ปี 1981 การ์ตูนเรื่อง "กัปตันซึบาสะ" ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ เด็กผู้ชายคนหนึ่งนามว่า "โอโซระ ซึบาสะ" ที่อยากเป็นสุดยอดนักฟุตบอล ก็ถูกเผยแพร่สู่สายตานักอ่านชาวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ในนิตยาสารการ์ตูนรายสัปดาห์ โชเนน จัมป์ในช่วงเวลาในยุคนั้นกีฬา "ฟุตบอล" เป็นกีฬาที่ค่อนข้างห่างไกลกับคน ญี่ปุ่น เป็นอย่างมาก ทุกคนล้วนแต่สนใจกีฬาประจำชาติอย่าง "ซูโม่" กับ "เบสบอล""แน่นอนว่ากีฬา เบสบอล เป็นหนึ่งในเรื่องที่ผมคิดตอนเริ่มวาดมังงะ(ชื่อเรียกการ์ตูนญี่ปุ่น) แต่ตอนนั้นมันมีมังงะเกี่ยวกับ เบสบอล ออกมาเยอะมาก ผมจึงคิดว่าผมน่าจะลองวาดมังงะฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬาที่แทบจะไม่มีคนรู้จักมัน" นี้คือคำพูดจากปาก โยอิจิ ทาคาฮาชิ ผู้วาดและบิดาผู้ให้กำเนิด "กัปตันซึบาสะ""ตอนที่การ์ตูนเรื่องนี้เริ่มตีพิมพ์ครั้งแรก ผมจำได้ว่าแม้แต่คำว่า ฟุตบอลโลก ก็ยังไม่คุ้นหูคนทั่วไป ผมจึงต้องใช้ทางลัดด้วยการที่ผมอธิบายมันในใส่ไว้ใน กัปตันสึบาสะ ว่ามันมีการแข่งขันที่ชื่อว่า ฟุตบอลโลก เป็นทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี ซึ่งมันเป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนต์ที่ปรากฏอยู่ในมังงะเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน”แต่แล้วสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นเมื่อ กัปตันซึบาสะ ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด ถึงขนาดว่าคนที่ไม่เคยสนใจมการ์ตูนมาก่อน ต้องหันสนใจในการ์ตูนเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ยอดขายของ โชเนน จัมป์ นิตยสารที่ลงการ์ตูนเรื่องนี้มียอดจำหน่าย 2.5 ล้านเล่มต่อสัปดาห์ในปี 1982และที่สุดยอดยิ่งไปกว่านั้นในภาค "เยาวชนโลก" ทำให้ โชเนน จัมป์ ในปี 1995 มียอดจำหน่ายสูงถึง 6.5 ล้านเล่มเลยทีเดียวด้วยความสำเร็จของ กัปตันซึบาสะ ทำให้เกิดส่วนสำคัญให้ เด็กๆและประชาชนเริ่มเล่น ฟุตบอล และหันมาสนใจใน ฟุตบอล กันมากขึ้นจนขึ้นเป็นกีฬาอันดับ 1 ในยุคนั้นเทียบเคียงกับ เบสบอลเลยทีเดียวจาดยอดขาย 70 ล้านเล่มทั่วโลก ไม่ใช่เพียงในทวีปเอเชียเท่านั้น ยังรวมถึงททวีปยุโรป รวมไปถึง อเมริกาใต้ด้วยส่งผลให้การ์ตูนเรื่องนี้ไปสร้างแรงบรรดาลใจ ให้กับนักฟุตบอลมากมายในวัยเด็กไม่ว่าจะเป็น ลีโอเนล เมซซี่ , เนย์มา , อเล็กซิส ซานเชส , เจอนาโร่ กัตตูโซ่ , ฟานเชตโก้ ต็อดติ , เมซุด โอซิลรวมไปถึง เฟอร์นันโด ตอร์เรส ซึ่งเคยให้สัมภาษณ์ว่า"ผมเริ่มเล่นฟุบอลเพราะซึบาสะ"กัปตันสึบาสะ ไม่เพียงประสบความสำเร็จในแง่ความนิยมและยอดขาย แต่มันยังมีส่วนในการพลิกโฉมวงการฟุตบอลญี่ปุ่นอย่างมากอีกด้วยย้อนกลับไปในช่วงที่กัปตันสึบาสะเพิ่งตีพิมพ์ ญี่ปุ่นมีเพียงแค่ลีกกึ่งอาชีพ ที่เป็นเพียงการแข่งขันของทีมจากบริษัทหรือองค์กร ส่วนเอเชียนคัพ หรือฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ของทีมชาติญี่ปุ่นยังเป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อมนักเตะชื่อดังในญี่ปุ่นหลายคน ทั้ง ฮิเดโตชิ นาคาตะ, ชุนซุเกะ นาคามูระ หรือ โยชิคัตสึ คาวางุจิ ต่างยอมรับว่าการ์ตูนเรื่องนี้ คือ แรงบันดาลใจในวัยเด็กของเขา“ในญี่ปุ่นเมื่อปี 20 หรือ 30 ปีที่แล้วเบสบอลยิ่งใหญ่มาก ส่วนฟุตบอลเพิ่งจะเริ่มตั้งไข่ ดังนั้นผมจึงไม่มีฮีโร หรือทีมในฝันอะไร” นาคาตะกล่าวไว้ในขณะเดียวกันมันยังมีส่วนทำให้คนในประเทศให้ความสนใจฟุตบอลมากขึ้น ในช่วงเวลาเดียวกันในความคิดริเริ่มการก่อตั้งเจลีก หรือลีกอาชีพแห่งแรกของญี่ปุ่น ที่กลายเป็นหนึ่งในรากฐานที่ทำให้ญี่ปุ่นได้ไปเล่นฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในปี 1998 หรือการเป็นกำลังใจให้กับทีมชาติหญิงญี่ปุ่นจนสามารถคว้าแชมป์โลกในปี 2011“ผมคิดว่ากัปตันสึบาสะไม่ได้มีอิทธิพลอะไรมากหรอกนะ เป็นเพราะเสน่ห์ของฟุตบอลเองที่ทำให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้างและเป็นกีฬาที่สนุกในวันนี้” ทาคาฮาชิ ได้กล่าวไว้ “แต่ผมก็รู้สึกซาบซึ้งที่ผู้คนพูดแบบนั้น และจริงๆแล้วรู้สึกยินดีที่ทำให้คิดว่าบางทีผมอาจจะสามารถช่วยส่งเสริมวงการฟุตบอลญี่ปุ่นได้ในบ้างก็แค่นั้น” ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก TRUE IDภาพที่1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก https://www.tsubasa-dreamteam.com/en/sp/ ภาพปก