โดราเอม่อน และหัวใจอันใสสะอาดของโนบิตะ หุ่นยนต์แมวอ้วนสีฟ้า นามว่า โดราเอม่อน จากปลายปากกาของนักเขียนการ์ตูนชาวญี่ปุ่น มิสเตอร์ ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ ฉบับมังงะอยู่คู่กับนักอ่านการ์ตูนทั่วโลกเป็นระยะเวลาผ่านมาถึง 50 ปี ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าอายุของแฟนการ์ตูนหลายท่าน นอกจากนี้แฟนการ์ตูนยุคใหม่หลาย ๆ ท่านยังมิได้ติดตามผลงานมากนัก เนื่องจาก มังงะยุคปัจจุบัน เช่น วันพีช ดาบพิฆาตอสูร เข้ามาทดแทน ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้นร่วมสมัย ตัวละครหลากหลาย ความจริงจังของบท ฉากแอคชั่นขั้นเทพ ถึงขั้นต้องนำสร้างในฉบับภาพยนตร์ และฉายในโรงหนังระบบที่จัดว่าดีที่สุดระบบหนึ่งอย่าง IMAX STAND BY ME Doraemon 2 ปรับเปลี่ยนจากการ์ตูน 2 มิติ มาเป็นการ์ตูน 3 มิติ เช่นเดียวกันภาคแรกในชื่อเดียวกันนี้ รูปแบบการนำเสนอที่หลายท่านอาจจะไม่ได้คุ้นเคยหากไม่ได้ผ่านการรับชมจากภาคแรก เนื่องจากยุคปัจจุบันเทคโนโลยีการสร้างภาพยนตร์พัฒนามากขึ้น การนำเสนอมุมมองที่มีมิติสามารถดึงความรู้สึกของคนดูให้เหมือนเข้าไปนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวละครที่กำลังโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มอย่างน่าอัศจรรย์ ภาพยนตร์นำเสนอเรื่องราวของ ด.ช. โนบิ โนบิตะ และเพื่อนรักอย่างโดราเอม่อน พร้อมทั้งพองเพื่อนจากในอดีตเช่นเดิม เนื้อเรื่องยังคงเดินทางด้วยแบบฉบับเหมือนที่ผ่านมา หาได้มีอะไรที่แปลกใหม่หรือจุดดึงดูดพิเศษที่จะสามารถเรียกคนดูกลุ่มใหม่ ๆ นอกเหนือจากแฟนการ์ตูนรุ่นเก่าไม่ แต่เป็นการนำเสนอด้วยจุดแข็งของการ์ตูนชุดนี้เอง พร้อมในแนวทางที่เป็นมาตลอดตั้งแต่อดีต เพียงแต่ผสมผสานความร่วมสมัยให้ทันยุคปัจจุบันเพียงเท่านั้น ภาพยนตร์หยิบยกความสัมพันธ์ของคำว่าเพื่อนมาใช้ได้เฉียบคมเสมอ สำหรับการ์ตูนโดราเอม่อน หากเรามองย้อนไปในอดีต การ์ตูนที่ตัวเอกเป็นเด็กขี้แย เรียนไม่เก่ง ไม่กล้าสู้คน ไม่มีอะไรที่เป็นจุดเด่น ไม่มีจุดแข็งใด ๆ นามว่า โนบิ โนบิตะ และแวดล้อมด้วยเพื่อนจอมเกเรอย่าง ไจแอนท์ ผู้มีร่างกายอันอ้วนท้วนและแข็งแรง ประกอบกับตัวแสบหรือลิ่วล้อที่เกิดมาบนกองเงินกองทองอย่างเด็กชายผอมกะหร่อง ปากแหลม อย่าง ซูเนโอะ แถมยังมีสาวน้อยน่ารักจิตใจงดงามอย่าง ชิซูกะ เข้ามาสร้างความแตกต่างให้กับกลุ่มเพื่อนชายล้วน ปัจจัยเหล่านี้คือพื้นฐานของตัวละครหลัก ซึ่งผู้เขียนได้เนรมิตตัวละครสำคัญที่นั่งอยู่ในหัวใจเด็ก ๆ หลายคนมาจนถึงทุกวันนี้ กับหุ่นยนต์แห่งโลกอนาคต นามว่า โดราเอม่อน เพื่อนำพาโครงเรื่องทั้งหมดเดินทางมาตลอดระยะเวลา 50 ปี ภาพยนตร์มีประเด็นที่สามารถสัมผัสถึงจิตใจผู้ชมหลายด้าน ขอเริ่มต้นด้วยประเด็นคำว่า ครอบครัว การนำเสนอวัฒนธรรมภายในครอบครัวหนึ่ง ซึ่ง คุณพ่อทำงานออฟฟิศ คุณแม่เป็นเพียงแม่บ้าน มีคุณย่าพักอาศัยในบ้านร่วมกันทั้งหมด ทุกคนต่างตั้งความหวังกับลูกชายคนแรก คาดหวังว่าลูกชายคนนี้จะเป็นอนาคตของครอบครัว เป็นลูกที่ดี เรียนหนังสือเก่ง สามารถเล่นกีฬาเก่ง เป็นนักวิชาการ เป็นนักกีฬา หรือเป็นอะไรก็ได้ที่สร้างประโยชน์ให้กับสังคม สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานของทุกครอบครัว ที่แสดงออกมาในลักษณะการเคี่ยวเข็ญให้โนบิตะตั้งใจเรียนหนังสือของผู้เป็นแม่ หรือความคิดของผู้เป็นพ่อที่มีนัยยะจากความหมายของชื่อตัวละครเอก โนบิ โนบิตะ ซึ่งมีความหมายตามสิ่งที่ผู้เป็นพ่อได้คาดหวังไว้ตั้งแต่ยังบุตรของตนยังไม่ได้กำเนิดหรือลืมตามองโลกใบนี้ พร้อมทั้งนำเสนอความคิดของตัวเอกในฐานะลูกชายที่อายุยังน้อย และมีคำถามในใจมากมาย ถึงขั้นที่คิดว่าตัวเองใช้ลูกของบ้านหลังนี้หรือไม่ การมองต่างมุมของพ่อแม่ และลูก ยังเป็นปัญหาสำหรับทุกครอบครัวในอดีตและยิ่งขัดแย้งมากขึ้นในยุคปัจจุบัน เพียงแต่ความอบอุ่น และพื้นฐานของความรักในครอบครัวของโนบิตะ เป็นสายสัมพันธ์ให้ทุกตัวละครผูกพันธ์และสามารถผ่านพ้นปัญหาต่าง ๆ มาด้วยดีเสมอมา การนำเสนอคำว่า เพื่อน หรือภาคภาษาไทยที่จะเน้นคำว่า เพื่อนกันตลอดไป เป็นอีกหัวใจชูโรงสำหรับการ์ตูนชุดนี้ เนื่องจากการผจญภัยเกือบทั้งเป็นของตัวละครหลัก 5 คน ประกอบด้วย โดราเอม่อน โนบิตะ ไจแอนด์ ซูนิโอะ และชิซูกะ นั่นเอง การหยิบยกความขัดแย้ง การกลั่นแกล้งกันของเด็กตามอายุเป็นเรื่องปกติที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เนื่องจากความไร้เดียงสาของเด็ก หาใช่เจตนาร้าย เฉกเช่นปัจจุบัน ที่ถึงขั้นนำคำว่า บูลลี่ ซึ่งมีความก้าวร้าวอย่างมาก เด็กก็คือเด็กแกล้งกันก็แค่ร้องไห้ แค่บาดเจ็บเล็กน้อย หาได้เจตนาทำร้ายร่างกาย หรือทำร้ายจิตใจกันจนถึงขั้นให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้ สิ่งนี้ถือเป็นเรื่องเลวร้ายอย่างมาก และไม่สมควรที่สังคมจะมองข้ามปัญหาเช่นนี้ สำหรับบทสรุปของคำว่า เพื่อนกันตลอดไป ภาพยนตร์ได้ถ่ายทอดมาในบทสรุปทุกครั้งของภาคเดอะมูฟวี่ การผจญภัย การพบเจอสถานการณ์ที่ทุกคนต้องช่วยเหลือกันและกัน เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ภาพยนตร์ตั้งใจจะสอดแทรกให้ผู้ชมเข้าใจความหมายของคำว่า เพื่อนแท้ ที่พร้อมจะเสียสละ พร้อมจะช่วยเหลือ พร้อมจะเติบโตไปด้วยกัน ถึงแม้จะมีปัญหาขัดแย้งกันก็จะไม่ทิ้งกันตลอดไป คนที่รักเรา ถูกหยิบยกขึ้นในภาพยนตร์ในภาคล่าสุดนี้ ปัจจุบันในวันที่เราเติบโตขึ้น จนกระทั่งสามารถก้าวเท้าออกจากบ้านด้วยตนเองในแต่ละวัน เราอาจจะไปเรียนหนังสือที่มีเพื่อนร่วมชั้นมากมาย เราอาจจะออกมาทำงานโดยมีเพื่อนร่วมงานหลากหลายแผนก เราอาจจะมีเวลาอาหารและพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวในแต่ละวันกับผู้คนในสังคมที่เราอาศัยอยู่ แต่ยิ่งเราเติบโตขึ้นมากเท่าไหร่ เวลาของคนที่รักเราที่บ้านย่อมน้อยลงตามไปด้วย นอกเหนือจากคำว่าพ่อและแม่ ภาพยนตร์นำเสนอความรักของคุณย่า ที่มีต่อหลาน ในรูปแบบที่จับต้องได้ มันเป็นพื้นฐานของผู้สูงอายุที่ต้องการเพียงแค่เห็นลูกหลานมีอนาคตที่ดี มีครอบครัวที่ดี เพียงแค่ต้องการจะอยู่กับลูกหลานให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ พร้อมทั้งนำเสนอความเชื่อใจ และเชื่อมั่นในตัวหลานของตน เนื้อเรื่องบางฉากมีความต้องการใช้ตัวละครเอก โนบิตะ เป็นสัญลักษณ์การแสดงของพฤติกรรมของเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนในครอบครัวโดยตรง และต้องการนำเสนอให้ เด็กรุ่นใหม่มองย้อนผลลัพธ์การกระทำในอดีตที่เคยทำให้พ่อ ให้แม่ หรือให้ญาติผู้ใหญ่ผิดหวัง เสียใจ แต่ด้วยเหตุใด ท่านทั้งหลายเหล่านั้นยังคงรักและยังอยู่กับพวกเรามาโดยตลอด ภาพยนตร์นำเสนอบทสรุปได้จริงใจ งดงาม และตรงประเด็นอย่างมาก สำหรับฉากสุดท้ายที่มองผ่านนัยน์ตาของโนบิตะในฐานะเจ้าบ่าว หากผู้ชมไม่ได้มีจิตใจที่แข็งกระด้าง ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกหากจะมีสายน้ำเล็ก ๆ จากนัยน์ตาของท่านค่อย ๆ ไหลรินผ่านแก้มทั้งสองข้างและหยดลงบนเบาะที่ท่านนั่ง ถึงแม้ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศในโรงภาพยนตร์จะมีอุณหภูมิต่ำเพียงใด ก็ไม่สามารถทำให้ความอบอุ่นของทุกตัวละครในจอภาพยนตร์เหน็บหนาวตามไปด้วย คนที่เรารัก ภาพยนตร์ชุดนี้เติบโตมากับตัวละครหลัก จนถึงวันที่ตัวละครในวัยเด็กได้เติบโตสู่วันทำงาน และต้องตัดสินใจสร้างครอบครัว โนบิตะ และ ชิซูกะ เป็นสองตัวละครหลักตั้งแต่วันแรกที่การ์ตูนชุดนี้ออกสู่สาธารณชน จนถึงปัจจุบันยังไม่มีตัวละครหญิงใด ๆ จะมาสอดแทรกความเป็นนางเอกของชิซูกะได้ ชิซูกะ เด็กผู้หญิงน่ารักมาก ๆ ที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนในจิตใจ การมองโลกในแง่ดี แต่มีความเข็มแข็งอย่างมากในสถานการณ์ที่จำเป็น และต้องประสบเจอกับปัญหาที่ต้องแก้ไข เติบโตมาด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจชายคนนึง และศรัทธาในความรักที่ตนมีให้ชายคนนั้น แบบไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เธอพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเขา เธอพร้อมที่จะเดินทางร่วมทางไปกับเขา เธอพร้อมจะฝ่าฝันทุกปัญหาที่จะผ่านเข้ามาโดยไม่ปล่อยมือจากเขา เพราะเธอใช้หัวใจของเธอสัมผัสหัวใจของเขามากกว่าใช้รูปลักษณ์ภายนอกเป็นปัจจัยที่ทำให้เธอตัดสินใจเลือกหรือไม่เลือกเขา ซึ่งต่างจากผู้หญิงยุคปัจจุบัน เรื่องของหัวใจสำคัญก็จริง เพียงแต่การตัดสินใจหาใช่การใช้หัวใจนำทางเพียงอย่างเดียว คำว่าใช้สมองเป็นสิ่งจำเป็น หากผู้หญิงคนนึงจะตัดสินใจเลือกใครซักคน ต้องมองถึงอนาคตของตัวเองไปพร้อม ๆ กัน บริบททางสังคมตรงนี้ส่งผลให้คำว่า รักแท้ ในยุคปัจจุบัน ค่อย ๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา การกระทำบางอย่างของ โนบิตะ ด้วยเหตุผลที่มองว่าตัวเองไม่ดีพอสำหรับ ชิซูกะ เป็นการนำเสนอความรับผิดชอบของผู้ชายคนนึงในวันที่ต้องตัดสินใจเป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องตัดสินใจที่จะดูแลใครซักคนไปตลอดชีวิต ซึ่งในความคิดของ โนบิตะ หากเรายังไม่ดีพอ หากเรายังไม่แน่ใจในความสามารถของตัวเอง และยังไม่เชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองเป็น เราก็ยังไม่สามารถจูงมือเธอคนนั้นเข้าประตูวิวาห์ได้ ต่างจากโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งการตัดสินใจเพียงชั่วข้ามคืน การตัดสินใจเพียงแค่ความพึงพอใจของคนสองคน หากโชคดีก็สามารถเดินต่อไปกันได้ตลอด หากโชคร้ายทุกความสัมพันธ์ก็มีความจำเป็นต้องยุติ ความรักไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเสมอไป บางคนใช้เวลาทั้งชีวิต บางคนใช้เวลาไม่กี่นาที ในการตัดสินใจ และผลลัพธ์ที่ออกมา ก็ไม่สามารถหยิบยกคู่ใดที่จะเป็นบรรทัดฐานให้คู่อื่นได้เช่นกัน ฉากสายรุ้งภายหลังสายฝนจากภาพยนตร์ และประโยคคำพูดอันเรียบง่ายของ โนบิ โนบิตะ ได้ตอบโจทก์ทั้งหมดในจิตใจของผู้ชายคนนึง ที่รักผู้หญิงคนนึง อย่างหมดหัวใจ และเป็นภาพที่จะตราตรึงในความรู้สึกของผู้ชมไปตลอดสำหรับการ์ตูนชุดนี้ ความทรงจำ มนุษย์ทุกคนมีความทรงจำที่ดี และไม่ดี ผสมปนเปกันไป เพราะชีวิตไม่มีคำว่าสมบูรณ์แบบตลอดเวลา ชีวิตของ โนบิ โนบิตะ ก็เช่นเดียวกัน เพียงแต่ตัวเอกของเรื่องเลือกที่จะจดจำความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างเพื่อน เลือกที่จะจดจำความอบอุ่นของคนในครอบครัว ความทรงจำเหล่านี้เป็นสิ่งมีที่ค่า เป็นสิ่งที่จะผลักดันตัวของเรา ในวันที่เราท้อแท้ ในวันที่มีปัญหามากมายผ่านเข้ามาในชีวิต ภาพยนตร์นำเสนอการเก็บรักษาความทรงจำได้อย่างประณีต ถึงแม้จะไม่ได้ลุ่มลึกถึงก้นบึ้งของจิตใจก็ตาม สำหรับการกระทำของตัวละครได้สอนให้ผู้ชมหวงแหนความทรงจำที่ผ่านมา ความทรงจำที่ดี เราสามารถคิดถึงมันได้บ่อย ๆ เพราะมันคือกำลังใจที่ทำให้เราลุกขึ้นยืนในวันที่ท้อแท้ ทำให้เรามีความสุขจากภายในกับวันที่แสนเงียบเหงา ทำให้หัวใจเรายิ้มได้หากคิดถึงใครซักคนที่เขาไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ และเช่นเดียวกัน ความทรงจำที่แย่ ๆ คือสิ่งที่เรานำมาเรียนรู้ และเป็นบทเรียนในการก้าวเดินไปข้างหน้า โดยไม่จำเป็นที่จะต้องคิดถึงมัน พร้อมทั้งสามารถปล่อยมันออกจากไปจากความคิดของเราได้ ในวันที่เราได้แก้ไขด้วยการกระทำในอนาคตของเราแล้ว การไม่ทิ้งอดีต ก็ไม่สามารถเริ่มต้นอนาคต เป็นประโยคที่มีนัยยะในตัวเองอย่างชัดเจน ผู้คนมากมายยังยึดติดกับอดีต แต่ก็อยากมีอนาคตในเวลาเดียวกัน บางคนยังไม่ปล่อยอดีต แต่ก็คาดหวังว่าอนาคตจะมาลบล้างอดีต หากมองภาพที่ชัดเจน อดีตมันผ่านมาแล้ว ก็ปล่อยให้มันผ่านไป ไม่มีใครกลับไปแก้ไขอดีตได้ ถึงแม้การมี ไทม์แมชชีน ของวิเศษจากระเป๋าโดราเอมอน ตัวละครยังไม่สามารถแก้ไขทุกความผิดพลาดในอดีตได้เสมอไป ดังนั้นเพียงแค่เราตั้งใจทำทุกอย่างอนาคตให้ดีก็พอ อย่ากลัวที่จะปล่อยวาง อย่ากลัวที่จะก้าวเดิน และอย่ากลัวอนาคตที่ยังมาไม่ถึง สิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือ ใจของตัวเราเอง เฉกเช่น โนบิ โนบิตะ เด็กขี้แย ที่พึ่งพาโดราเอม่อนมาตลอดระยะเวลา 50 ปี ในวันที่ชีวิตต้องตัดสินใจเลือกเดินด้วยตัวเอง เขาต้องยอมปล่อยเพื่อนรักที่ดีที่สุดให้ออกจากชีวิตเขาไป เขาต้องตัดสินใจเลือกคนที่เขารัก เลือกที่จะเป็นผู้ชายที่มีความเข้มแข็งพอและสามารถดูแล ชิซูกะ คนนี้ให้มีความสุขที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เขายังคงรักษามิตรภาพและคำว่าเพื่อนกันตลอดไป เพราะไจแอนท์ และซูนิโอะ ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีและเติบโตด้วยกันมาถึงปัจจุบัน นอกจากนี้สิ่งสุดท้ายที่ โนบิ โนบิตะ ไม่เคยหลงลืม ครอบครัว คือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาเสมอมา เพราะครอบครัวคือหัวใจสำคัญที่ส่งเสริมและสั่งสอนให้เขาเติบโตเป็นผู้ชายที่ดี และพร้อมจะสร้างอนาคตที่ดีร่วมกับเจ้าสาวในชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ที่ยืนอยู่เคียงข้างเขาตั้งแต่ 3 ขวบจวบจนปัจจุบัน.. บทสรุปของ STAND BY ME Doraemon 2 ถึงแม้จะไม่ถึงกับเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ตราตรึงใจในระดับ Master Piece แต่ยังคงอยู่ในมาตรฐานการ์ตูนเชิงสร้างสรรค์ นำเสนอเนื้อเรื่องได้อย่างเฉียบคมตามยุคสมัยปัจจุบัน ระยะเวลาตลอด 50 ปีที่ผ่านมา กาลเวลาได้เดินทางอย่างรวดเร็วมาจนถึงบทสรุป วันนี้คงถึงเวลาที่ต้องปิดตายลิ้นชักโต๊ะทำการบ้านของ ด.ช.โนบิ โนบิตะ พร้อม ๆ กับปิดสวิตช์เครื่องไทม์แมชชีน เพราะไม่มีอดีตที่จำเป็นต้องแก้ไข เพราะนับจากนี้ไปอนาคตคือสิ่งที่เราสามารถสร้างด้วยสองมือของตัวเราเอง โบกมือลาละนะเจ้าเพื่อนยากที่อยู่ด้วยกันมานานแสนนาน ทานุกิ ตัวสีฟ้า โดราเอม่อน... Four Pitures From Public Domain Major Cineplex Group For Promote The Movieขอบคุณรูปภาพหน้าปก https://doraemon-3d.com/pc.htmlรูปภาพประกอบที่ 1 และ 2 『STAND BY ME ドラえもん 2』スペシャルPV ~菅田将暉「虹」ver.~รูปภาพประกอบที่ 3 STAND BY ME 2 DORAEMON (Official Trailer 2) - Exclusively at GSCinemas 5 March 2021จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !