ในศตวรรษที่ 18 มีจิตรกรสาวที่ชื่อ Marianne ที่ถูกว่าจ้างจากเศรษฐีณีใหญ่คนหนึ่งให้เดินทางไปที่คฤหาสน์โดดเดี่ยวหลังหนึ่งบนเกาะที่ตั้งอยู่กลางทะเล ให้ไปวาดภาพลูกสาวของเธอนามว่า Heloise เพื่อส่งตัวไปให้มหาเศรษฐีที่เมืองมิลานก่อนพิธีวันแต่งงาน จนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างหญิงสาวทั้ง 2 คนเริ่มก่อตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนเป็นความรักต้องห้ามขึ้นภายหลัง สิ่งที่ผมชอบในระยะเวลา 2 ชั่วโมง 2 นาทีก็คือหนัง Romance ที่ถ่ายทอดบรรยากาศยุค Renaissance ออกมาได้นุ่มนวลราวกับภาพวาดจิตรกรรมบนฝาผนังตามงาน Gallery ที่ขยับเองได้ยังไงยังงั้น ส่วนตัวของผมจะดูเรื่องนี้มา 2 ปีกว่า ๆ แม้ Details บางอย่างจะลืมเลือนไปตามเวลาบ้าง แต่ก็ยังจำภาพ Moment คร่าว ๆ รวมกันขณะนั้นได้ไม่เคยลืม เสมือนเป็นหอจดหมายเหตุถึงการเปลี่ยนผ่านเหตุการณ์ผ่านประวัติศาสตร์จากยุคสมัยหนึ่งไปสู่อีกยุคหนึ่งโดยมี Timeline ของความรักเป็นตัวเชื่อมโยงความผูกพันให้ 2 ตัวละครนำอย่าง Marianne และ Heloise มาบรรจบพบกัน ตรงนี้ผมขอยกย่องชื่นชมให้แก่ Celine Sciamma ผู้กำกับสาวชาวฝรั่งเศสที่เคยผ่านการกำกับและ เขียนบทมาแล้ว อาทิ Tomboy (2011) , Girlhood (2014) , My life as a Zucchini (2016) และ ผลงานล่าสุด Petite Maman (2021) ที่การันตีว่าเธอสามารถถ่ายทอด Relationship ในโลกของ Feminist ที่เป็นส่วนเล็กท่ามกลางสังคมคติของปิตุลาธิปไตยที่ปกครองในสมัยนั้นได้อย่างละเมียดละไม เสน่ห์อีกอย่างคือการขัดเกลาภาษาคำพูดที่แม้จะโบราณตามยุคนั้น พอฟังแล้วกลับไพเราะแฮะ หรือ ภาษา Body Language ที่แสดงกันอย่างบริสุทธิ์ ก็นำเสนอได้น่าสนใจไม่แพ้กัน ขณะเดียวกันยังแฝงประเด็นอื่นอย่างความตึงเครียดของภาวะสงคราม การครอบงำของศาสนาที่มองว่าการรักเพศเดียวกันเป็นสิ่งผิดจารีต บลา ๆ แม้ในเรื่องไม่ได้นำเสนอภาพความรุนแรงจุดนี้ให้เห็นแต่ปฎิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนั้นจริง ๆ จึงเลือกนำเสนอวิธีอื่น เช่น การปรากฎตัวของชายคนหนึ่งที่เป็นคนแรกในเรื่องที่เพิ่งจะโผล่มาจะจบเรื่องแล้วแทน Symbol ของอำนาจนิยม ประกอบกับภาพถ่ายวิวที่ไม่ได้ใช้เทคนิคอุปกรณ์เทคโนโลยีปรุงแต่งจึงทำให้ทิวทัศน์ที่เราได้เห็นในเรื่องออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติจนอยากเข้าไปอยู่ตรงนั้นมาก แม้หลัก ๆ จะดำเนินเรื่องในปราสาทของเศรษฐีณีหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่บนภูเขาแล้วล้อมรอบด้วยทะเลทั้งเรื่อง แต่ภาพรวมทั้งหมดของผมเหมือนได้เดินดูภาพถ่ายนิทรรศการในงานศิลปะที่จัดตรงหน้าชายหาดแล้วยิ้มไปด้วยความตื้นตันใจจริง ๆ การดำเนินเรื่องดูเรียบ ๆ เรื่อย ๆ ไม่รีบร้อนตามสไตล์ยุโรปที่เป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว จึงไม่ค่อยมีจุดพีคให้เร่งเร้าอารมณ์เท่าไหร่ แต่หนังมีความฉลาดในการใช้บรรยากาศเล่าเรื่องนำแทนการเน้นใช้บทสนทนาที่เหมือนกวีเพ้อพก แต่จับต้องได้ผ่านการแสดงโดย 2 นางเอก Noemie Merlant จาก Paper Flags (2018) กับ Adele Haenel จาก The Unknown Girl (2016) เป็นส่วนใหญ่ กลายเป็นข้อดีที่ทำให้เรื่องน่าติดตามบวกกับฝีมือการแสดงของทั้งคู่ที่นำเสนอ Dialogue ในบทที่ได้รับออกมาพอดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป นอกจากความสวยแบบผู้ดียุดเก่าแล้ว เวลาทั้งคู่เข้า Scene ประกบคู่กันมันดันมีพลังดึงดูดทางเพศได้ทั้งชายและหญิงด้วยกันได้ลงตัว ส่วนอีกคนที่สำคัญอย่าง Luana Bajrami จาก School ’s Out (2018) รับบทเป็น Sophie สาวรับใช้ของ Heloise แม้จะไม่ได้โดดเด่นเท่า 2 คนนี้แต่ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญของเรื่องที่ขาดไปไม่ได้เช่นกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดสำหรับคนที่ดูหนังประเภทนี้จนเคยชิน แต่ไม่มีฉากที่ให้ตื่นเต้นอะไรตามสไตล์หนังยุโรป แต่หนังเลือกวิธีแสดงความหวือหวาโดยการใช้เสียง Score โอเปร่าประกอบจังหวะเข้าไปแทรกระหว่างทาง แม้ฟังแล้วเสียวแก้วหูดี แต่ยังงงอยู่ว่าทำไมมันช่างขัดแย้งกับโทนเรื่องเอาซะจริง ยิ่งฉากใกล้จะจบเล่นบรรเลงประโคมกันใหญ่ซะจนเปลี่ยนโทนหนังจาก Romance กลายเป็นหนัง Thriller ไปซะงั้น ถ้าไม่มีสมาธิในการติดตามต่อเนื่องอาจจะพลาดรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ในเรื่องก็เป็นได้ ความที่หนังเน้นไปที่การถ่ายทอดด้วยบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติเป็นตัวเดินเรื่องผ่านการนำแสดงออกของตัวละครหลัก ๆ ซึ่งเป็นผู้หญิงเกือบทั้งเรื่องที่มีอยู่ไม่กี่คนในสถานที่เดียวแถมบทสนทนาที่มีไม่มากอีก ทำให้โทนหนังดูเงียบเป็นป่าช้าซะเป็นส่วนใหญ่ นอกจากการแสดงเชิงสัญลักษณ์ทางเพศสภาพที่มีเป็นบางช่วง แต่ก็ไม่ได้ล่อแหลมเกินไป ออกไปทางศิลปะด้วยซ้ำ บทสรุปพอจะเดาทางได้ว่าจะลงเอยแบบนี้ ก็ค่อนข้างสะเทือนใจอยู่ อีกส่วนก็เข้าใจได้ว่าหนังได้ให้เหตุผลรองรับมาแล้ว แต่อย่างน้อยก็พอจะมีความหวังอยู่ลึก ๆ อยู่เหมือนกัน ถ้าคนที่ชอบเสพความตื่นเต้นไปกับการตบตีเหมือนในละครไทยจงรู้สึกผิดหวังน่าเบื่อง่ายถึงขึ้นวูบหลับหรือไม่ก็เลือกไปดูหนังเรื่องอื่นไปเลย แต่สำหรับคนที่ชอบดูหนังทางเลือก ไม่ตามกระแสหลัก หรือ เสพงานศิลป์อย่างผมจะรู้สึกประทับใจกับเรื่องนี้ได้ง่ายทันที เพราะ หลังจากดูจบไปแล้วความรู้สึกที่มีต่อเรื่องนี้มันเป็นหนังรักต้องห้ามที่งดงามจนบรรยายไม่ถูก จะเสียใจจนร้องไห้น้ำตาไหลก็ร้องไห้ไม่ออก แต่รู้สึกยินดีที่ได้ใช้เวลาร่วมกันในการเดินทางไปกับตัวละครทั้งหมด จากนั้นปล่อยให้เวลาทำหน้าที่ตกผลึกสะสมสิ่งละอันพันละน้อยเข้าไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นภาพที่มีคุณค่ามากมายไว้ในความทรงจำของมนุษย์คนหนึ่งที่รักสุดหัวใจไปแล้วนั่นเอง สรุป ชอบมาก โปสเตอร์ออกแบบดี ภาพสวยจนอยากไปเห็นด้วยตาตนเอง เป็นหนัง Drama + Romance ที่พอจะช่วยเยียวยาฟื้นฟูจิตใจได้ในระดับหนึ่ง อาจจะไม่ได้อินกับความรักของหนุ่มสาวอะไรมากแต่พอดูไปแล้วมันทำหน้าที่กระแทกใจผมได้หนักหน่วงอยู่เหมือนกัน อารมณ์เหมือนโดนต่อยหน้าแล้วรู้สึกชา ณ ตอนนั้นแล้วไปรู้สึกอีกทีก็เจ็บปวดระบมในภายหลัง ส่วนประเด็นเรื่องความรักที่มีหลายรูปแบบ รักออกแบบได้ แต่ ทำตามที่ออกแบบไม่ได้ เช่น ชายรักชาย หญิงรักหญิง คือ ผมมองว่าทุกที่ทุกยุคสมัยมนุษย์ถูกความคิดนี้จากสังคมมาแต่ยาวนาน เชื่อกันสืบทอดต่อ ๆ กันมา โดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนริเริ่มคิด เมื่อเวลาผ่านไป เรื่องเพศสภาพ สิ่งที่ถูกปกปิดมาก็ค่อย ๆ ได้รับการเปิดเผยขึ้น จนกลายเป็นที่ยอมรับขึ้นในสังคมกันต่อมาว่าไม่ใช่เรื่องน่าอายจนต้องปกปิดเป็นความลับต่อไป สิ่งเหล่านี้เป็นการทำลายความเชื่อของคนยุคเก่าด้วยการสร้างความเชื่อด้วยความรู้ขึ้นมาใหม่ทดแทนสิ่งที่ดี มีคุณค่าก็อนุรักษ์ต่อไป เพื่อให้คนศึกษา เรียนรู้ และ ปฏิบัติมากขึ้น สำหรับผมมองว่าการใช้สิทธิอำนาจของตนเองในการบังคับขืนใจให้คนอื่นต้องทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ เช่น เราต้องการให้ลูกของเราแต่งงานกับคนรวย หน้าตาดี เรียนเก่ง ทั้ง ๆ ที่ลูกเราไม่ได้รัก และ อยากแต่งงานด้วย เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเราด้วยมุมมองตนเองอย่างนี้อย่าหาทำ เป็นเจตนดีก็จริง แต่สำหรับลูกเขามองอีกอย่าง เขาไม่ได้ต้องการในสิ่งที่เราอยากทำก็ปล่อยให้เขาตัดสินใจเอง เราอย่างเอาความคาดหวังของเราไปให้ลูกเราทำแทน หน้าที่ของเราคือคอยดุแล ให้ความรัก คำปรึกษาจึงดีที่สุดเพื่อความสุขของลูก และ ความสบายใจของตัวเอง วิน ๆ ทั้งคู่ ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อได้อ่านแล้ว สามารถกด Like กด Share บทความของผม EMCONCEPT เพื่อเป็นกำลังใจในการรีวิวครั้งต่อไป ขอบคุณครับ ขอขอบคุณภาพประกอบโดย :Facebook / neonrated = ภาพประกอบหน้าปก 1 / Facebook / portraitofaladyonfire = ภาพประกอบหน้าปกที่ตัวอักษร 2 Facebook / portraitofaladyonfire = ภาพประกอบที่ 1 / ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4 Facebook / neonrated = ภาพประกอบที่ 5 / ภาพประกอบที่ 6คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน