่สหรัฐอเมริกาแล้วบินมาทำงานตามคำขอของทายาทบริษัท เซยง (SEYONG) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายสื่อสารของแผนกประชาสัมพันธ์ เธอมีวิธีถ่ายทอดวิชาให้กับลูกน้องอย่างเหนือชั้นด้วยภาพลักษณ์น่าเคารพยำเกรงยุนโฮ รับบทเป็น ซอดงฮุน ซีอีโอหนุ่มไฟแรงจากบริษัท เอิร์ธคอมม์ (Earth Communication) เขามีโอกาสทำงานร่วมกับ เซยง (SEYONG) หลังชนะประมูลธุรกิจเครื่องสำอาง ทว่าสถานการณ์อันน่ากระอักกระอ่วนทำให้เขาต้องอาศัยความช่วยเหลือจากพัคยุนโจ ก่อนที่ทัศนคติของเธอได้ทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวในที่สุด Race ซีรีส์ออฟฟิศโรแมนซ์จำนวน 12 ตอน ออริจินอลคอนเทนต์จากเครือ Star+ ควบคุมการผลิตโดย ผู้กำกับอีดงยุน เจ้าของผลงานชื่อดังมากมายอาทิ The Greatest Love (2011) Queen's Classroom (2013) You Are My Destiny (2014) และ She Would Never Know (2021) โดยครั้งนี้ทำงานภายใต้การสร้างสรรค์บทโทรทัศน์ของ นักเขียนคิมรูรี จากซีรีส์ The Ace (2015) และ Hyena (2020) ทีมหลังกล้องมากประสบการณ์การันตีคุณภาพระดับพรีเมียม ส่วนเรื่องราวจะยอดเยี่ยมขนาดไหน ประเด็นใดน่าสนใจ สนุกน่าติดตามหรือไม่ ขออาสามารีวิวนำร่องเป็นแนวทางให้เช่นเคย เกาะขอบโต๊ะแผนกพีอาร์ ด่านหน้าชี้วัดภาพลักษณ์องค์กรRace รันวงการออฟฟิศด้วยเรื่องราวของพนักงาน ฝ่ายประชาสัมพันธ์ (Public Relations) หรือที่คุ้นหูกันในตำแหน่ง พีอาร์ ผู้ทำหน้าที่สื่อสารภาพลักษณ์ขององค์กรไปสู่ลูกค้าและสาธารณชน ตลอดจนรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงอย่างยั่งยืน ซีรีส์เจาะลึกชีวิตการทำงานของเหล่าพนักงานพีอาร์ชนิดซอกซอนทุกรูขุมขน ทั้งการวางกลยุทธ์ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รวมทั้งรับมือกับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัทด้วยก็ตาม พวกเขาจึงกลายเป็นตัวกำหนดความอยู่รอดขององค์กรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มิติดังกล่าวร้อยเรียงออกมาเป็นแก่นสารของเรื่องได้น่าสนใจมากทีเดียวมากไปกว่านั้น Race ยังมุ่งตีแผ่สังคมในบริษัทอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหลากหลายประเภท บางคนพลีกายถวายหัวให้กับงาน บางคนมีเงินเดือนเป็นตัวตั้ง หรือบางคนพยายามปรับสมดุลชีวิตให้ลงตัวกับการทำงาน สิ่งเหล่านี้ขยับขยายไปสู่ประเด็นอื่น ๆ เช่น ความเท่าเทียมระหว่างพนักงานชายกับพนักงานหญิง การปิดกั้นไม่ให้ผู้หญิงขึ้นมาเป็นผู้นำองค์กร ปัญหาการตัดสินความสามารถจากประวัติการศึกษา หรือแม้กระทั่งการใช้เส้นสายเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ ซีรีส์พยายามแทรกรายละเอียดปลีกย่อยเหล่านี้ผ่านบทสนทนาและสถานการณ์ได้อย่างแยบยล พาร์ทอาชีพสุดเข้มข้น ระคนด้วยกลิ่นอายโรแมนติกดราม่าRace ออกตัวอย่างไม่รีบร้อนด้วยวิธีเล่าเรื่องแบบ เสี้ยวหนึ่งของชีวิต (Slice of Life) เพื่อพรรณนาประสบการณ์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันของตัวละครหลักทั้งสี่ ซีรีส์ใช้เวลาปูพรมบอกเล่าที่มาที่ไปของเรื่องราวอย่างละเอียด จากนั้นจึงชักชวนผู้ชมไปสัมผัสเบื้องลึกเบื้องหลังวงการพีอาร์อย่างเต็มรูปแบบ สะท้อนระบบการทำงาน การจัดการกับปัญหา ตลอดจนแนวคิดของพนักงานซึ่งมีความแตกต่างกันระหว่างบริษัทสตาร์ตอัพกับกลุ่มธุรกิจชั้นนำ แง่มุมเหล่านี้ถูกนำเสนออย่างมีชั้นเชิง เสมือนเราได้หลุดเข้าไปนั่งเกาะติดชีวิตแสนวุ่นวายของเหล่ามนุษย์เงินเดือนอย่างแท้จริงไม่ต้องกลัวว่า Race จะอัดเนื้อหาสาระชวนเคร่งเครียดเข้ามามากเกินไป ซีรีส์พยายามปรุงรสด้วยวัตถุดิบอื่น ๆ เข้ามาอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเส้นเรื่องโรแมนติกระหว่างคู่พระนางซึ่งผูกพันกันมาตั้งแต่ยังเด็ก กระทั่งโชคชะตาได้นำพาให้ทั้งคู่กลายมาเป็นเพื่อนร่วมงานในแผนกเดียวกัน ก่อนจะพบกับบททดสอบวัดใจเมื่อมีหนุ่มอีกคนเข้ามาข้องเกี่ยวในความสัมพันธ์ มากไปกว่านั้นบางช่วงบางตอนยังแทรกกลิ่นอายคอมเมดี้ชวนให้หัวเราะพอเป็นกระสัย ขณะเดียวกันโปรดักชันโดยรวมยังสอบผ่านตามมาตรฐาน ถือเป็นอีกหนึ่งงานที่มีทุกรสให้ลิ้มลอง ทีมนักแสดงฝีมือไม่ธรรมดา พาท่องโลกมนุษย์เงินเดือนปฏิเสธไม่ได้ว่า Race ได้สุดยอดนักแสดงสายฝีมือมาร่วมกันมอบความสนุกให้กับคนดู เริ่มจาก อียอนฮี นางเอกหน้าสวยที่เพิ่งสร้างความประทับใจจากซีรีส์ Welcome to Wedding Hell (2022) ครั้งนี้เธอหั่นผมสั้นดูทะมัดทะแมงลงตัวกับบุคลิกสาวออฟฟิศสู้งาน ทั้งยังปล่อยเคมีเปรี้ยวหวานยามเข้าฉากกับ ฮงจงฮยอน พระเอกหนุ่มหล่อผู้โด่งดังจากบทบาทตัวร้ายอย่าง องค์ชายสาม แห่งซีรีส์ Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo (2016) ประสบการณ์หน้ากล้องของทั้งสองคงประจักษ์แก่สายตามานักต่อนัก เตรียมปักหลักเชียร์คู่นี้ให้สมหวังทั้งเรื่องงานและความรักกันได้เลย(อ่านต่อ: รีวิวซีรีส์ Welcome To Wedding Hell วิวาห์วุ่นของ อีจินอุค x อียอนฮี ที่คู่รักข้าวใหม่ปลามันต้องดู)พิเศษกว่านั้น Race ยังเสริมความแกร่งด้วย มุนโซรี นักแสดงตัวแม่ผู้ประสบความสำเร็จถล่มทลายจากซีรีส์ดราม่าการเมือง Queenmaker (2023) มาหมาด ๆ เธอกลับมาฟาดวงการธุรกิจด้วยบุคลิกหญิงเก่งเช่นเดิม เพิ่มเติมด้วยออร่าน่าเกรงขามสมตำแหน่งหัวหน้าทีมพีอาร์คนเก่ง เชื่อว่าเธอจะระเบิดพลังให้หลายคนประทับใจกันอีกครั้งอย่างแน่นอน ส่วนอีกคนที่ต้องพูดถึงคงหนีไม่พ้น ยุนโฮ TVXQ ไอดอลนักแสดงหนุ่มหน้าหวานผู้เตะตาด้วยออร่าพระรองตั้งแต่ฉากแรก จับตาดูกันต่อไปว่าความสัมพันธ์ของตัวละครเหล่านี้จะยุ่งเหยิงขนาดไหน งานนี้บันเทิงสมใจอย่างแน่นอน(อ่านต่อ: รีวิว Queenmaker ฉันจะปั้นราชินี (2023) ซีรีส์ดราม่าการเมืองของ คิมฮีแอ x มุนโซรี พากย์ไทย Netflix) Race ถือเป็นซีรีส์ออฟฟิศโรแมนซ์นอกกระแสแต่มีดีเกินคาด ด้วยเนื้อหาสาระมุ่งตีแผ่เบื้องหลังวงการพีอาร์อย่างถึงลูกถึงคน เริ่มจากระดับล่างสุดอย่างพนักงานกินเงินเดือนไปจนถึงผู้บริหารองค์กร ทุกตำแหน่งเสมือนฟันเฟืองช่วยขับเคลื่อนบริษัทให้ก้าวไปข้างหน้า ระหว่างทางพวกเขาย่อมพบเจออุปสรรคบ้างไม่มากก็น้อย นำมาซึ่งสิ่งสำคัญที่ซีรีส์ต้องการนำเสนอนั่นคือการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างมืออาชีพ มากไปกว่านั้นยังเติมแต่งความสนุกด้วยบรรยากาศโรแมนติกและคอมเมดี้อย่างถูกที่ถูกทาง เหล่ามนุษย์เงินเดือนได้ดูแล้วจะปลุกไฟในการทำงานเพิ่มขึ้นสามร้อยเปอร์เซ็นต์ ตัวอย่างซีรีส์(YouTube: Dubbed UK)เกมธุรกิจในซีรีส์ Race พร้อมให้งัดสมองมาฟาดฟันกันอย่างดุเดือดแล้ววันนี้ ชวนดูสดพร้อมกันตลอด 12 ตอน อัปเดตตอนใหม่ทุกวันพุธ สัปดาห์ละ 2 ตอน เวลาประมาณ 15.00 น. เตรียมเกาะขอบโต๊ะพนักงานพีอาร์ ตามติดชีวิตแสนวุ่นวาย ภารกิจครั้งนี้จะท้าทายไปถึงเบอร์ไหน รีบบอกต่อกันไปว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงรูปภาพประกอบบทความจาก- Official Twitter: Star+ Press- Official Instagram: @yeonhee.luv | @hjonghyun | @yunho2154 | @cjes.tagramภาพหน้าปก | ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 | ภาพประกอบที่ 5 | ภาพประกอบที่ 6 | ภาพประกอบที่ 7 | ภาพประกอบที่ 8 | ภาพประกอบที่ 9 | ภาพประกอบที่ 10 | ภาพประกอบที่ 11บทความแนะนำจากผู้เขียน- รีวิว My Perfect Stranger (2023) ซีรีส์สืบสวนข้ามเวลาของ คิมดงอุค x จินกีจู- รีวิว Tale of the Nine Tailed 1938 (2023) ซีรีส์ภาคต่อเทพบุตรจิ้งจอกเก้าหาง อีดงอุค x คิมโซยอน- รีวิว Dr. Romantic 3 (2023) ซีรีส์การแพทย์ภาคต่อ ภารกิจครั้งใหม่ของคุณหมอโรแมนติก คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน