รีวิวหนังไทย "Come And See เอหิปัสสิโก" สารคดีที่เกือบจะไม่ได้เข้าฉายแล้ว
รีวิวหนัง วิจารณ์หนัง Come And See เอหิปัสสิโก
และแล้วก็ถึงคราวของการได้มาพิสูจน์หนังสารคดีไทยเรื่องล่าสุดที่ออกฉาย ที่เรื่องนี้อาจจะมีภาษีดีกว่าเรื่องอื่นๆ หน่อยตรงที่เคยเป็นข่าวหน้าหนึ่งมาก่อน เพราะกระแสเกือบจะถูกแบนไม่ได้ให้ฉาย เพราะข้อกังขาของกองเซ็นเซอร์ แต่ท้ายที่สุด "เอหิปัสสิโก" (Come And See) ก็ได้รับการอนุญาตให้ออกฉายตามปกติ แม้ว่าจะมาพร้อมกับประเด็นที่เผ็ดร้อนกรณีหนึ่งในสังคมเลยก็ตาม
Come And See เอหิปัสกิโก เป็นหนังสารคดีที่จะพาคนดูไปสำรวจมุมมองต่างๆ ในเหตุการณ์เมื่อปี 2560 ที่เกิดขึ้นกับวัดพระธรรมกาย ผ่านการนำเสนออย่างเป็นกลางและตรงกลาง เมื่อครั้ง พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้ถูกกล่าวหาว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวพันกับคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น นำมาสู่กระบวนการแนวคิดมากมายผ่านมุมมองของคนหลายๆ คน ทั้งผู้ที่เคารพศรัทธา หรือผู้ที่เลิกให้ความศรัทธา และผู้ที่ตั้งแง่กับลัทธิศาสนาแห่งนี้
นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับ "ไก่-ณฐพล บุญประกอบ" ที่เราคุ้นเคยอย่างดีจากชิ้นงานก่อนหน้านี้ของเขาใน "2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว" ติดตามภารกิจการวิ่งของ "ตูน บอดี้สแลม" คราวนี้ได้ปรับโหมดมาจับประเด็นที่มีความเข้มข้นและจริงจังมากยิ่งขึ้น อาจจะกล่าวได้ว่าฟุตเทจและบันทึกต่างๆ ของสารคดีเรื่องนี้ น่าจะถ่ายทำเก็บเอาไว้แล้ว แต่หนังสารคดีพี่ตูนน่าจะแทรกเข้ามา ทำให้ เอหิปัสสิโก ต้องเลื่อนแผนงานออกไปก่อน
และในวันนี้ ไก่ ณฐพล ได้กลับมาตัดต่อและประกอบหนังสารคดีเรื่องนี้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างอย่างสมบูรณ์ ต้องบอกว่านี่กลายเป็นสารคดีที่มีความสุ่มเสี่ยงในเนื้อหาค่อนข้างพอสมควร เพราะหยิบจับประเด็นความเชื่อและศรัทธาส่วนบุคคล และยังแตะต้องในหนึ่งในสามสถานบันหลักของประเทศ ในเรื่องศาสนาอีกด้วย
แต่กระนั้น เอหิปัสสิโก ก็ถูกถ่ายทอดออกมาในมุมมองที่อยู่ตรงกลางอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการใช้เทคนิคเล่าเรื่องสไตล์ Contrast Storyteller เข้าเอาไว้ด้วยกันอย่างแจ่มแจ้ง สอบถามข้อคิดเห็นจากกลุ่มคนที่มีความคิดเห็นคนละขั้ว ต่างมุมมองและความศรัทธา ประกอบออกมาเป็นหนังสารคดีเชิงข้อเท็จจริงที่เข้มข้นทุกนาที
นี่จึงกลายเป็นหนังสารคดีที่ออกมาในเชิงข่าวเป็นส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่ละทิ้งการถ่ายทอดภาพที่สังคมไม่ได้มีโอกาสได้เห็นกันปกติทั่วไปจากวัดพระธรรมกายด้วย แม้ว่าความอินไซด์ของหนังเรื่องนี้ จะยังไม่ได้เชิงลึกและขุดถึงแก่นที่แท้ของพระธรรมกาย หนังยังคงอยู่ในจุดที่มีเซฟโซนของตัวเอง ด้วยการไม่โจมตีและชี้นำคนดู พร้อมกับปล่อยให้คนดูเสพข้อเท็จจริงและนำไปวิเคราะห์ไตร่ตรองกันเอาเอง ในลักษณะปลายเปิด
วงการหนังสารคดีในเมืองไทยแทบจะไม่ค่อยได้รับความสนใจเลยด้วยซ้ำไป แม้ว่าในแต่ละปีๆ จะมีหนังทำหนังจำนวนไม่ได้ที่พยายามผลักดันหนังสไตล์นี้ออกมา แต่กลับไม่ได้ประสบความสำเร็จในหลายๆ แง่มุม เพราะมุมมองคนดูหนังในเมืองไทยยังจัดอยู่ในรูปแบบเฉพาะกลุ่มไปสักหน่อย จึงน่าเสียดายที่หนังสารคดีไทยถูกเมินและได้รับการพัฒนาที่ช้ากว่าที่อื่นๆ เป็นอย่างมาก
แต่โดยภาพรวมแล้ว Come And See เอหิปัสกิโก ก็ถือว่าเป็นหนังสารคดีที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน ไม่มีการชี้นำใดๆ ให้กับคนดู ประคองการเล่าเรื่องแบบเป็นกลางได้ตลอดรอดฝั่ง แม้ว่าจะหยิบประเด็นที่ก่อให้เกิดความคิดเห็นแตกต่างได้ง่ายมากก็ตาม นี่จึงกลายเป็นหนังสารคดีที่ดูได้ง่าย และย่อยได้ง่าย เหมือนกับหนังดูสกู๊ปข่าวน้ำดีชิ้นหนึ่งที่มีการไล่เรียงไทม์ไลน์อย่างงดงาม และค่อนข้างน่าประทับใจ
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Come And See เอหิปัสสิโก
ประเภท: สารคดี
ผู้กำกับ: ณฐพล บุญประกอบ
ความยาว: 85 นาที
เข้าฉาย: 6 เมษายน 2021
Movie.TrueID METRIC: Come And See เอหิปัสสิโก
ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10)
การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
ประเด็นนำเสนอ
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10)
-------------------------------------
กดเลย >> community แห่งความบันเทิง 📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวม
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล 😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/34057In