Movie ReviewThe Parades เดอะ พาเหรด (2024)การจากลาที่เล่าเรียบง่ายงดงามโศกซึ้งตราตรึงประหนึ่งเรื่องจริง เมื่อบ่วงหรือห่วงอาจเป็นของใครบางคนแต่กับบางคนอาจเป็นที่ยึดเหนี่ยวเหมือนเคยเขียนไว้หลายครั้งว่าญี่ปุ่นจะเก่งเรื่องการเล่าเรื่องเหนือจินตนาการให้ออกมาปานเรื่องจริงจนสามารถสัมผัสได้ด้วยใจจนบางครั้งคนดูอาจจินตนาการไปได้ว่าเรื่องเหนือจริงนั้นสามารถเป็นเรื่องจริงได้ อีกสิ่งที่ผู้เขียนมองว่าเป็นความเก่งกาจคือการเล่าเรื่องเศร้าสร้อยให้ออกมางดงามโลกสวยด้วยความมองโลกในมุมต่างผ่านการเล่าเรื่องที่เรียบเรื่อย หรือถ้าจะเจาะจงลงไปคือการเล่าเรื่องความตายได้ธรรมดาอาจเพราะความตายเป็นเรื่องธรรมดาแต่มองในมุมที่ไม่ธรรมดาทั้งที่มันแสนจะธรรมดาและเรื่องแบบนี้ญี่ปุ่นเล่าออกมาเป็นงานชั้นเยี่ยมมากมาย ทั้งหนังหรือซีรีส์แต่ถ้าเจาะจงลงไปทางหนังก็หยิบยกมาบอกได้ไม่หมดเพราะเยอะทั้งที่เล่าเรื่องที่เป็นเรื่องจริงในโลกหรือเรื่องเหนือจินตนาการ และนั่นคือเสน่ห์ที่มัดใจให้คนที่ชอบดูหนังหรือซีรีส์ญี่ปุ่นไม่สามารถปล่อยวางได้เมื่อเห็นคอนเทนต์ญี่ปุ่นแนวนี้ออกมาและผู้เขียนคือหนึ่งในนั้น เช่นกันกับเรื่องนี้ที่เขียนตั้งตารอและคงสารภาพว่าการดูตอนกลางวันที่มีอะไรรบกวนความรู้สึกไม่เหมาะอย่างยิ่งผู้เขียนเลยตัดสินใจดูตอนกลางคืนอีกรอบซึ่งผลออกมาต่างกันลิบมินาโกะ (มาซามิ นากาซาวะ) กำลังมีความสุขกับการเล่นน้ำทะเลกับลูกชายแต่ทันใดเธอกลับฟื้นขึ้นมาที่ริมหาดท่ามกลางซากปรักหักพังจากสึนามิ เมื่อมองไปไม่พบลูกชายเธอจึงตามหาแต่กลับไม่มีใครสนใจซ้ำร้ายเธอจับต้องใครไม่ได้ทำให้หาลูกชายไม่เจอจนได้พบกับอากิระ (เคนทาโร่ ซากากูชิ) ที่มองเห็นเธอ แล้วเธอก็พบความจริงที่ว่าเธอคือวิญญาณที่มีอะไรค้างคาหรือมีห่วงติดในใจจนไม่สามารถไปยังโลกหน้าได้ เธอจึงได้มาอยู่ในชุมชนวิญญาณที่มีเพื่อนร่วมชะตาคือโชริ (ริวเซย์ โยโกฮามะ) หนุ่มยากูซ่า,ไมเคิล (ลิลลี แฟรงกี้) ผู้อำนวยการสร้างหนัง,คาโอริ (ชิโนบุ เทราจิมะ) เจ้าของบาร์และทานากะ (เท็ตสึชิ ทานากะ) เริ่มแรกมินาโกะรับไม่ได้กับสิ่งที่เธอต้องเผชิญแต่ทุกคนต่างมีอะไรติดค้างไม่ต่างกันน้ำใสไมตรีของทุกคนจึงช่วยให้เธอผ่อนคลายลง แล้วสมาชิกใหม่ก็เข้ามาคือนานะ (นานะ โมริ) นักเรียนหญิงที่ฆ่าตัวตาย และทุกสามสิบวันจะมีการเดินตามหาคนที่รักของกันและกันปานเดินพาเหรดหลังความตายซึ่งนั่นอาจจะเป็นห่วงที่ทำให้แต่ละคนไม่ได้ไปโลกหน้าหรือไม่....เรียบง่ายไร้ที่ติกับการเล่าเรื่องที่มีเจตนาชัดเจนโดยแยกกันเล่าแต่มีจุดร่วมเดียว แรกเลยคือเรื่องบทภาพยนตร์ที่มีจุดหมายคือการปลดบ่วงที่ค้างคาในใจของมินาโกะที่เป็นผู้เล่นหลักโดยที่ตัวละครนี้จะต้องได้รับทราบและเรียนรู้เรื่องบ่วงของคนอื่นให้คนดูได้รู้ไปกับเธอ แล้วแต่ละคนก็ต่างมีบ่วงที่เป็นห่วงนั่นคือการเล่าเรื่องย่อยประกอบเป็นเรื่องใหญ่ที่มินาโกะต้องพาไป ซึ่งแยกแยะออกมาให้ชัดคือเรื่องของโชริกับความรักที่ไม่อาจปล่อยวางกับเรื่องของหนังที่สร้างไม่เสร็จของไมเคิลที่เหตุผลมีมากกว่านั้นที่มีบทสรุป ส่วนเรื่องของคนอื่นๆแม้จะไม่สรุปแต่ก็มองออกว่าเป็นเพราะอะไรและเก่งมากที่เล่าเหตุผลโดยไม่ต้องอรรถาธิบายหรือไม่ต้องเล่ามาแต่คนดูกลับรับรู้ได้ สุดท้ายเมื่อมินาโกะได้คลายห่วงเพื่อที่จะเดินทางต่อก็คือการที่มีจุดร่วมของทุกเรื่องที่เป็นการปล่อยวางที่ถูกเล่ามาอย่างไร้ที่ติ เพราะความเชื่อมโยงเรื่องต่อเรื่องผ่านตัวละครมินาโกะหรือแยกกันเล่าผ่านการเขียนของอากิระหรือการทำหนังของไมเคิล นั่นคือแยกกันเล่าเรื่องในเรื่องเดียวได้อย่างสมบูรณ์แบบจนรู้สึกไปกับทุกเรื่องที่เล่าด้วยความจับใจเก็บเกี่ยวอารมณ์ความรู้สึกด้วยความโศกซึ้งภาพสวยเพลงส่งจนน้ำตาอาจไหลไม่รู้ตัว อาจเป็นงาน NETFLIX Original แต่มีความเป็นหนังญี่ปุ่นอยู่เต็มร้อยทั้งการเล่าเรื่องและชั้นเชิง เพราะหนังญี่ปุ่นจะไม่บีบบี้ขยี้อารมณ์แต่เลือกเก็บเกี่ยวไปเรื่อยๆผ่านภาพและเพลงที่ส่งเสริมเหมือนเก็บความรู้สึกไว้ทีละเล็กละน้อยโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเรื่องนี้มาในโทนโศกซึ้งแม้จะเห็นเป็นความโลกสวยเพราะมองความตายและการจากลาในมุมต่าง แล้วเมื่อถึงเวลาทุกอย่างก็พรั่งพรูเช่นเรื่องของโชริที่ห่างกันเพียงเอื้อมมือแต่กลับเหมือนแสนไกลหรือการเหมือนกับจ้องตากันแต่บอกความในไม่ได้ หรือเรื่องของไมเคิลชายผู้ยึดติดกับหนังที่สร้างไม่เสร็จเพราะมันคือเรื่องของตัวเองที่จะบอกกับคนรักที่ไม่มีโอกาสได้ขอโทษ เพราะทุกอย่างจะค่อยๆซึมซับเข้าสู่หัวใจทีละเล็กน้อยผ่านอาการที่ดูสบายๆของเหล่าวิญญาณที่ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ทุกคนล้วนมีอะไรและเหตุผลของแต่ละคนก็หนังอึ้งไม่แพ้กัน อารมณ์จึงออกมาประมาณเดินท่ามกลางแสงแดดอ่อนในตอนเช้าที่อุ่นกายสบายใจแต่อยู่ดีๆน้ำตาก็ไหลไม่รู้ตัวเมื่อได้เห็นแสงแดดอ่อนๆนั้นเล่าเรื่องความตายและการจากลาได้สามัญงดงามคมคายที่สำหรับบางคนคือห่วงแต่กับบางคนคือที่ยึดเหนี่ยว เพราะการจากลาด้วยความตายไม่ใช่เรื่องง่ายบางครั้งคนตายก็อาจเศร้าไม่ต่างจากคนอยู่ที่ต้องเผชิญชีวิตต่อไป ทำให้วลีที่โชริบอกกับนานะว่า "ใช้ชีวิตให้คุ้ม" ทั้งที่เป็นวิญญาณกลายเป็นความแหลมคมที่ทิ่มแทงเมื่อบางครั้งบ่วงที่เป็นห่วงก็เหมือนกับสิ่งยึดเหนี่ยวของบางคนให้รู้สึกว่ามีตัวตนอยู่และนั่นคือการไม่อาจปล่อยวาง แน่นอนเมื่อเล่าเรื่องความตายของคนที่ตายไปแล้วชีวิตจะมีความหมายอะไรแต่ยังเล่าได้อย่างงดงามคมคายเมื่อชีวิตหลังความตายในที่พักพิงยังมีมิตรไมตรีของผู้ร่วมชะตากรรมให้ได้ช่วยเหลือกันหรือแม้แต่การเดินพาเหรดเพื่อตามหาคนรักที่หายไปของเหล่าวิญญาณที่จับใจยิ่ง ซึ่งมันก็คือการใช้ชีวิตในโลกนั่นเองแต่เป็นโลกของวิญญาณที่ไม่ว่าคนเป็นหรือคนตายต่างก็ต้องการมีตัวตนในหัวใจคนอื่นการได้มองดูคนที่เรารักใช้ชีวิตที่ดีก็คือความสุขและเหมือนจะหมดห่วง แต่กับบางคนกลายเป็นห่วงเพราะเมื่อเวลาผ่านไปการที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีเราก็เหมือนกับเราไร้ตัวตน?การแสดงที่เหมือนธรรมดาแต่สุดยอดทุกคนเพราะนี่คือเรื่องความรักและการห่วงหา อาจเพราะหนังออกมาโทนสบายการแสดงเลยดูสบายๆทั้งที่มิติตัวละครแต่ละคนไม่เบา ที่ต้องชื่นชมคือการเล่าเรื่องของแต่ละตัวละครได้ครบทุกอารมณ์ความรู้สึกทั้งที่เวลาเล่าไม่เท่ากันบางคนก็เป็นดั่งเครื่องเคียงแต่กลับไม่ตกหล่น อาจเพราะการแสดงที่เลิศล้ำในการทำตัวธรรมดาที่นำมาโดยมาซามิ นากาซาวะที่เปลี่ยนทัศนคติชัด เนียนตา มีพัฒนาการจัดการทุกอารมณ์ได้ ถัดมาคือลิลลี แฟรงกี้ที่ยอดเยี่ยมเหลือประมาณทั้งบุคลิกการพูดจาในอารมณ์ที่ต่างกันหรือจะเป็นสายตาห่วงหาที่มองคนที่เรารักอย่างเงียบๆของเคนทาโร่ ซากากูชิกับชิโนบุ เทราจิมะ แม้กระทั่งเรื่องความรักที่ไม่อาจปล่อยวางจากความรู้สึกผิดที่ห่างกันเพียงเอื้อมมือของริวเซย์ โยโกฮามะหรือความแค้นที่มีอะไรลึกกว่านั้นของนานะ โมริ ซึ่งจะว่าไปนี่ก็คือนักแสดงระดับแถวหน้าทั้งนั้นที่มารวมกันเล่าเรื่องความรักผ่านความตายและการจากลาได้อย่างธรรมดาแต่ยอดเยี่ยม เพราะความธรรมดานั้นยากกว่าโดดเด่นสำหรับนักแสดงที่พลังดาราสูงทุกคนแบบนี้เป็นหนังที่ดูเหมือนลมเย็นพลิ้วแผ่วแต่ไม่อาจหยุดกลางคันได้เพราะแรงดึงดูดที่น่าประหลาดจนสามารถดูซ้ำได้ทันที สารภาพว่าบทความนี้เขียนหลังจากการดูสองรอบรอบแรกคือตอนบ่ายหลังจากหนังลงสตรีมแล้วดูตอนกลางคืนก่อนนอนอีกรอบเพราะต้องการเก็บเอาทุกย่างที่หนังเป็นให้ครบ ซึ่งหนังแบบนี้การดูในสภาพแวดล้อมเปิดอาจไม่ใช่เรื่องดีนักเพราะหนังต้องการเก็บเกี่ยวอารมณ์ความรู้สึกอย่างละเอียด จนเมื่อมาดูคนเดียวเงียบๆทุกความรู้สึกที่ไม่มีตกหล่นก็มอบทุกอย่างที่หนังต้องการบอกคนดูทั้งอารมณ์โศกเศร้า ซาบซึ้ง เข้าใจโลกเข้าใจชีวิตและความรักในหลากแง่มุม ส่งผลให้เรื่องที่เหมือนไม่มีอะไรหวือหวาแต่มีแรงดึงดูดประหลาดที่แม้จะดูรอบสองก็ยังไม่อาจหยุดกลางคันได้เพราะเอาจริงคือภาพสะกดสายตาเพลงสะกดโสตและอารมณ์ก็จับต้องได้ ซึ่งหนังญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้คือเหมือนเรียบๆเรื่อยๆประหนึ่งลมเย็นโชยอ่อนพลิ้วผ่านเรือนกายให้รู้สึกสบายไม้มีลมกระชากหรือพายุฝนที่ทำให้เปียกปอน แต่ลมที่พลิ้วแผ่วแบบนี้กลับมอบความตราตรึงถึงหัวใจได้เสมอเช่นเดียวกับหนังเรื่องนี้เป็นดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก,ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5,6,7,8,9 จาก Instagram netflixjp ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/Q576Zbzn8Kndhttps://entertainment.trueid.net/detail/OzP9wq6b7B02https://entertainment.trueid.net/detail/akeWJ2Pmv0Y5https://entertainment.trueid.net/detail/QrDBYZ3dmW19 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !