"What do you see when you look at me?"(นายเห็นอะไร เมื่อมองมาที่ฉัน?)- Robert McCall -ในปี 2014 นอกจากโลกจะได้รู้จักกับนักฆ่ารักหมาผู้เป็นตำนาน John Wick ตัวละครคืนฟอร์มให้แก่พระเอกแอ็กชันแห่งยุคอย่าง Keanu Reeves เป็นครั้งแรกแล้ว ยังมีอีกหนึ่งนักฆ่าระดับพระกาฬที่เปิดตัวออกมาในปีเดียวกันอย่างเงียบ ๆ และได้รับฉายาแบบเล่น ๆ จากแฟน ๆ ว่า 'นักฆ่าโฮมโปร' ด้วยฝีมือการฆ่าอันเหนือชั้น ที่เริ่มเมื่อไรเป็นต้องจับเวลากันก่อนทุกที (555) จึงทำให้เรื่องราวของนักฆ่าจับเวลาตายนามว่า Robert McCall รับบทโดยนักแสดงแอ็กชันแถวหน้ามากฝีมือ ผู้ชนะรางวัลออสการ์นำชายอย่าง Denzel Washington ได้ดำเนินเรื่องราวมาจนถึงบทสรุปกันแล้วในภาพยนตร์ภาคที่ 3 ที่กำลังจะเข้าฉายในปีนี้ เพื่อเป็นการร่วมต้อนรับการกลับมา และเป็นประจักษ์พยานแก่ปัจฉิมบทของเขา ทางผู้เขียนจึงขอหยิบยกเรื่องราวสองภาคแรกของนักฆ่าจับเวลาตาย ที่จะนำพาความยุติธรรมกลับมาในรูปแบบของเขาเองมาแนะนำให้รู้กันกับ The Equalizer มัจจุราชไร้เงาhttps://www.youtube.com/watch?v=VjctHUEmutwThe Equalizer มัจจุราชไร้เงา (2014)Justice Rises from the Shadows.- ความยุติธรรมผงาดจากเงามืด -The Equalizer มัจจุราชไร้เงา ภาพยนตร์แนวแอ็กชันศาลเตี้ยที่มาเชือดแบบเงียบ ๆ ดัดแปลงมาจากซีรีส์ทีวีในยุค 80 อย่าง The Equalizer (1985-1989) ว่าด้วยเรื่องราวของ Robert McCall (Denzel Washington) ชายผู้มีอดีตและความลับอันดำมืดที่เขาตั้งใจจะทิ้งลืมไว้เบื้องหลัง และสัญญาว่าจะใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง แต่จนวันหนึ่ง เมื่อเด็กสาวคนหนึ่งที่เขารู้จัก Teri (Chloë Grace Moretz) ได้ถูกทำร้ายโดยแก๊งมาเฟียรัสเซียสุดโหด และเขาไม่สามารถเบือนหน้าหนีไปได้ Robert จึงต้องกลับไปเป็นคนที่เขาตั้งใจจะทิ้งลืมเอาไว้ เพราะ สำหรับแก๊งรัสเซียพวกนี้ เขาจะถือว่าเป็นข้อยกเว้น!https://www.instagram.com/p/BklcITVF5aa/ถึงแม้ว่าการพัฒนาโปรเจค The Equalizer ในฉบับภาพยนตร์จะไม่ได้สวยงามมาตั้งแต่เริ่ม แต่การประกาศชื่อคู่หูนักแสดงนำและผู้กำกับผู้รับผิดชอบโปรเจคอย่าง Denzel Washington และผู้กำกับ Antoine Fuqua ภายหลังจากประสบความสำเร็จในการทำงานร่วมกันขั้นสูงในภาพยนตร์รางวัลออสการ์ Training Day (2001) ก็ได้ทำให้ The Equalizer เป็นโปรเจคที่น่าจับตามองในขณะนั้นมากเลยทีเดียว สิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมในภาพยนตร์ศาลเตี้ยม้ามืดผู้นี้ คือ การออกแบบเรื่องราวให้เป็นมากกว่าหนังนักฆ่าเลือดสาดทั่วไปที่ยังคงมอบความสนุก และความลุ้นระทึกได้เสมอ พร้อมทั้งตัวละคร Robert McCall ของ Denzel Washington ที่นำเสนอให้เห็นว่า ถึงแม้ภายนอกเขาจะเป็นคุณลุงธรรมดาพนักงานร้านขายของ แต่อีกมุมหนึ่งของเขา คือ นักฆ่าจับเวลาที่มีฝีมือโหดและเฉียบคม และทนเฉยไม่ได้ต่อความชั่วร้ายและอยุติธรรม ดังนั้น นอกจากฉากแอ็กชันที่สร้างสรรค์ออกมาให้มีความโหด ดิบ เถื่อน ที่แถมด้วยความสดใหม่และคาดไม่ถึงในสไตล์ภาพยนตร์เรท R แล้ว ตัวภาพยนตร์ก็ยังได้สอดแทรกเรื่องราวความเป็นดราม่าเอาไว้เบื้องหลัง ดังเช่น ความสัมพันธ์ระหว่าง Robert กับเด็กสาว Teri ที่ซึ่งเป็นฉนวนหลักสำคัญของเรื่อง และชีวิตในอดีตของ Robert ที่เรื่องราวได้แอบบอกใบ้และทิ้งเบาะแสต่าง ๆ เอาไว้ ทำให้ตัวละคร Robert McCall เป็นตัวละครที่น่าค้นหาไม่แพ้ตัวละคร John Wick เลยทีเดียวโดยสรุป The Equalizer มัจจุราชไร้เงา คือ ภาพยนตร์แอ็กชันสุดเดือด กำเนิดนักฆ่าคนใหม่นามว่า Robert McCall ที่สามารถมอบความบันเทิงได้อยู่หมัด ดำเนินเรื่องเงียบ ไม่หวือหว่า แต่ครบทั้งรสแอ็กชันที่แฝงด้วยความเป็นดราม่า บวกกับการแสดงชั้นไร้ที่ติของ Denzel Washington ก็แสดงให้เห็นว่า แฟรนไชส์นักฆ่าคนใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว"Slow, Silent but Cool"- AtoMa43 - https://www.youtube.com/watch?v=iuLoKMb2GWIThe Equalizer 2 มัจจุราชไร้เงา 2 (2018)Justice becomes Vengeance.- ความยุติธรรมแปรเปลี่ยนเป็นความแค้น -Denzel Washington กลับมารับบทนักฆ่าจับเวลาตายอีกครั้งใน The Equalizer 2 มัจจุราชไร้เงา 2 ภาคต่อของภาพยนตร์สุดเดือดที่โลกเคยได้ยิน ชนิดที่ว่า "หากคุณมีปัญหา เขาผู้นี้จะนำพาความยุติธรรมมาให้คุณเอง" เรื่องราวในภาคนี้ต่อเนื่องหลังจากภาคแรก Robert McCall ได้กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติเรียบง่ายอีกครั้ง แต่เขาก็ยังไม่หยุดที่จะนำพาความยุติธรรมมาสู่สังคม แต่แล้ว เมื่อเพื่อนสนิทและอดีตเพื่อนร่วมงานของเขาอย่าง Susan Plummer (Melissa Leo) ถูกฆ่าตายโดยแก๊งอันธพาล ความยุติธรรมที่เขามีจึงแปรเปลี่ยนเป็นเพลิงไฟแค้นที่บังคับให้เขาต้องเข้าปะทะกับนักฆ่าที่มีประสบการณ์เหมือนกันกับเขาhttps://www.instagram.com/p/Bnt9U_0lOS9/ใน The Equalizer 2 ทั้ง Denzel Washington และผู้กำกับ Antoine Fuqua ต่างกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งในภาคต่อนี้ โดนเฉพาะ Denzel ที่นี่ถือเป็นภาคต่อเรื่องแรกในชีวิตที่เขากลับมาเล่นในวัย 63 ปี ดังนั้น ถึงแม้ฉากแอ็กชันในเรื่องจะรู้สึกว่ามีน้อยลงกว่าภาคแรก แต่ความเดือด ดิบ และโหดของมันก็ไม่ได้ถูกทำให้ด้อยลงเลย ซ้ำยังเพิ่มความรุนแรงและเร้าใจให้เป็นพิเศษอีกด้วย โดยเฉพาะฉากไคลแมกซ์ในช่วงสุดท้ายของหนังที่ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ แต่หนึ่งสิ่งใน The Equalizer 2 ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจากภาคแรก คือ การเล่าเรื่องถูกทำให้ช้าและอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดจนเหมือนเป็นเรื่องราวที่ไม่มีก้าวเดินที่แน่นอน ถึงแม้ว่าในภาคนี้จะมีการปรับโทนของเรื่องให้มีความจริงจังด้วยเนื้อหาที่เข้มข้นขึ้นกับความแค้นของชายผู้สูญเสียเพื่อนรัก ก็ไม่สามารถที่จะช่วยประคับประคองการเล่าเรื่องได้ตลอดเวลา อีกทั้งความสัมพันธ์ที่เพิ่มเติมเข้ามาในเรื่องระหว่าง Robert กับ Miles Whittaker (Ashton Sanders) หนุ่มวัยรุ่นมีปัญหาในระแวกบ้านของเขาที่แม้จะมีความพิเศษ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันไม่ได้มีน้ำหนักมาก เมื่อเทียบกับภาคแรกซะเท่าไร และทำให้บทของเรื่องดูสะเปะสะปะพอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่ได้ด้อยไปเสียทั้งหมด นอกจากการแสดงอันไร้ที่ติของ Denzel Washington แล้ว ใน The Equalizer 2 ยังได้นักแสดงดีกรีม้ามืดอย่าง Pedro Pascal มาช่วยเสริมทัพ นักแสดงที่คุ้นหน้ากันดีจากภาพยนตร์และซีรีส์ดังหลายเรื่อง อาทิเช่น Game of Thrones (2011-2019), Wonder Woman 1984 (2020), The Mandalorian (2019-) และล่าสุดกับบทบาทแด๊ดดี้ Joel Miller ในซีรีส์ดัดแปลงจากวิดีโอเกมยอดเยี่ยมอย่าง The Last of Us (2023-) การแสดงของ Pascal กับบทบาท Dave York คู่หูเก่าของ Robert ที่มาช่วยเรื่องภารกิจในครั้งนี้ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่มีความลึกซึ้งไม่เบา และถือเป็นส่วนดราม่าที่ดีที่สุดในเรื่องก็ว่าได้เลย โดยสรุป The Equalizer 2 มัจจุราชไร้เงา 2 คือ การกลับมาครั้งที่สองของนักฆ่าจับเวลาตาย Robert McCall ที่ครั้งนี้ออกมาล่าทวงแค้น ตามหาความยุติธรรม ที่ถึงแม้บทในการเล่าเรื่องจะดูอ่อนลงไปมากจากภาคแรก แต่แอ็คชันความเดือดและโหดก็ยังมีอยู่ แถมด้วยการเสิร์ฟเรื่องราวบทถัดไปของทั้ง Denzel Washington และ Antoine Fuqua ก็ได้ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความน่าชมและยินดีทุกครั้งที่จะกลับมาเปิดดู"Powerfully Acted but not Deep as"- AtoMa43 - และเตรียมตัวต้อนรับปัจฉิมบทของนักฆ่าจับเวลาตายคนนี้ Denzel Washington กลับมารับบท Robert McCall เป็นครั้งที่สาม พร้อมผู้กำกับขาประจำคนเดิมอย่าง Antoine Fuqua ที่ครั้งนี้ทั้งคู่จะนำพาความยุติธรรมไปไกลถึงประเทศอิตาลีใน The Equalizer 3 มัจจุราชไร้เงา 3 ปิดตำนานนักฆ่าจับเวลาตายJustice knows No Borders.- ความยุติธรรมไม่มีขอบเขต -https://www.youtube.com/watch?v=jMJgzmb_1n0ท้ายที่สุด The Equalizer มัจจุราชไร้เงา คือ อีกหนึ่งแฟรนไชส์แอ็กชันที่ควรค่าแก่การรับชมสักครั้งไม่แพ้เรื่องราวของ John Wick เลยทีเดียว มีทั้งความโหด ดิบ และเดือดที่ปนมากับความเป็นปมดราม่าในเรื่องราวนั้น ๆ ของนักฆ่าที่ชอบจับเวลาตายอย่าง Robert McCall อีกหนึ่งตัวละครที่เป็นที่น่าจดจำของ Denzel Washington ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเชื่อได้ว่า ด้วยการแทคทีมกับ Antoine Fuqua อีกครั้งก็ได้ทำให้ The Equalizer 3 มัจจุราชไร้เงา 3 ปิดตำนานนักฆ่าจับเวลาตาย ภาคปัจฉิมบทของเรื่องราวจะเป็นอะไรที่น่าติดตาม และพร้อมที่จะให้ผู้ชมได้เจอกับความโหดเลือดสาดของเขาเป็นครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอนThe Equalizer มัจจุราชไร้เงา และ The Equalizer 2 มัจจุราชไร้เงา 2 สามารถรับชมได้แล้ววันนี้และเตรียมตัวรับชม The Equalizer 3 มัจจุราชไร้เงา 3 ปิดตำนานนักฆ่าจับเวลาตาย นำแสดงโดย Denzel Washington, Dakota Fanning, David Denman, Sonia Ammar และ Remo Girone กำกับโดย Antoine Fuqua วันที่ 14 กันยายนนี้ ความยุติธรรมจะมาหาถึงที่ในโรงภาพยนตร์ขอบคุณข้อมูล รูปภาพและวิดีโอข้อมูลและ ภาพปก จาก Official Facebook The Equalizerภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 จาก Official Instagram theequalizermovieคลิป วิดีโอที่ 1 จาก Youtube: Sony Pictures Entertainmentคลิป วิดีโอที่ 2 | วิดีโอที่ 3 จาก Youtube: Sony Pictures Thailand จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !