เครดิตภาพ Warner Bros แล้วโลกจะได้รู้ว่า เสรีชน สู้กับ จอมเผด็จการ ชื่อเรื่องอย่างเป็นทางการ 300ชื่อเรื่องภาษาไทย 300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลกค่ายหนัง Warner Bros หากพูดถึงหนังสงครามย้อนยุคที่ภาพสวย เนื้อเรื่องอ้างอิงจากความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์ ก็คงหนีไม่พ้น 300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก ที่ได้ผู้กำกับอย่าง แซ็ก สไนเดอร์ (Zack Snyder) ที่มีผลงานการกำกับอย่าง Batman Superman ที่รู้จักกันไปทั่วโลก เครดิตภาพ Warner Bros หนังจะเปิดเรื่องด้วยการฝึกมหาโหดของทหารรบแห่งเมืองสปาร์ตัน เมืองที่แม้แต่ผู้หญิงก็ต้องแข็งแกร่ง เด็กผู้ชายทุกคนที่เกิดมาแข็งแรง จะต้องมาเข้าโปรแกรมการฝึกฝนการต่อสู้เพื่อเป็นนักรบทุกคน ส่วนเด็กผู้ชายที่เกิดมาพิการ จะต้องถูกกำจัด (โหดมาก ๆ ) หนังเดินเรื่องด้วยลีโอไนดัส (เจอร์ลาด บัตเลอร์) กษัตริย์แห่งสปาร์ตันที่รู้ว่าภัยกำลังจะมาเยือนบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองโดยผู้นำทัพ (เซอร์ซีส) ที่ต้องการให้บ้านเกิดของตนเองเป็นเมืองขึ้น แต่กษัตริย์ต้องทำตามกฎ ต้องไปอนุญาตพวก อีล์ฟอร์ เป็นนักบวชประจำเมืองสปาร์ตัน แต่ก็ไม่ได้ผล สุดท้ายลีโอไนดัสก็ยังดื้อดึงที่จะไป โดยนำทหารองค์รักษ์ไปด้วย 300 คน ด้วยคอนเซปทหาร 300 จะชนะข้าศึกมากกว่า 1 ล้านให้ได้ ด้วยกลยุทธ์การรบ และทักษะการต่อสู้ที่เหนือกว่าเครดิตภาพ Warner Bros ภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามเล่าให้คนดูเห็นถึง ความรักชาติ รักบ้านเกิด แม้ว่ากำลังพลจะน้อยกว่า แต่ก็ไม่คิดที่จะถอย สิ่งที่น่าสนใจสำหรับหนังเรื่องนี้คือ นักรบมีซิคแพคกันทุกคน แข็งแรง แข็งแกร่ง มีทักษะชั้นเลิศในการรบ รวมถึงแผนของลีโอไนดัสที่ใช้การต่อสู้ต่าง ๆ ว่าจะทำอย่างไรให้คนจำนวนน้อย จะชนะคนจำนวนมากได้ นักรบทุกคนมีความรัก ความสามัคคีกัน ไม่แตกคอ หรือหักหลังกันเลยแม้แต่น้อย สู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กันจนวาระสุดท้ายเครดิตภาพ Warner Bros ที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ก็คงจะเป็น กอร์โก (ลีน่า เฮดดี้) องค์ราชินีสปาร์ตัน พระชายาของลีโอไนดัส สิ่งที่ซาบซึ้งคือ พระนางพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อให้เหล่าพวกขุนนาง ยอมส่งกำลังทหารพวกไปช่วยสวามีของตน โดยยอมแลกทุกอย่าง แม้แต่สิ่งที่ไม่ควรจะแลกให้ เรียกได้ว่า ถ้าไม่รักกันจริง ๆ คงไม่ทำให้ขนาดนี้สำหรับเอฟเฟคต์ ผมให้เลย 10/10 ครับ ซึ่งการถ่ายทำส่วนมากจะอยู่ในสตูดิโอจะบอกว่า ประทับใจในความสวยฉากใดฉากหนึ่งก็คงไม่ได้ เพราะว่าสวยทุกฉากเลยบรรยากาศแบบนี้ ไม่มีให้เห็นบนโลกเราแน่นอนครับส่วนมากหนังถ่าทำบรรยากาศที่ Dark ซะส่วนใหญ่ นั่นเป็นเสน่ห์อย่างนึงของหนังเรื่องนี้ในส่วนของเนื้อเรื่อง อย่าหาว่าอวยเลยครับ ผมก็ให้ 10/10 เช่นกัน การดำเนินเรื่องที่น่าประทับใจมากกว่าการรักในบ้านเมืองของพระเอกและทหาร ก็คือทักษะการต่อสู้นี่แหละครับ การต่อสู้ที่มีแบบแผน มีเทคนิค ไม่ได้ยืนเรียงหน้ากระดาน วิ่งไปปะทะกับศัตรูแบบตรง ๆ ในเมื่อคนน้อยกว่า ก็ต้องมีทริค มีเทคนิค หาสมรภูมิรบที่จะทำให้มีชัยเหนือศัตรูได้ข้อคิดที่ได้จากหนังเรื่องนี้1. ความรักชาติ แม้ต้องฝ่าฝืนกฎหรือธรรมเนียมของบ้านเมือง แต่จะให้อยู่นิ่งเฉย โดยที่ศัตรูค่อย ๆ เข้ามาใกล้คงทำไม่ได้ การยกทัพไปกับทหาร 300 นาย แม้ว่าจุดจบมันจะไม่ได้สวยหรูก็ตาม แต่ก็ยังดีกว่าไม่คิดทำอะไรเลย 2. ความกล้าหาญ ด้วยกำลังพลที่น้อยกว่า การไปสู้กับศัตรูที่มีมากกว่าแสนเท่า สิ่งที่ต้องมีคือความกล้าเป็นลำดับต้น ๆ นะครับ จะมีใคร พิลึกคนเอาคน 300 คน ไปสู้กับ 1 ล้านละเนอะ3. การวางแผน การรบที่เสียเปรียบด้วยจำนวนคนขนาดนี้ จะไม่มีโอกาสชนะได้เลย ถ้าไม่มีการวางแผน อย่างเช่นการรบบริเวณ ฮอตเกตต์ ที่ต้องหาหินมากั้นอีกฝั่งเพื่อทำให้เกิดการบีบช่องแคบ ตั้งขบวนรบในหุบเขา เพื่อให้จำนวนคนของฝั่งเซอร์ซีสไม่มีความหมาย หากเพื่อน ๆ คนไหน อยากรู้ว่าการรบเพื่อปกป้องบ้านเมือง เพื่อเสรีชน เพื่อความอิสระ จะลงเอยเช่นไร 300 คน จะชนะนักรบเป็นล้านคนได้หรือไม่ ก็ลองหามาชมนะครับ ซึ่งในWebsite https://www.warnerbros.com/movies/300/ ก็มีช่องทางรับชมแบบไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยนะครับ เครดิตภาพปก Warner Bros