รีวิวหนัง "The Roundup: Punishment" เฮียบิ๊กมาลงทัณฑ์ จังหวะปัง-มันส์ไม่แผ่วเลย

ถ้าหากว่าคุณยังไม่เบื่อหนังบู๊หมัดหนัก ๆ ของโอปปาทรงบิ๊ก "มาดงซอก" ในแฟรนชไส์หนังที่ฮิตสุด ๆ ของเกาหลีในทศวรรษนี้ ก็ขอเชิญชวนให้มามันส์กันต่อกับภาคล่าสุดในปี 2024 กับ "The Roundup: Punishment บู๊ระห่ำ ล่าล้างนรก: นรกลงทัณฑ์" ที่นับว่าเป็นภาคที่ 4 ของหนังชุดนี้ ซึ่งคุณจะได้ทราบสาเหตุที่ว่าทำไมหนังเรื่องนี้มันถึงได้ขยันสร้างออกมาแบบปีต่อปี และก็ยังโกยรายได้ถล่มทลายได้ทุกที

The Roundup: Punishment ในภาคนี้จะเล่าเรื่องราวระหว่างที่ทีมตำรวจชุดสืบสวนอาชญากรรมกำลังหาเบาะแสเกี่ยวกับแอปค้ายาเสพติดสุดฮิตอยู่ แต่ มาซอกโด ได้พบความเชื่อมโยงบางอย่างเกี่ยวกับเหตุนักพัฒนาแอปที่เสียชีวิตลงจากเหตุฆาตกรรมในฟิลิปปินส์ ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับองค์กรพนันออนไลน์นอกกฎหมาย

เป็นจังหวะเดียวกับ แพคชางกี เป็นหัวเรือที่ดูแลการตลาดพนันออนไลน์ของเกาหลี ประจำอยู่ทีฟิลิปปินส์ ด้วยพฤติการณ์ที่เหี้ยมโหดของเขา ทำให้เขาเลื่องชื่อในด้านที่น่าเกรงขาม โดยที่คู่ค้าธุรกิจของเขาก็คือ จางดงชอล มหาเศรษฐีอัจฉริยะด้านไอทีที่ใช้พรสวรรค์มาเป็นพรแสวงในการหารายได้จากการพนันออนไลน์ งานนี้ต้องให้ถึงมือสายสืบมาซอกโดอีกครั้ง ในการไล่ล่าลงทัณฑ์เจ้าอาชญกรพวกนี้

โดยหนังภาคที่ 4 ก็ได้ฤกษ์ปรับเปลี่ยนทีมงานกันสักหน่อย โดยคราวนี้ได้ "ฮอมยองแฮง" ผู้กำกับหนุ่มไฟแรงมานั่งเก้าอี้เป็นผู้สร้าง เขาคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล เพราะก็เพิ่งจะร่วมงานกับมาดงซอกไปหมาด ๆ จาก Badland Hunters ที่เพิ่งออกฉายทางเน็ตฟลิกซ์ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้การทำงานของเขากับซุปตาร์พี่บิ๊กค่อนข้างจะไหลลื่นเลยทีเดียว แทบจะไม่มีรอยต่อชวนสะดุดใด ๆ ตลอดทั้งเรื่อง

แน่นอนว่า The Roundup: Punishment เป็นหนังแอคชันที่แทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่และแตกต่างกันสักเท่าไหร่เลย นี่คือหนังที่ในฐานะผู้ชมอย่างเรา ๆ ต่างรู้ดีว่าหนังจะมาในทิศทางไหน ผลลัพธ์แบบใด มันเป็นการใช้โครงสร้างและพล็อตสูตรสำเร็จแบบเก่า ๆ ที่ยังคงใช้ได้ดีกับหนังเรื่องนี้อีกเช่นเคย โดยพล็อตในหนังภาคนี้นั้น เอาจริง ๆ ก็เป็นประเด็นที่เคยได้ยินมาบ้าง อย่างน้อย ๆ ก็จากซีรีส์ดัง Taxi Driver เมื่อไม่กี่ปีก่อน

The Roundup: Punishment ก็ยังคงทำการสดุดีการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้วยการหยิบเอาคดีที่น่าสนใจมาตีแผ่ เราอาจจะคุ้นเคยจากที่เคยดูในซีรีส์แล้ว แต่ฉบับหนังก็ถือว่าเป็นการขยายความและเรื่องราวออกมาได้อย่างถ่องแท้ยิ่งขึ้น จังหวะของหนังก็ยังเป็นไฮไลต์ที่โดดเด่นเหมือนเคย เป็นหนังที่เข้ามือกับมาดงซอกได้อย่างดี ไม่ว่าจะออกมาลีลาไหนก็ยังทำให้คนดูจอยกับหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก

การแสดงของ มาดงซอก ก็ยังชวนประทับใจเช่นเคย บทบาทนี้ได้เข้าเป็นสู่เส้นเลือดของเขาไปแล้วเรียบร้อย ถึงมันจะเป็นคาแรกเตอร์ที่ไม่ได้มิติและแนวทางพัฒนาใด ๆ เลย แต่กลายเป็นตัวละครที่โปรดปรานของผู้ชมได้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเดินไปไหน เหวี่ยงหมัดใส่ใคร ทุกโมเมนต์ของโอปปาก็คือมนต์เสน่ห์ที่ทำให้หนังเรื่องนี้บันเทิงสมใจมาก ๆ

ขณะที่ทีมนักแสดงสมทบก็ยังมีทั้งหน้าเก่าที่คุ้นเคย "พัคจีฮวัน" ยังเล่นบทขโมยซีนที่เด็ดดวงเหมือนเคย เช่นเดียวกับ "คิมมินแจ", "อีจีฮุน" หรือ "อีบมซู" ก็ยังเป็นตัวเสริมที่ซัพพอร์ตดี เสริมด้วยตัวละครใหม่ "คิมมูยุล" ที่มารับบทเป็นวายร้ายประจำภาคนี้ ก็ถือว่าเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทที่สวมบทบาทร้ายโหดหน้านิ่ง ๆ ได้อย่างเลือดเย็น ถึงแม้ว่านี่อาจจะเป็นบทตัวร้ายที่แทบไม่มีมิติอะไรเลย เป็นคาแรกเตอร์ที่ใส่เข้ามาแห้ง ๆ ใส่มาให้มี

เช่นเดียวกับ "อีดงฮวี" ที่เข้าเสริมในฐานะบทร้ายอีกตัวหนึ่ง ถึงแม้ว่าเขาคนนี้จะนับว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงเกาหลียอดฝีมืออีกคนของวงการ แต่การมาใส่เต็มด้วยจังหวะบ้า ๆ บอ ๆ ก็ถือว่าเข้ามือเขาดี เพียงแต่ก็เหมือนกันที่คาแรกเตอร์ไม่ค่อยมีมิติสักเท่าไหร่ นับว่าเป็นภาคที่มีบทตัวร้ายค่อนข้างเบาโหวงที่สุดเลยทีเดียว

ดังนั้นโดยภาพรวมแล้ว The Roundup: Punishment ก็จัดได้ว่าเป็นหนังที่ยังให้ความบันเทิงคนดูได้อย่างเต็มแม็กซ์อีกเช่นเคย ถึงมันจะเป็นหนังที่หาความแปลกใหม่อะไรไม่ได้เลยก็ตาม แต่คนดูก็ยังสนุกและเอ็นจอยไปกับหนังภาคที่ 4 ได้ตลอดทั้งเรื่อง จังหวะของหนังเรื่องนี้ยังดีเอาเรื่อง ไม่แปลกใจเลยที่ทำให้หนังชุดนี้ยังทำเงินและฮิตไม่เปลี่ยนแปลง เพราะมันยังตอบโจทย์คนดูได้เป็นอย่างดี