หลังจากที่ Part 1 ทิ้งเราไว้กับความสงสัยและความระทึกใจแบบค้างเติ่ง การกลับมาของ "HOMEROOM 29 ตัวประกัน" Part 2 ราวกับพายุโหมกระหน่ำซ้ำเติมความรู้สึกคนดูให้ดำดิ่งสู่ห้วงอารมณ์ที่หลากหลายยิ่งกว่าเดิม ตั้งแต่ต้นจนจบของ 11 ตอนที่เหลือ (EP.6-EP.16) ขอบอกเลยว่า "เตรียมทิชชู่ เตรียมใจ และเตรียมหยุดหายใจเป็นพักๆ" เพราะมันเข้มข้น กดดัน และเฉลยปมทุกอย่างแบบที่เราอาจจะคาดไม่ถึง! รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ความรู้สึกแรกที่ถาโถมเข้ามาคือ "อยากรู้!" ใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลัง? ทำไมครูวิณณ์ถึงต้องทำถึงขนาดนี้? แล้วเด็กๆ จะรอดพ้นจากสถานการณ์เลวร้ายนี้ไปได้อย่างไร? ซีรีส์ค่อยๆ ปล่อยหมัดฮุกใส่คนดูทีละน้อย เผยให้เห็นเบื้องลึกเบื้องหลังของตัวละครแต่ละตัว ความลับที่ซ่อนไว้ และความเชื่อมโยงที่ซับซ้อนจนบางทีก็ต้องร้อง "อ๋อ!" ออกมาดังๆ ครูวิณณ์ (มิว ศุภศิษฏ์) ใน Part 2 คือ "ที่สุดของความรู้สึกที่หลากหลาย" จากครูผู้ร้ายกลายเป็นครูผู้มีบาดแผล จากความน่ากลัวกลายเป็นความน่าสงสาร การแสดงของมิวในพาร์ทนี้คือการยกระดับไปอีกขั้น เราได้เห็นความเปราะบาง ความเจ็บปวด และความมุ่งมั่นที่ซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าที่แข็งกระด้าง มันทำให้เราไม่ได้มองเขาเป็นแค่ "ผู้ร้าย" อีกต่อไป แต่กลับเข้าใจ (แม้จะไม่เห็นด้วยกับการกระทำ) ถึงแรงจูงใจที่ผลักดันให้เขาทำทุกอย่าง เหล่าตัวประกัน ก็ไม่ได้เป็นแค่ "เหยื่อ" อีกต่อไป ใน Part 2 เราได้เห็นพัฒนาการของพวกเขาอย่างชัดเจน ความหวาดกลัวแปรเปลี่ยนเป็นความกล้าหาญ ความเห็นแก่ตัวเริ่มจางหายไป และความสามัคคีก็ก่อตัวขึ้น พวกเขาไม่ได้ยอมจำนนต่อโชคชะตา แต่พยายามหาทางเอาตัวรอดและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน บทบาทของนักแสดงวัยรุ่นหลายๆ คนในพาร์ทนี้คือเซอร์ไพรส์ พวกเขาถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครออกมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ จนเราเอาใจช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ ความเข้มข้นของเนื้อเรื่องใน Part 2 คือ "นั่งไม่ติดเก้าอี้" จริงๆ มีฉากที่ทำให้ลุ้นจนเหงื่อตก มีฉากที่ทำให้ต้องเอามือปิดปากด้วยความตกใจ และมีฉากที่ทำให้เสียน้ำตาแบบไม่รู้ตัว การหักมุมของเรื่องราวก็ทำได้ดี หลายครั้งที่เราคิดว่า "น่าจะเป็นแบบนี้" แต่ซีรีส์ก็พาเราไปเจอทางแยกใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึง สิ่งที่ "จุกอก" ที่สุดใน Part 2 คือประเด็นทางสังคมที่ถูกขยายผล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบูลลี่ที่ไม่ได้จบแค่ในโรงเรียน การใช้โซเชียลมีเดียอย่างขาดความรับผิดชอบ ผลกระทบของข่าวลือที่สามารถทำลายชีวิตคนได้ และความเพิกเฉยของผู้ใหญ่ที่บางครั้งก็เป็นต้นเหตุของปัญหา ทุกประเด็นถูกนำเสนอออกมาได้อย่างตรงจุดและชวนให้เรากลับมาคิดทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมรอบตัวเรา บทสรุปของ "HOMEROOM 29 ตัวประกัน" ทั้งหมดคือ "ความรู้สึกที่หลากหลายและตราตรึง" มันไม่ใช่แค่ซีรีส์ระทึกขวัญที่จบลงด้วยการคลี่คลายคดี แต่ยังทิ้งคำถามและความรู้สึกบางอย่างไว้ในใจคนดู มันทำให้เราได้เห็นด้านมืดและด้านสว่างของมนุษย์ ได้เห็นผลของการกระทำ และได้เรียนรู้ว่าบางครั้งความจริงก็ไม่ได้สวยงามเสมอไป โดยรวมแล้ว Part 2 คือบทสรุปที่ "สมบูรณ์แบบ" (ในความคิดเห็นส่วนตัว) มันตอบทุกคำถาม คลี่คลายทุกปม และพาเราไปจนสุดทางของเรื่องราวได้อย่างเข้มข้นและน่าประทับใจ แม้ว่าอาจจะมีบางจุดที่ทำให้รู้สึกหน่วงในใจ หรือบางการตัดสินใจของตัวละครที่เราอาจจะไม่เห็นด้วย แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าจดจำ และเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าซีรีส์ไทยก็สามารถทำแนวระทึกขวัญดราม่าออกมาได้ "ถึงเครื่อง" จริงๆ ค่ะ! ใครที่ยังไม่ได้ดู...รีบไปดูเถอะ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมถึงต้อง "เตรียมทิชชู่" จริงๆ! HOMEROOM 29 ตัวประกัน ที่ ทรูไอดี : https://ttid.co/KupK/amj4pgwl #29 ตัวประกัน เครดิตภาพประกอบ ภาพปก : TrueID ภาพประกอบ : ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4, ภาพที่ 5, ภาพที่ 6 จาก TrueID เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !