สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ XiaoJay อยากจะมาแนะนำซีรีส์แวมไพร์เรื่องโปรดที่ดูซ้ำบ่อย ๆ ของ XiaoJay ค่ะ เรื่องนี้เป็นซีรีส์สัญชาติอเมริกาและมีผู้กำกับน้อยใหญ่มากฝีมือหลายท่านมาร่วมกำกับ อาทิ Jonathan Scarfe, Michael Nankin และ David Winning ยิ่งไปกว่านั้นยังมีนักแสดงฝีมือดีที่มาร่วมแสดงอย่างคับคั่ง ถือว่าเป็นซีรีส์อีกเรื่องหนึ่งเลยที่ใช้นักแสดงเปลืองมาก โดยซีซั่นที่ 1 ได้ออกอากาศครั้งแรกเมื่อปี 2016 ปัจจุบันก็เดินมาถึงซีซั่นที่ 4 แล้วที่ปล่อยลงจอให้ได้ชมกันและกำลังดำเนินการสร้างซีซั่นที่ 5 อีกด้วย โดย Van Helsing ฉบับซีรีส์นี้เป็นการร่วมมือกันผลิตระหว่าง Echo Lake Entertainment และ Nomadic Pictures โดยมีผู้จัดจำหน่ายหลายเจ้าด้วยกันและหนึ่งในผู้จัดจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์นั่นก็คือ Netflix นั่นเองจ้าชื่อเรื่อง: Van Helsing นักล่าแวมไพร์ประเภท: ระทึกขวัญ ดราม่า แอคชั่น แฟนตาซีปีที่ออกอากาศครั้งแรก: 2016จัดจำหน่ายโดย: Netflix จำนวนซีซั่น: 4จำนวนตอน: 52 (ซีซั่นละ 13 ตอน)ความยาว: 60 นาที/ตอนเสียง: อังกฤษ เรท: 18+Official Site: Netflix รับชมผ่านกล่อง True ID TV ได้แล้ววันนี้นักแสดงนำ:วาเนสซ่า แวนเฮลซิ่ง เธอเป็นทายาทตระกูลนักล่าแวมไพร์ที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เธอใช้ชีวิตก่อนเกิดเหตุแวมไพร์ออกอาละวาดยึดครองเมืองอยู่ที่ซีแอตเติลร่วมกับลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอ Dylan โดยทำอาชีพเป็นตำรวจ จ่าแอ็กเซล มิลเลิอร์ หนึ่งในหน่วยทหารนาวิกโยธินที่มาเฝ้าอารักขารักษาความปลอดภัยให้กับ วาเนสซ่า ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งด็อกเตอร์ซาร่า ผู้ซึ่งเคยกลายเป็นแวมไพร์และถูกคืนร่างกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้งโดย วาเนสซ่า ด็อกมั่นใจมาโดยตลอด 5 ปีว่าเลือดวาเนสซ่าพิเศษแซม หนุ่มที่ใช้ภาษามือในการสื่อสาร 1 ในผู้รอดชีวิตที่เข้ามาอาศัยในโรงพยาบาลที่เดียวกับ วาเนสซ่า อยู่จูเลียส ผู้นำแวมไพร์ตัวเป้งที่ตั้งตนเป็นศัตรูกับวาเนสซ่า และพยายามกำจัดเธอให้สิ้นซากแต่ภายหลังเขาก็กลายมาเป็นทีมของ วาเนสซ่าแฟลช ลูกน้องของจูเลียสเขาถูกจูเลียสส่งมาให้ทดลองกัดวาเนสซ่า เพื่อดูว่าเลือดของเธอสามารถเปลี่ยนแวมไพร์ได้จริงหรือไม่ เรื่องย่อ:เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อภูเขาไฟเยลโล่สโตนประทุเป็นเหตุให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ซึ่งส่งผลให้เกิดละอองฝุ่นหนาทึบบดบังแสงอาทิตย์ เหล่าแวมไพร์ที่เคยหลบซ่อนตัวแฝงอยู่ในสังคมร่วมกับพวกมนุษย์ได้ออกมาอาละวาดดูดกินเลือดมนุษย์อย่าบ้าคลั่ง ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อกลายเป็นแวมไพร์แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ความหวังในการรอดชีวิตเริ่มลดลงเรื่อย ๆ เผ่าพันธุ์มนุษย์กำลังจะถูกแทนที่ด้วยเผ่าพันธ์ุที่แข็งแกร่งกว่าและเป็นผู้ล่าที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร 5 ปีให้หลังหญิงสาวนามว่า วาเนสซ่า ได้ตื่นขึ้นในห้องพยาบาลแห่งหนึ่งเธอถูกเฝ้าอารักขาจาก จ่าแอ็กเซล มิลเลอร์ ทหารนาวิกโยธินที่ได้รับคำสั่งให้เฝ้าดูแลเธอให้มีชีวิตรอดปลอดภัย แม้ว่าเมืองทั้งเมืองจะตกอยู่ในมือของพวกแวมไพร์แต่เขาก็ยังคงปกป้องวาเนสซ่ามาโดยตลอด และในที่สุดวาเนสซ่าก็ค้นพบวิธีรักษาพวกผีดิบ เธอพบว่าเธอไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไปเลือดของเธอเปลี่ยนพวกมันให้กลับคืนสู่ความเป็นมนุษย์ได้อีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังมีพละกำลังแข็งแกร่งและร่างกายของเธอยังฟื้นตัวได้ไวจากอาการบาดเจ็บอีกด้วย วาเนสซ่าพยายามออกตามหาลูกสาวของเธอที่หายไปจนเธอได้มาพบกับ ดีมีทรี หัวหน้าแวมไพร์ที่มีชีวิตมาแล้วหลายร้อยปี มันบอกกับเธอว่าที่จริงแล้ววาเนสซ่าคือสายเลือดของ อับราฮัม แวนเฮลซิ่ง นักล่าแวมไพร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ผู้ที่เคยต่อสู้กับเคาน์แดร็กคูล่ามาแล้วในอดีต ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจออกเดินทางค้นหาความลับของตระกูลที่เธอไม่เคยล่วงรู้มาก่อน การเดินทางของเธอครั้งนี้จะจบลงอย่างไร และเธอจะสามารถช่วยมนุษย์ให้เหลือรอดจากโลกที่ถูกพวกแวมไพร์ปกครองได้หรือไม่ สามารถติดตามชมได้ที่ Netflixความเห็นโดยรวมทั้ง 4 ซีซั่นจากผู้เขียนการดำเนินเรื่อง:ซีซั่นที่ 1 การดำเนินเรื่องและการลำดับเรื่องราวพอใช้จะมีอืดอาดบ้างเล็กน้อย ใส่ประเด็นดราม่าเข้ามาบ่อยและค่อนข้างเยอะเกินไปในช่วงต้น ๆ พล็อตเรื่องน่าสนใจแต่ปูพื้นตัวละครสมทบที่ตายไปน้อยเลยไม่อินกับความสูญเสียสักเท่าไหร่ ปูพื้นตัวละครวาเนสซ่าได้น่าสนใจชวนให้ติดตาม เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อนเข้าใจง่ายซีซั่นที่ 2 สนุกมากเนื้อเรื่องเริ่มซับซ้อนชวนติดตามและมีการปล่อยตัวละครใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ อาทิ สการ์เล็ต บทน้องสาวของวาเนสซ่าซึ่งเป็นตัวละครโปรดที่สุดของ XiaoJay และยังได้รับความนิยมจากแฟนซีรีส์เยอะมากและอีกตัวละครโปรดของ XiaoJay อย่างจูเลียสก็มีบทบาทน่าสนใจมากขึ้น ตัวละครสมทบตัวอื่น ๆ ก็บทดีเกือบทุกคน มีฉากแอคชั่นเจ๋ง ๆ มาให้ได้ชมกันมากขึ้น ซีซั่นที่ 3 โดยส่วนมากซีรีส์ที่ทำหลายซีซั่นจะเจอปัญหาการออกทะเลบ้าง เนื้อหาจำเจบ้าง แต่ซีซั่นที่ 3 ของ Van Helsing ถือว่าทำออกมาได้ดีพอสมควร โดยการดำเนินเรื่องในซีซั่นที่ 3 นี้เน้นไปที่ต้นกำเนิดของ วาเนสซ่า ถือว่าทำออกมาดีไม่จำเจไอเดียแปลกใหม่ดี มีบางจุดที่ออกทะเลไปนิด ๆ หน่อย ๆ มีความแฟนตาซีมากกว่าสองซีซั่นก่อน ทุกอย่างดีหมดแต่มาพังเพราะตอนจบ XiaoJay กล้าพูดได้เต็มปากว่าเกลียดตอนจบซีซั่นนี้มากค่ะซีซั่นที่ 4 ซีซั่นนี้ก็ปล่อยตัวละครใหม่ออกมาเพิ่มเยอะเช่นเดียวกับซีซั่นที่แล้ว โชว์ความโรคจิตของตัวร้ายที่มากันยกทีม มีการหักเหลี่ยมเฉือนคมกันบ้างแต่ก็ยังทำออกมาไม่สุดเรารู้สึกว่าสามารถทำออกมาได้ดีกว่านี้ การดำเนินเรื่องโดยรวมถือว่าดีมีประเด็นใหม่ ๆ ไอเดียใหม่ ๆ ความแฟนตาซีจัดหนักจัดเต็มเลยซีซั่นนี้ XiaoJay เกลียดตอนจบอีกแล้วค่ะนักแสดง: นักแสดงแทบทุกคนเข้าถึงบทบาท พัฒนาการตัวละครค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อาทิ บทของแซมตัวร้ายโรคจิตที่ค่อยๆพัฒนามาเป็นตัวร้ายระดับบอส แสดงความโรคจิตได้สมจริงมาก ๆ จน XiaoJay เวลาดูเขาแล้วรู้สึกหลอนขึ้นมาจริง ๆ ส่วนบทนางเอกของเรื่อง Kelly ก็แสดงออกมาได้ดีทำให้บทนี้โดดเด่นไม่ดร็อปสามารถดึงดูดความสนใจให้ผู้ชมโฟกัสไปที่เธอได้ จุดเด่นของตัวละครในแต่ละตัวที่ XiaoJay ขอชมทีมผู้สร้างเลยคือการพลิกผันบทจากตัวดีไปตัวร้าย จากตัวร้ายไปตัวดีทำออกได้ค่อนข้างถูกใจเลยค่ะเครื่องแต่งกาย & Make up: เครื่องแต่งกายเหมาะสม การแต่งหน้าคือสมจริงมากยอมรับทีม Make up พวกคราบเลือดแห้งกรังหรือแม้กระทั่งใบหน้าของแวมไพร์ที่ถูกปลุกขึ้นมาจากโลง การแต่งหน้าของตัวละครแซมตอนที่กลายเป็นผู้อาวุโสแล้วสมจริงราวกับว่ามันมีสัตว์ประหลาดแบบนี้อยู่จริง ๆ บนโลกนี้โลเคชั่นและบรรยากาศ: บรรยากาศและโลเคชั่นสมจริงมาก ๆ รังพวกผีดิบก็ทำออกมาได้น่าขยะแขยงจริง ๆ มีฉากหนึ่งที่เมียของแฟลชถูกจับไปขังกรงที่โรงงานชำแหละมนุษย์คือมันสมจริงมาก มีเศษชิ้นส่วนมนุษย์เกลื่อนคือดูแล้วมันกระอกกระอ่วนขยะแขยงจนอยากจะอ้วกตามไปด้วยซีรีส์เรื่องนี้โดยรวมทุกอย่างถือว่าดีเลย ไอเดียดีกว่าซีรีส์ล่าผีดิบทั่ว ๆ ไป อาจจะมีการใส่ประเด็นดราม่าประปรายมาบ้างและทำตอนจบออกมาฆ่าคนดูบ้าง แต่สำหรับ XiaoJay แล้วถือคุ้มค่าที่จะดูซ้ำค่ะ ตัวซีรีส์มีเนื้อหาที่รุนแรง มีการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมและมีเนื้อหาเรื่องเพศบ้างไม่เหมาะสำหรับเด็กนะคะ หากท่านใดเป็นคอซีรีส์แวมไพร์หรือแนวเอาชีวิตรอดแล้วล่ะก็ต้องถูกใจแน่นอนค่ะ สามารถรับชมได้ที่ Netflix หากท่านใดยังไม่มี Application สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store สำหรับผู้ใช้ ios และ Google play store สำหรับผู้ใช้ Android ได้เลยค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความของ XiaoJay นะคะเอาไว้เจอกันบทความหน้า สวัสดีค่ะ ขอบคุณภาพปกจาก Syfy, ภาพที่ 1 จาก Netflix, ภาพที่ 2-7, ภาพที่ 8-9 จาก Netflix