วันนี้เรามีเวลาว่าง จึงมาดู ดาบพิฆาตอสูร ฉบับฉายโรงภาพยนตร์ โดยใช้ชื่อภาคว่า “ปาฏิหาริย์แห่งสายสัมพันธ์ สู่การสั่งสอนของเสาหลัก” ชื่อค่อนข้างยาวมาก ๆ สำหรับภาคนี้และส่วนตัวเราพึ่งมาติดตามจักรวาลอนิเมะซีรีส์เรื่องนี้เพราะทนกระแสความแมสไม่ไหว เพียงไม่นานมานี้นี่เอง และรู้สึกว่าคิดถูกมาก ๆ สำหรับการสละเวลาว่างไล่ดูเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนถึงภาคปัจจุบัน โดยในภาคนี้ก็จะเป็นการนำตอนสุดท้ายของฉบับอนิเมะซีรีส์ ซีซัน 3 สู่หมู่บ้านช่างตีดาบ ควบรวมกับตอนใหม่ของอนิเมะซีรีส์ ซีซัน 4 สู่การสั่งสอนของเสาหลัก เล่าเรื่องราวภายใน 95 นาที ที่ก็ต้องบอกว่าเป็นการเปิดเรื่องราวใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นองก์สาม องก์สุดท้ายของเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจโดยคอนเซ็ปต์หลัก ๆ จากดาบพิฆาตอสูรที่เราจับได้มาตลอด คือ ธรรมะย่อมชนะอธรรม เรื่องราวมีความคล้ายกับวรรณคดีไทยที่ดัดแปลงมาจากอินเดียอย่าง รามเกียรติ์ ที่จะมีฝั่งพระรามที่เป็นตัวแทนของธรรมะ คอยปราบเหล่าศัตรูที่ค่อย ๆ มีพละกำลังและเวทย์กลมนตราที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จากตัวละครยักษ์ฝั่งทศกัณฐ์ โดยมีปมกันมาจากเรื่องราวในอดีต เช่นเดียวกับดาบพิฆาตอสูรเลย คือปมหลังของตัวละครคากายะและมุซัน ซึ่งฝั่งของคากายะหรือฝั่งของตัวละครพระเอก ทันจิโร่ ก็ค่อย ๆ ตามเก็บเหล่าอสูร 12 จันทราที่เมื่อเลขยิ่งน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งจะตามเก็บกวาดยากขึ้นเท่านั้น โดยมีเป้าหมายใหญ่ ๆ สุดท้ายคือ มุซัน เช่นเดียวกับพระรามที่ต้องไปปราบทศกัณฐ์นั่นเองซึ่งการปรากฏตัวของอสูรที่สามารถต้านทานแสงตะวันได้นั้น ถือเป็นจุดเทิร์นสู่องก์สุดท้ายของเรื่องราวอย่างแท้จริง เพราะมุซันใฝ่หาสิ่งนี้มาตลอดชีวิตอสูรของเขา การที่เขาสร้างสมุนขึ้นมากมาย ก็เพราะเขานั้นยังไม่ได้เป็นอมตะอย่างแท้จริงอย่างที่ใจปรารถนา เพียงแค่กลางคืนที่ได้ใช้ชีวิตภายนอกโลกกว้าง กลางวันยังคงต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ พลังอำนาจอันใดที่มีก็ไม่สามารถใช้การได้อย่างเปิดเผย ซึ่งเป็นจุดอ่อนแอของอสูรที่สุด ด้อยกว่ามนุษย์ที่เป็นคนธรรมดาเสียอีก หากดอกไม้ที่คิดว่าจะช่วยได้ก็ยังหาไม่เจอ การที่เนซึโกะสามารถยืนอยู่ท่ามกลางแดดแรงจัดจากแสงอาทิตย์ได้นั้น เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อและอัศจรรย์ใจต่อทุกสายตาทั้งฝั่งนักดาบและเหล่าอสูรอย่างเลี่ยงไม่ได้ อันจะนำไปสู่มหาศึกสงครามการแย่งชิงตัวเนซึโกะในอนาคต ความรู้สึกหลังดูจบ เรายังรู้สึกว่าการบิลด์ตัวของ เนซึโกะ ที่โดนแสงตะวัน ก่อนที่จะให้ทันจิโร่เลือกว่าจะช่วยชาวบ้านจากอสูรหรือปกป้องน้องสาวจากแสงแดดที่แผดเผา เรายังอินเหมือนเดิม เหมือนความรู้สึกแรกที่ได้เห็นผ่านจอทีวี เป็นซีนที่เราประทับใจที่สุดแล้วสำหรับฉากจบในอนิเมะซีรีส์ซีซัน 3 เพราะภาพรวมส่วนตัวมองว่าดรอปลงมาก ๆ จากภาคก่อน ๆ ส่วนตอนที่ใช้เปิดฉากในภาค 4 ภาคใหม่ล่าสุดที่เราจะได้ดูเร็ว ๆ นี้นั้น โหพี่! นี่มันแก๊งอเวนเจอร์สชัด ๆ อลังการมาก ๆ สำหรับการกลับมารวมตัวกันของเสาหลักที่เหลืออยู่ และที่เคยเป็น เพื่อสั่งสอนหน่วยพิฆาตอสูร เพื่อที่จะทำให้แข็งแกร่งยิ่งยิ่งขึ้น พร้อมรับมือกับอสูร 12 จันทราที่เหลือที่มีแต่ตัวที่น่ากลัว ๆ และเก่งกาจ ไม่ใช่เพียงพลังที่สูงขึ้น แต่ความที่เป็นมนุษย์มากขึ้นยิ่งทำให้มีความเจ้าเล่ห์ของเหล่าอสูรเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งในตอนนี้หลังจากปรากฏตัวของอสูรที่ทานแสงตะวันได้ การปรากฏตัวของเหล่าสูรฝั่งร้ายก็น้อยลงมาก ๆ แต่ก็ไม่เป็นที่น่าแปลกใจสำหรับฝั่งของทันจิโร่ที่รู้ดีอยู่แล้วว่าคงซุ่มวางแผนชิงตัวเนซึโกะเป็นการเปิดฉากองก์สุดท้ายที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ จนเราคาดหวังสำหรับภาค 4 นี้มาก ๆ แถมตัวละครต่าง ๆ ที่ถูกนำมาเสนอให้ได้ดูแล้วนั้นก็น่าสนใจทุก ๆ ตัวละครจนแอบกลัวว่าพระเอกของเรื่องราวอย่างน้องทันจิโร่จะดรอปลงไปมาก ๆ เลยจริง ๆ เพราะน้องหัวหมูกับน้องหัวเหลืองก็กลับมาสร้างสีสันแล้ว เหล่าเสาหลักก็คาแรคเตอร์ชัดเจน สาดสีสันใส่กันไม่ยั้งจนกลบความโลกสวยของทันจิโร่ไปซะสนิท ซึ่งก็ต้องตามเอาใจช่วยทันจิโร่ ว่าจะมีไม้เด็ดไม้ไหนงัดออกมา เพื่อเอาชนะใจคนดูอย่างเรา ๆ ให้กลับไปเหลียวแลได้หรือไม่ จากการที่จะมีตัวละครที่เป็นเอกลักษณ์เยอะถึงเพียงนี้ในภาคที่จะมาถึงโดยสรุปก็ประมาณนี้ ที่เราจับความรู้สึกและอารมณ์ของตัวเองต่ออนิเมะเรื่องนี้ได้ แนะนำว่าใครที่ติดตามเรื่องมาตลอด ไม่ควรจะพลาดทุก ๆ ภาคที่ได้นำมาฉายโรง เพราะความรู้สึกนั้นแตกต่างกันจากการรับชมที่บ้านมาก ๆ แถมถ้าใครเป็นสายอนิเมะที่ชอบรีแอคแล้วนั้น มาที่โรงภาพยนตร์คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะคุณจะเจอเพื่อน ๆ แนวเดียวกันเยอะแยะ สำหรับดาบพิฆาตอสูร ภาคปาฏิหาริย์แห่งสายสัมพันธ์ สู่การสั่งสอนของเสาหลัก ถือว่าประสบความสำเร็จมาก ๆ เพราะทำให้เรารู้สึกว่าอยากจะรีบดูตอนต่อไปในเร็ว ๆ นี้เลย เหมือนกับตอนที่นำตอนแรกของภาคสู่หมูบ้านช่างตีดาบมาฉายในโรงภาพยนตร์ก็ไม่ผิด ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆแหล่งที่มา Twitter (X) Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba (English)ภาพหน้าปก ภาพประกอบ ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 4เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !