ความรื่นรมย์บนความหวั่นวิตกได้บังเกิดขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ เมื่อผมได้ชมภาพยนตร์เรื่อง Planet of the apes ภาพยนตร์เก่าเก็บเมื่อปี ค.ศ. 1968 โดยฝีมือการกำกับของ Franklin J. Schaffner ซึ่งใช้ทุนสร้างราว 5.8 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา แต่สามารถทำเงินได้ถึง 32.5 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ถือเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในยุคนั้น กระทั่งส่งผลไปสู่การสร้างภาคต่อออกมาอีกหลายภาคในปัจจุบัน ขอบคุณภาพประกอบจาก imdbPlanet of the apes ในภาคปฐมบทนี้ นับเป็นภาพยนตร์ที่มีอายุมากพอสมควร การดำเนินเรื่องตลอดจนถึงองค์ประกอบของภาพยนตร์ในภาพรวมไม่ว่าจะเป็นฉาก เครื่องแต่งกาย วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ตลอดจนถึงเทคนิคการถ่ายทำจึงระยิบระยับไปด้วยบริบทและการตีความตามสิ่งที่ปรากฏในยุคสมัยนั้น แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ถึงกับเชย หรือล้าสมัยจนเกินไป หากจะนำมาเปิดชมกันอีกครั้งในปี 2020 นี้ แม้นกาลเวลาจะผ่านมากว่า 52 ปีแล้ว แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงกลิ่นอายความร่วมสมัย นั่นคือเจตนารมณ์ของภาพยนตร์ที่ชี้ชวนให้ผู้คนในทุกยุคสมัยได้สำเหนียก ฉุกคิด และย้อนกลับมาดูความเป็นไปของสังคมโลกในมิติต่าง ๆ ที่กำลังเคลื่อนไหวในเวลานี้ โดยอาศัยกลวิธีที่ไม่ซับซ้อนแต่มีความจัดจ้าน ไม่ว่าจะเป็นการสะท้อนสังคมในหลายแง่มุม การเสียดสี เหน็บแนม และเย้ยหยันถึงพงศ์พันธุ์มนุษย์ ซึ่งชวนให้สะดุ้งทุกครั้งที่ถูดพาดพิงขอบคุณภาพประกอบจาก imdbPlanet of the apes หรือหากแปลเป็นภาษาไทยคือ “พิภพวานร” ถือเป็นภาพยนตร์แนวนวนิยายวิทยาศาสตร์ (Sci - Fi) สุดคลาสสิคที่ว่าด้วยการกลับตาลปัตรของวิวัฒนาการบนโลกในอีก 2,000 ปีข้างหน้า พร้อมการสอดแทรกทฤษฎีสมคบคิดไว้อย่างลงตัวและน่าพิศชม โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักบินอวกาศ 4 นาย ออกเดินทางไปสำรวจห้วงอวกาศเป็นเวลา 18 เดือน ความตื่นเต้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อยานดังกล่าวประสบอุบัติเหตุและตกลงไปในทะเลสาบบนดาวเคราะห์ที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง นักแสดงตัวเอกของเรื่องคือนักบินอวกาศได้พยายามนำนักบินอวกาศที่เหลือชีวิตรอดจำนวนสองนาย หนีออกจากยานที่กำลังจะจมลง โดยมิอาจคาดคิดได้เลยว่าชีวิตหลังจากนี้ พวกเขาจะต้องไปประสบกับเหตุการพิลึกพิลั่นสารพัดบนดาวเคราะห์แห่งนี้อย่างไรบ้าง ซึ่งถือเป็นแก่นสาระของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ชวนให้น่าติดตามแบบไม่มีอาการเบื่อหน่ายให้กวนใจขอบคุณภาพประกอบจาก imdb“จงระวังพวกมนุษย์โฉดชั่ว มันเป็นตัวแทนของซาตาน มันฆ่าเพื่อความบันเทิง กิเลสตัณหาและความมักมาก มันฆ่าแม้แต่พี่น้องของมันเอง ด้วยหวังจะยึดครองเอาทรัพย์สมบัติของพี่น้อง จงอย่าปล่อยให้พวกมันแพร่พันธุ์ เพราะมันจะทำให้ผืนแผ่นดินของท่าน และแม้แต่แผ่นดินของมันเอง กลายเป็นทะเลสีเพลิง จงหลีกเลี่ยงมัน และจงขับไล่มันให้อยู่ในที่ซ่อน เพราะมันคือผู้ที่จะนำไปสู่หายนะและการดับสูญ" คือ Key word สำคัญยิ่งที่หนังได้พยายามสื่อออกมาอย่างงดงาม ขอบคุณภาพประกอบจาก imdbจากท่วงทำนองและ Key word สำคัญของหนังเมื่อฉากสุดท้ายของหนังปิดฉากลง ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังถูกตบหน้าจนเลือดอาบ แต่ทว่าเป็นการถูกตบหน้าที่ทำให้ผมมีความปลาบปลื้มที่จะรังสรรค์การดำเนินชีวิตที่เหลืออยู่อย่างระมัดระวัง อย่างน้อยที่สุดก็คือการเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง ที่ไม่เริงระบำไปตามจังหวะของกิเลสและอำนาจฝ่ายต่ำ โดยเฉพาะการประคับประคองมิให้สติปัญญาและจิตหลุดร่วงลงมาอยู่ใต้เส้นแบ่งระหว่างมนุษย์กับสิ่งมีชีวิตอื่น ซึ่งถ้าหากเรามองข้ามประเด็นสำคัญเหล่านี้ทั้งที่โดยรู้สึกตัวหรือไม่รู้สึกตัวก็ตาม อาจเป็นที่น่าวิตกได้ว่า ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ โลกของเราก็อาจมีจุดจบที่ไม่แตกต่างไปจากฉากสุดท้ายของภาพยนตร์เรื่องนี้ ข้อมูลภาพยนตร์กำกับภาพยนตร์โดย Franklin J. Schaffner นักแสดงนำ Charlton Heston และ Linda Harrisonความยาวของภาพยนตร์ 112 นาทีเปิดฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2511 สร้างจากค่าย 20th Century Fox ขอบคุณภาพหน้าปกจาก imdb