Series ReviewVivant ตายไม่ได้ (2023)เดินหน้าเร็วแรงด้วยความสงสัยทำให้ดูสนุกลุ้นตลอดเวลา อาจไม่ยากต่อการคาดเดาแต่พลิกไปพลิกมาหลายร้อยตลบอันที่จริงผู้เขียนจะมีนิสัยส่วนตัวในการเลือกดูหนังหรือซีรีส์อยู่อย่างคือไม่ค่อยสนใจคำวิจารณ์หรือกระแสใดๆกล่าวคือไม่อามาเป็นปัจจัยหลักในการเลือกดู นั่นหมายความว่าการเลือกดูหนังหรือซีรีส์ของผู้เขียนจะออกแนวตามใจฉันอย่างที่ท่านผู้อ่านที่ติดตามกันมานานตั้งแต่เขียนลงเพจดูไปบ่นไปอย่างเดียวเมื่อก่อน ทำให้มีงานเขียนถึงหนังหรือซีรีส์ที่ต่อให้ไม่มีคนอ่านหรือไม่มีคนดูหนังหรือซีรีส์เรื่องนั้นๆแต่ถ้าผู้เขียนชอบและประทับใจกระทั่งมีแง่มุมใดอยากบอกต่อก็จะเขียน กระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าความนิยมหรือกระแส (ที่เป็นคนละเรื่องกับคะแนนตามเว็บไซต์ต่างๆ) ก็มีผลกับผู้เขียนอยู่บ้างเช่นกันเพราะบางครั้งก็มีอาการคันหัวใจสงสัยใคร่รู้ว่าทำไมหนังหรือซีรีส์เรื่องนั้นๆจึงได้รับความนิยม และส่วนใหญ่จะเป็นของต่างประเทศเพราะข้อมูลข่าวสารจะมีเพียงจำกัดเช่นเดียวกับซีรีส์ญี่ปุ่นที่ออกอากาศทางโทรทัศน์บ้านเขาเรื่องนี้ ที่แม้ผู้เขียนจะชอบดูซีรีส์ญี่ปุ่นไม่น้อยแต่ความน่าสนใจของเรื่องนี้มาจากการที่นี่คือซีรีส์ฤดูร้อนที่ได้รับความนิยมสูงสุดในญี่ปุ่นทำให้ผู้เขียนอยากรู้จึงต้องมาพิสูจน์ว่าเพราะอะไรยูสุเกะ โนกิ (มาซาโตะ ซากาอิ) คือพนักงานบริษัทที่เป็นคนธรรมดาที่สุดไม่ได้เลื่อนขั้นมานานและเหมือนไร้ตัวตนในที่ทำงานประมาณพวกขี้แพ้ วันหนึ่งมีการโอนเงินลงทุนให้บริษัทข้ามชาติในประเทศในเอเชียกลางที่ชื่อว่าบอลคาจำนวนสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ ทว่าการโอนเงินครั้งนั้นดันมีความผิดพลาดเพราะเลขศูนย์มันงอกออกมาหนึ่งตัวทำให้จากสิบกลายเป็นร้อยล้านดอลลาร์หาใช่เยน แล้วทุกเบาะแสก็ชี้มาที่ยูสุเกะ โนกิเขาจึงเดินทางไปประเทศบอลคาเพื่อติดต่อกับบริษัทที่รับโอนเงินไปก็พบว่าเงินได้ถูกยักย้ายถ่ายเทไปแล้ว จนกระทั่งเขาตามมาถึงบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งในบอลคาก็กลายเป็นว่าเขาเกือบตายจากการระเบิดตัวเองของเจ้าของบริษัทแต่ก็ถูกช่วยไว้จากมาโมรุ โนซากิ (ฮิโรชิ อาเบะ) ตำรวจสถานทูต แต่แล้วยูสุเกะ โนกิกลับกลายเป็นผู้ต้องสงสัยวางระเบิดตำรวจบอลคาจึงมาตามจับเขาถึงโรงพยาบาลทำให้ความซวยนั้นไปลากเอาคาโอรุ ยูซุกิ (ฟูมิ นาไกโดะ) มาเกี่ยวด้วย แล้วทางรอดของทั้งสามคือต้องกลับญี่ปุ่นให้ได้แล้วมันจะง่ายหรือเมื่อพวกเขาเข้าไปพัวพันกับเรื่องใหญ่กว่านั้นเริ่มต้นอย่างขึงขังแข็งแรงเต็มไปด้วยความน่าสงสัยพัฒนาไปสู่เรื่องใหญ่ได้อย่างสนุก เริ่มต้นด้วยเรื่องการตามหาเงินที่โอนผิดไปทำให้เหมือนจะออกมาแนวตลกร้ายแนวพวกขี้แพ้ต้องมาแก้ปัญหาใหญ่แต่ไหงกลายเป็นไปพัวพันกับผู้ก่อการร้ายข้ามชาติได้ ซึ่งถ้าว่ากันที่ส่วนนี้คือไอเดียบรรเจิดใช่ย่อยเพราะมันไปหากันได้และถ้าออกมาแนวเบาสมองก็จะเจ๋งไปอีกแบบซึ่งช่วงต้นเป็นแบบนั้นและเหมือนอุทิศเวลาให้เต็มที่ด้วยการมีตอนแรกประมาณดูหนังเรื่องหนึ่งถึงชั่วโมงครึ่ง สิ่งที่ตามมาคือการทำให้ได้ลุ้นกันตลอดเวลาว่าคนซวยสุดฤทธิ์คนหนึ่งจะรอดไปได้อย่างไรแล้วพอผ่านช่วงของการตามหาเงินไปแล้วพ้นช่วงแหยๆไปเรื่องก็พัฒนาไปสู่ความเป็นงานสายลับชั้นดีได้ที่จะว่าตามสูตรก็ไม่ขนาดนั้น เพราะทันทีที่ความหมายของ Vivant ได้ถูกเฉลยเรื่องก็พัฒนาไปไกลขึ้นแต่คงต้องยอมรับว่าจุดเริ่มต้นที่ทิ้งความสงสัยให้เจริญงอกงามในสมองนั้นเป็นความเข้มข้นขึงขังแม้จะใส่ความน่าขันลงมา แล้วสิ่งนั้นเองที่สร้างความน่าติดตามทำให้เรื่องออกมาสนุกได้ลุ้นทุกครั้งด้วยลูกเล่นง่ายๆคือตัดจบแบบคาใจเพื่อให้ต้องดูต่อเดินเรื่องเร็วแรงผิดวิสัยเต็มไปด้วยความพลิกผันทั้งที่ไม่ได้ยากต่อการคาดเดาแต่เอาอยู่ โดยปกติหนังหรือซีรีส์ญี่ปุ่นมักจะเดินเรื่องเรียบเรื่อยอ้อยอิ่งให้ภาพและเพลงเก็บเกี่ยวอารมณ์ ก็ใช่ที่มีบางเรื่องที่เดินเร็วพัฒนาเร็วเช่นกันแต่ถ้าว่ากันที่ปริมาณ (ที่เคยดู) ยังเป็นสัดส่วนที่น้อยแต่เรื่องนี้กลับเดินหน้าอย่างกระฉับกระเฉงแทบไม่มีหยุดให้พักหายใจอัดความสนุกความลุ้นใส่มาเต็มที่โดยที่เหตุการณ์ต่อเหตุการณ์เชื่อมกันได้ดี แม้ว่ากับการพยายามซ่อนเร้นบางอย่างเมื่อถึงเวลาทิ้งปริศนาไว้แต่ก็ไม่ได้ยากต่อการคาดเดาแต่ที่น่าทึ่งว่าแม้จะเดาออกบ้างแต่ความพลิกผันไปมาหลายร้อยตลบด้วยชั้นเชิงง่ายๆคือไปข้างหน้าแล้วย้อนมาอธิบายกลับยังเอาอยู่ นั่นคือการสับขาหลอกให้คนดูคิดว่าลืมอะไรบางอย่างไปหรือไม่แต่สุดท้ายกลับมาเก็บรายละเอียดได้ และไอ้ที่ทิ้งๆไว้นั่นแหละคือเชื้อเพลิงของความพลิกผันที่อาจไม่เหนือความคาดหมายแต่เมื่อถึงเวลาก็เหวอไปไม่น้อย แล้วก็เป็นแบบนี้ทั้งเรื่องแบบไอ้ที่คิดก็ไม่เป็นอย่างที่คิดหรือที่คิดก็เป็นอย่างที่คิดคือเดาถูกบ้างผิดบ้างอย่างบันเทิงเพราะเปิดอ้าซ่าท้าให้เดาน่าเสียดายที่ความโลกสวยสไตล์ญี่ปุ่นทำให้ปลายไม่แรงเพราะไม่กล้าหักหาญน้ำใจในแบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่น จะว่าไปเรื่องนี้เหมือนแบ่งเป็นสองส่วนคือส่วนแรกมาจบลงที่การเฉลยว่า Vivant คือใครซึ่งมาในความเป็นงานสายลับเข็มๆเดินเรื่องด้วยการชิงไหวชิงพริบทันกัน และหลังจากนั้นก็คือการตามล่าหาความจริงที่ก็ยังชิงไหวชิงพริบกันอยู่แต่เริ่มไม่ทันกันแล้วเพราะเกิดการเผชิญหน้าและส่วนหลังนี้เองที่พัฒนาไปสู่การค้นหาตัวตนของตนเอง จนมาถึงตอนท้ายความเป็นญี่ปุ่นก็เข้ามาซึ่งถ้าเป็นงานจากชาติอื่นจะกลายเป็นแผลแต่เมื่อมาจากญี่ปุ่นกลับไม่เพราะงานญี่ปุ่นก็จะเป็นแบบนี้ทุกเรื่อง นั่นคือการไม่หักหาญน้ำใจที่อาจเป็นเพราะนี่คืองานที่ฉายทางโทรทัศน์ก็คงมีส่วนอาการโลกสวยจึงต้องมาทำให้สามตอนสุดท้ายกลายเป็นงานดราม่าเต็มพิกัดเพื่อสร้างความชอบธรรมให้เรื่องที่เปิดเผยตรงนี้ไม่ได้ นั่นหมายความว่าตอนท้ายพลังตกลงไปและเมื่อเล่าในพื้นที่การเล่าเรื่องจำกัดก็กลายเป็นขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชาเล็กๆ แต่เมื่อถึงเวลาเข้าจริงต้นกับปลายมาเชื่อมกันได้ภาพรวมก็จัดว่าเยี่ยมพลังของนักแสดงไม่ได้ช่วยมากนักแต่ได้บทที่ร้ายกาจมาเร่งส่งให้การแสดงมีอะไรขึ้นมา เสน่ห์ของเรื่องนี้ความจริงอยู่ที่เนื้อหาและการเล่าเรื่องเอาจริงๆคือเอานักแสดงคนไหนมาใส่ก็ยังเดินไปในอารมณ์ประมาณเดิม นั่นคือเสน่ห์ของนักแสดงไม่ออกเพราะแนวของเรื่องด้วยหากลองสังเกตดูดีๆจะมีบางช่วงที่บางคนหายไปนานจนเกือบลืมและเป็นแบบนี้หลายๆคนที่ไม่ใช่พระเอก แต่เรื่องก็ยังเดินหน้าไปได้ดีเพราะต่อให้ตัวละครบางคนหายไปเพื่อโผล่มาปานนินจาก็ไม่ส่งผลต่อเรื่องเพราะหัวใจคนดูไม่ได้ผูกติดกับตัวละครและนั่นคือความหมายของคำว่าเสน่ห์ไม่ออก แต่ถ้าว่ากันที่การแสดงตามบทก็จัดว่าแสดงได้ตามบทอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะเจ้าพ่อเรทติ้งทีวีญี่ปุ่นมาซาโตะ ซากาอิที่แสดงแบบใครมันจะไปเชื่อแต่บทต่างหากที่ชี้นำให้เชื่อ คู่กับระดับพระเอกจอเงินฮิโรชิ อาเบะร่วมด้วยฟูมิ นาไกโดะ,โทริ มัตสึซากะและโคจิ ยากุโชที่เล่นได้อย่างมีพลังและเนียนตาดีเหลือเกิน แต่ก็อย่างว่าเมื่อบทแข็งแรงมากขนาดนี้ตัวละครเลยไม่มีพื้นที่ให้เป็นความจดจำด้านการแสดงแม้จะเล่นดีเพียงไหนก็ตามเป็นงานที่ดุสนุกแม้จะยังไม่ถึงกับเนี้ยบหรือเข้มข้นตลอดทางแต่ถ้าได้เริ่มก็หยุดยากเช่นกัน นี่คือซีรีส์เรทติ้งสูงระดับเลขสองหลักด้วยความที่บทแข็งแรงและเดินหน้าเร็วเปลี่ยนโทนเปลี่ยนทางไปเรื่อยๆแบบมีพัฒนาการแต่เชื่อมกันได้เนียนๆ ด้วยความเร็วที่ว่าทำให้บางอย่างหายไปในบางเวลาจนกลายเป็นว่าถ้าดูอย่างละเอียดเรื่องนี้ยังมีจุดเล็กจุดน้อยที่ถูกทิ้งขว้างบางอย่างก็ดูย้อนแย้งในตัวเอง กระนั้นในเรื่องที่จำเป็นก็เก็บหมดทำให้กลายเป็นความสนุกพลิกผันจนหยดสุดท้ายที่พลานุภาพแห่งความบันเทิงทำงานของมันอย่างเต็มที่ แถมด้วยชั้นเชิงง่ายๆคือตัดจบในเวลาที่คาใจที่ลูกเล่นแบบนี้ใช้ได้ทุกทีสิน่าทำให้เมื่อดูแล้วก็หยุดยากเพราะดันตัดจบตอนแบบอยากรู้อย่างแรง แต่แม้ว่าจะเป็นความบันเทิงที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแต่ถ้าพูดถึงพลังแห่งความเข้มข้นเข้มขลังกลับยังมีบ้างบางช่วงที่ตกลงไปเพราะการเปลี่ยนทางเปลี่ยนธีมของเรื่องในเวลานั้นๆ แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ค่อยได้เห็นงานสายลับญี่ปุ่นที่เดินหน้าไวๆแบบนี้มานานเลยกลายเป็นความแปลกใหม่เล็กๆ ทำเป็นความบันเทิงที่คุ้มค่าเวลาแม้ว่าท้ายๆจะมวยล้มต้มคนดูนิดหน่อยก็ตามเถอะดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก,ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก Instagram tbs_vivant ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/JpRBDYMad8Ephttps://entertainment.trueid.net/detail/grW2lRvGMmgJhttps://entertainment.trueid.net/detail/NMLQL1LEBRkjhttps://entertainment.trueid.net/detail/LNVXByJlzpjw จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !