เล่าเหตุการณ์ถูกขับรถตาม!! "บิวกิ้น" คาดเป็นผู้หญิง เผยด้าน "พีพี" เป็นห่วง
จากกรณีที่นักร้อง-นักแสดงหนุ่ม "บิวกิ้น พุฒิพงศ์" ได้ออกมาโพสต์ข้อความในอินสตาแกรม ว่ารู้สึกกังวล และเป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัว หลังเจอรถคันหนึ่งขับตาม ล่าสุดบิวกิ้นได้เปิดใจเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกครั้งว่า ตนเจอรถคันที่ขับตามมา แต่ยังไม่มั่นใจ เพราะตอนเช้ารถเยอะมาก
จนกระทั่งได้ลองเช็คดูเพราะตามมาตั้งแต่ด่วนหน้าบ้านจนมาถึงจุดตรงนี้ เพราะเป็นการตามขับต่อแบบไม่ให้ใครแทรกเลย เราก็งง เลยลองปาดไปอีกทาง เขาก็ปาดตาม ก็เลยชิดซ้ายและจอด เขาก็จอดต่อท้าย สักแปปนึงแล้วเขาก็เบี่ยงขวาออกไป ตนจึงไหลรถออกไปช้าๆ เหมือนดูว่ามีใครตามหรือเปล่า และเขาก็วนรถออกมาทันที แต่จังหวะเป็นไฟเขียวกำลังจะหมด ตนจึงพุ่งข้ามแยกไปแต่เขาติดไฟแดง
ภาพจาก True Inside
ภาพจาก IG : bbillkin
และวันถัดมา หลังจากทำงานเสร็จตนได้ออกมาประมาณ 4 ทุ่ม ขับรถออกมา เรารู้สึกเหมือนมีคนตาม ก็เลยดู ซึ่งเป็นรถสีเดิม รุ่นเดิม ก็เลยเริ่มหงิด ระหว่างทางก็เช็คว่าเขาตามจริงไหม? ซึ่งเขาก็ตามมา ไม่ยอมแซง ซึ่งตนคิดว่าต้องเป็นคันเดียวกับวันนั้นแน่ๆ ซึงตนคิดว่าถ้าเขายังตามอยู่จะลงไปคุย แต่พอเขาเห็นเราจอดรถ เขาก็หักรถออกไป และก็ขับออกไป ซึ่งตนได้ไปคุยกับคุณพ่อ และเล่าเรื่องให้ฟัง
และรอบล่าสุดที่ขับออกมาจากห้าง ก็รู้สึกเหมือนโดนตามอีก มีรถคันนี้ รุ่นเดิมสีเดิม ขับตามมาอีกแล้ว จึงขับเช็คเหมือนเดิม ก็โทรหาคุณพ่อ ซึ่งตนก็อยากลงไปคุย ด้านคุณพ่อจึงจะมาด้วย เพราะเขาไม่อยากให้คุยคนเดียว และจากนั้นตนก็จอดรถและได้ลงไปคุยพร้อมคุณพ่อ แต่เหมือนเขาตกใจ และไม่ลดกระจกคุยกับตน พยายามจะแทรกขับหนีไป พอดีมีรถตามมา ก็เลยคิดว่าไม่เป็นไรเพราะเรามีทะเบียนและอะไรแล้ว ซึ่งก็จะไปลงบันทึกประจำวัน ส่วนรถคันดังกล่าวก็ขับพุ่งออกไปเลย และตนก็ไปลงบันทึกประจำวันเลย
ภาพจาก True Inside
ภาพจาก IG : bbillkin
ซึ่งหลังจากนั้น ทางบริษัทก็ให้ทีมกฎหมายดำเนินการให้ และทนายดำเนินเรื่องต่อ และล่าสุดทางทนายแจ้งความให้และกำลังสืบเรื่องอยู่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร เมื่อถามว่าถ้าทราบตัวคนกระทำแล้ว จะยอมให้อภัยไหม? เจ้าตัวเผยว่า ต้องสืบก่อนว่าเขามาด้วยเจตนาอะไร ถ้ามาเพราะตามเฉยๆ อาจจะเป็นการคุยเพื่อปรับความเข้าใจได้ แต่ถ้ามีเจตนาที่ประสงค์ไม่ดี จะเอาข้อมูลมาแอบถ่ายผมคิดว่าก็อาจจะต้อง มีวิธีการจัดการอีกแบบนึง
ส่วนตัวบิวกิ้นก็รู้สึกเป็นการรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว เป็นการล้ำสิทธิความเป็นส่วนตัว เมื่อถามว่าเป็นหญิงหรือชาย เจ้าตัวเผยว่าฟิล์มมันมืดมาก แต่เห็นลางๆ ว่าเป็นผู้หญิง เพราะผมยาว เหมือนผมสีทอง แต่เขาใส่แมสก์และใส่หมวก มาด้วยกันสองคน ส่วนข้างหลังไม่เห็น พร้อมเล่าต่อว่า เคยมีแบบนี้มาก่อนแต่ไม่ได้ตามมาถึงบ้าน เต็มที่ก็ตามออกมานิดนึง แล้วก็แยกย้ายกันไป
ภาพจาก IG : nadaobangkok
ภาพจาก True Inside
ในส่วนของการติดตามคดี รถและสีของรถ ตนจำได้เพราะเหมือนกัน และทะเบียนก็มีถ่ายรูปไว้ และได้ส่งรายละเอียดไปให้ทางตำรวจหมดแล้ว และกำลังดำเนินการต่อ และเบื้องต้นนั้นเป็นรถเช่า ส่วนครอบครัวค่อนข้างเป็นห่วง หลักๆ เขาจะห่วงในเรื่องคดีความ ว่าจะเป็นยังไงต่อ แต่ตนจะเป็นห่วงสิทธิส่วนบุคคลในครอบครัว เพราะรู้สึกว่า คนในครอบครัวจะได้รับผลกระทบไปด้วย ไม่อยากให้ครอบครัวต้องโดนแบบนี้ไปด้วย
เมื่อถามว่าได้คุยกับพีพีบ้างไหม? เจ้าตัวเผยว่า ยังไม่ได้คุย แต่เขาก็เป็นห่วงอยู่แล้ว เขาคงคิดว่าเรากำลังยุ่งๆ อยู่ด้วย แต่เขาก็ทราบเรื่องอยู่แล้วก่อนที่จะมีประกาศออกไป แต่ยังไม่ได้มานั่งคุยกัน เพราะคิดว่าตนกำลังยุ่ง ทั้งเรื่องคดีและเรื่องคนเข้ามาถามเยอะ และก็ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า ถึงเราจะเป็นบุคคลคนสาธารณะ แต่ผมก็รู้สึกว่าเราก็เป็นคนเหมือนกัน อยากให้ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา
แต่ก็ขอบคุณถ้าเขาเป็นคนที่ชื่นชอบเรามากก็ขอบคุณมากๆ เรามาเจอกันได้ตามงาน ที่ทางบริษัทจัดการไว้ให้หรือเป็นงานสื่อ แต่ผมขอเหลือพื้นที่ส่วนนี้ไว้ให้ ทุกคนได้มีเวลาของตัวเองบ้าง ก็ขอบคุณแฟนคลับที่เป็นห่วง จริงๆ ไม่รู้ว่าคนที่ตามเป็นใคร แต่ถ้าถามผม แฟนคลับผมน่ารักทุกคน เขาดูแลเราอยู่แล้ว เขาพิเศษสำหรับผมอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ช่วงที่เรามีปัญหา
ภาพจาก IG : bbillkin
ภาพจาก IG : bbillkin