vinland saga เป็นผมงานมังงะของ Yukimura Makoto เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์ Kodansha ตั้งแต่ปี 2005 ถึงปัจจุบัน ในไทยมีลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์ สยามอินเตอร์ คอมิกส์ ในชื่อ “สงครามคนทมิฬ” และได้ประกาศทำเป็นอนิเมะ วันที่ 19 มีนาคม 2018 โดยสตูดิโอ Wit Studio ผ่านผู้กำกับอย่าง Shuhei Yabuta ที่มีผมงานกำกับอย่าง Inuyashiki และ Attack on Titan โดยมีกำหนดฉายวันที่ 7 กรกฎาคม 2019 STORY เนื้อเรื่องจะกล่าวโดยทอร์นักรบที่เก่งที่สุดในหมู่ไวกิ้ง แต่ได้หลีกหนีจากสงคราม ด้วยความคิดที่ว่า "การฆ่าฟันไม่ใช้หนทางการยุติปัญหาต่าง ๆ" เลยออกมาตั้งต้นกับภรรยาที่ไอซ์แลนด์ จนได้มีบุตรชายชื่อว่าทอร์ฟินและยูลฟา เหตุการณ์ดีขึ้นเป็นอย่างมาก ไม่มีสงคราม ไม่มีความขัดแย้ง จนกระทั่ง ลีฟ ลุงผู้ที่ออกเรือผจญภัยไปในที่ต่าง ๆ กลับมาพร้อมกับการเจอดินแดนใหม่ ที่มีชื่อว่า vinland ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ทั้งภูมิประเทศ และอากาศ ทำให้ทอร์ฟินเกินความสนใจอยากออกทะเล แต่มันก็ยังอันตรายเกินกว่าที่เด็กอย่างทอร์ฟินจะไป จนกระทั่งเรือไวกิ้งได้มาที่ไอซ์แลนด์ เพื่อเจรจาให้ทอร์กลับไปทำสงคราม ทำให้ไม่มีทางเลือกจึงไปด้วย ระหว่างทางที่จะไปรวมกับกลุ่มไวกิ้ง ทอร์ฟินกลับติดเรือมาด้วย ทอร์จึงต้องทำใจพาไป พร้อมจะปกป้องทอร์ฟินด้วย จนมาถึงเกาะเกาะหนึ่ง เพื่อมาเก็บตุลสเบียงเพิ่ม แต่กลับโดนโจนสลัดลอบฆ่า หวังจะเอาสเบียงที่เหลืออยู่และอาวุธไป พร้อมกับสั่งหาร ทอร์..... และนี้คือเรื่องทั้งหมดผมชอบ vinland saga ในเรื่องของสงครามมาก ๆ ซึ่งแน่นอนว่า theme หลังของเรื่องนี้คือแนวสงคราม แต่มันค่อนข้างมีเนื้อเรื่องออกไปทางดราม่าซะส่วนใหญ่ ทำให้เราได้รู้ถึงผลกระทบทางสงครามมากยิ่งขึ้น ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่ามันอาจจะไม่ได้แอคชั่นจาเลย เพราะส่วนตัวผมชอบฉากแอคชั่นมาก แต่จะบอกว่ามันไม่แอคชั่นเลยก็ไม่ถูก เพราะมันก็ยังมีให้เห็นอยู่บ้าง และอาจจะโหดหรือรุนแรงเลยก็มี ของเสียขอเรื่องนี้ก็คือ ในช่วงกลาง ๆ ของเรื่องจะเริ่มอ่อนลง ซึ่งอาจจะทำให้เบื่อได้ และผมมีความรู้สึกว่ามันรวบรัดมากในบางเรื่องบางตอน แต่แน่นอนว่ามันจะปูทางไป Season 2 เพราะฉะนั้นต้องรอดูกันต่อไปCHARACTER DESIGN ตัวละครใน vinland saga ส่วนใหญ่ จะมี Characters ที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่น ยกตัวอย่างเช่น แอสเคแลด ตัวร้ายในเรื่องที่มีเอกลักษณ์เป็นคนเจ้าเล่ห์ แต่เป็นคนที่มีอุดมคติอย่างมาก ทำให้กลายเป็นตัวร้ายที่มีเสน่ห์ มากกว่าพระเอกซะอีกส่วนตัวละครอื่นเช่น บีจอน,ทอร์เคล,แอดรี่&ทอร์กลิม กลับมีความสำคัญด้วยในช่วงต่าง ๆ รูปลักษณ์ภายนอกยังถือว่าจัดออกมาได้เหมือนกับนักรบไวกิ้งเลย แต่ด้วยการที่มีตัวละครเยอะก็อาจจะทำให้บทไม่เยอะเหมือนตัวหลัก ๆ บ้างในบางตัว นี้ก็อาจเป็นขอเสียสำหรับบางคน ส่วนตัวอื่น ๆ ที่ไม่ยกตัวอย่างให้ไปดูกันเองครับ เพราะอาจจะสปอยล์ไปอีกPRODUCTION ผมอาจจะคิดไปเองหรือป่าว ที่ฉากประกอบในบางฉากกลับทำออกมาได้สวยงามอย่างมาก แถมกับฉากที่ใช่ cg นั้นก็สวยไม่แพ้กันเลย การเคลื่อนไหวของตัวละคร ก็ถือว่าแถบจะไม่มีงานเผาเลย โดยเฉพาะกับฉากต่อสู้ที่ทำออกมาดี ถึงมันจะน้อยก็เถอะ ทำให้รู้ว่า production เรื่องนี้ทุ่มเททำอย่างดีเยี่ยม แต่ขอเสียก็ยังมีคือ cg นั้นเอง ที่ไม่ได้ลื่นไหล เพราะยังมีจำนวน Frame ที่น้อยอยู่ แต่ถามว่ามันบั่นทอนฉากบางฉากไหม ก็บอกเลยว่าเป็นส่วนน้อยมาก สำหรับ cg เพราะนั้นไม่บั่นทอนแน่นอนSOUND ในส่วนของ sound ประกอบ เรื่องนี้ใช้ดนตรีออกไปทางยุโรป ซึ่งมันก็เข้ากับ theme ของเรื่องอยู่แล้ว รวมไปถึงเพลงเปิดและเพลงปิดด้วย ซึ่งมี 2 เวอร์ชั่น โดยส่วนตัวผมชอบเพลงเปิดแรก ที่ชื่อ MUKANJYO ส่วนเพลงปิด คงเป็นอันแรกเหมือนกัน ที่ชื่อ Torches ส่วนอีก เพลงคือ เพลงเปิด ที่ชื่อ Dark Crow กับเพลงปิด ที่ชื่อ Drown ซึ่งถึงแม้เพลงจะยุโรปยังไง มันยังร้องโดยญี่ปุ่นอยู่ดี มันอาจไม่เข้ากัน แต่ก็เข้าใจว่ามันคือการ์ตูนญี่ปุ่นเลยอาจจะไม่ฝรั่ง แต่ก็เพราะดีสำหรับเพลงที่ฟัง ผมชอบมาก ๆ ส่วนเพลงประกอบฉากอย่างที่บอก ใช้ดนตรีออกไปทางยุโรป แต่ในบางฉากกลับสื่ออารมณ์มาได้ดีมาก ไม่มีจังหวะไหนตกบกพร่อง สรุป สำหรับผม vinland saga นับเป็นผลงานที่ดีมาก ทั้ง production,sound,Characters และการสื่ออารมณ์ภายในเรื่องที่ทำออกมาดี โดยไม่ใช้แค่สงครามธรรมดา โดยถึงแม้เนื้อเรื่องจะอ่อนในช่วงกลาง ๆ แต่ไม่นานก็จะดีในตอนจบ แม่จะรวบรัดไปบ้าง และผมก็จะรอดูภาคต่อไปแล้วว่าจะเป็นไง ใน Season 2SCORE : 8/10ภาพจาก ฉากบางฉากใน vinland saga