“แน็ก ชาลี” เก็บกดถูกแต่งหล่อมาตั้งแต่เด็ก ไม่ชินลุคใหม่ แต่ร้อนเงินเลยต้องแต่ให้ดูเป็นผู้เป็นคน
“แน็ก ชาลี” เก็บกดถูกแต่งหล่อมาตั้งแต่เด็ก ไม่ชินลุคใหม่ แต่ร้อนเงินเลยต้องแต่ให้ดูเป็นผู้เป็นคน
ออกมายอมรับแบบตรงๆ ว่าใช้ความหล่อหาเงิน สำหรับนักแสดงหนุ่ม “แน็ก ชาลี” ที่สลัดลุคจากมาดเซอร์ มาเป็นหนุ่มหล่อกระชากใจสาวๆ ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวหนุ่มแน็กในงาน เปิดตัวภาพยนตร์ The Creator เจ้าตัวก็เผยถึงเรื่องนี้ว่า
ช่วงนี้ก็ร้อนตังค์ครับ ลุคที่ออกมาก็จะดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย ยังเรียกว่าร้อนเงินอยู่ จริงๆ เราก็ทำงานแล้วก็อยากปรับเปลี่ยนตัวเองดูในหลายๆด้าน คือผมไม่ชอบตัวเองลุคนี้เลย ผมชอบลุคผมยาวๆ ดูสกปรก แต่ว่าลุคนั้นมันทำงานไม่ได้เราก็ยอมปรับเปลี่ยนตัวเองหน่อยครับ
ถามว่าอึดอัดมั้ยตอบตามความจริงโคตรอึดอัดเลย แต่ถ้าตอบแบบดาราก็คือมันเป็นหน้าที่ที่ผมต้องทำอยู่แล้วครับคืออยากกลับไปไว้ผมยาว ถามว่าเราชอบลุคผมยาวดูสกปรกชีวิตจริงเราสกปรกมั้ย โคตรสกปรกเลยครับ เราผมยาวเราก็ชอบเอาอะไรหอมๆ มาใส่ผม ตอนมีแฟนเขาก็อยู่กับตอนที่ผมสกปรกนะครับ ผมว่าตอนนี้ก็เริ่มพยายามปรับตัวให้หลายๆ อย่างดีขึ้น
ผมถูกแต่งให้ดูหล่อมาตั้งแต่เด็กมันเหมือนเก็บกด พอเวลาผ่านไปเราก็ได้มีโอกาสที่ได้เป็นตัวเองมากขึ้น ถือเป็นความโชคดีที่สุดที่ผมได้มา หลายๆ คนบอกว่าเสียดายความหล่อ คือไม่น่าเสียหรอกครับ ตอนนี้ผมหล่อจนผมใกล้ตายแล้ว ผมรู้สึกว่าการดูแลตัวเองของผมมันเหนื่อยจะใกล้ตายแล้ว ถ้าผมปลดหนี้ในชีวิตผมได้แล้วผมก็จะไปใช้ชีวิตให้มีความสุขแบบเมื่อก่อนครับ แต่ผมก็รู้สึกดีใจที่ได้เป็นหนี้เพราะมันทำให้ผมมีความรับผิดชอบในการทำงานมากขึ้น ชีวิตมีหนี้เพราะเรื่องการซื้อสะสมที่ดินครับ ผมชอบซื้อที่ดินตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ความฝันตอนนี้คืออยากกลับไปอยู่กับความสุขที่เราได้ทำอะไรหลายๆอย่าง แต่ตอนนี้สัญญาลูกค้าก็ยังไม่หมดเราก็ต้องทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด น่าจะได้เป็นลุคหล่อๆ ของผมอีกเป็นปีเลยครับ
ถามว่าคนมีแฟนก็อยากได้คนหล่อๆ ผมมองว่าคนรักกันสองคนพอเข้าใจกันมันก็หลายอย่าง มันอาจจะมองหน้าตากันแว็บแรก เราก็ยอมรับว่าไม่ใช่คนดีที่ขนาดมารักกันด้วยใจเลย ผมก็ต้องมองก่อนว่าคนนี้หน้าตาดีถึงได้มีโอกาสคุยทำความรู้จักกัน มันเป็นความรักและความรู้สึกดีเจ้ามาเพิ่มขึ้นแล้วก็เป็นความผูกพันที่มันได้เจอได้อยู่ด้วยกันครับ
ถามว่าเก๋ไก๋เขารับได้ในแบบไหน ผมก็ไม่มั่นใจเหมือนครับ เอาเป็นว่าเค้าก็ดีแล้วเขาก็รับได้ในสิ่งที่เราเป็นแค่นั้นก็พอแล้วครับ ล่าสุดที่เอาตุ๊กแกไปแกล้ง คือผมว่ามันเป็นเหมือนการฝึกฝน เราก็ใช้วิธีการจับแล้วก็ให้มาทักทายกันแล้วก็ให้ลองสัมผัสตุ๊กแก เค้าก็โอเครับได้ครับ