Raya and the Last Dragon ภาพยนตร์แอนิเมชันเจ้าหญิงจากดิสนีย์คนล่าสุด ที่นำเสนอเรื่องราวของวัฒนธรรม ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิเช่น ลาว กัมพูชา เวียดนาม รวมไปถึงประเทศไทยอีกด้วย ถือว่าเป็นความแปลกใหม่ของดิสนีย์ ในการผสมผสานเรื่องราวในฝั่งของบ้านเราให้ออกมาทันสมัย งดงาม สละสลวย แต่ยังคงกลิ่นอายของความเป็นแอนิเมชันสไตล์ของดิสนีย์อยู่เรื่องราวการผจญภัยในนครแห่งคูมันตรา สถานที่ที่มนุษย์และมังกรสามารถอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขมาช้านาน แต่เมื่อปีศาจร้ายได้เข้าคุกคาม เหล่ามังกรได้เสียสละชีวิตของพวกเขา เพื่อปกป้องมนุษยชาติ เมื่อเวลาผ่านไป ปีศาจตัวเดิมได้กลับมาอีกครั้ง รายา นักรบสาวผู้กล้าจึงต้องหาวิธีที่จะหยุดพวกมัน และออกตามหามังกรตัวสุดท้ายในตำนาน เพื่อกอบกู้แผ่นดินและประชาชนให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งพล็อตเรื่องค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่มีความเข้มข้นอยู่ในตัวด้วยรายละเอียดต่าง ๆ ภายในเรื่อง ทั้งการเปิดซีนใหญ่ที่สามารถทำให้คนดูตื่นตาตื่นใจได้ การปูเรื่องราวของอาณาจักรและเผ่าต่าง ๆ ในเมืองของรายา ที่ผสมผสานความเชื่อของมังกรเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เนื้อเรื่องมีความยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในเรื่องของการนำเสนอ เอกลักษณ์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเรื่องนี้ สามารถทำออกมาได้ดีเกินคาดเช่นเดียวกัน ทั้งงานภาพที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ได้อย่างชัดเจน ความสวยงามของสถานที่ที่ทำให้เราเห็นภาพ ของวัฒนธรรมท้องถิ่น ฉากที่สอดแทรกการนำเสนอวัฒนธรรม ทั้งอาหารและศิลปะการต่อสู้ รวมไปถึงตัวละครในเรื่อง ที่มีชื่อที่บ่งบอกถึงความเป็นไทยอย่างน้อย ทอง บุญ และตุ๊กตุ๊กสำหรับตัวละครในเรื่อง เริ่มที่ตัวละครหลักอย่าง Raya ถือได้ว่าเป็นเจ้าหญิงที่มีความแข็งแกร่งและเท่ในตัว มีทักษะการต่อสู้ที่คล่องแคล่วว่องไว จัดอยู่ในกลุ่มเจ้าหญิงสายบู๊แบบเดียวกับ Mulan แต่ไม่ค่อยได้เห็นซีนที่มีความเป็นเจ้าหญิงแบบฉบับของดิสนีย์ออริจินัลซักเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะยังไม่มีการปรากฎตัวของพระเอกภายในเรื่อง ส่วนตัวละครอื่น ๆ ในเรื่องค่อนข้างมีความโดดเด่น และแย่งซีนตัวละครหลักอย่าง Raya เป็นอย่างมาก อาจด้วยจำนวนตัวละครที่มาเสริมความสนุกค่อนข้างเยอะ ทั้งมังกรซิซูที่บทบาทสำคัญเทียบเท่ากับ Raya เหมือนเป็นหัวใจหลักสำคัญของเรื่อง ตุ๊กตุ๊ก ที่เป็นสัตว์เลี้ยงสุดน่ารัก และพาหนะส่วนตัวของ Raya ที่ดูแล้วช่างน่าเอ็นดูเหลือเกิน อีกทั้งตัวละคร บุญ ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือ Raya เป็นอย่างมาก หรือแก๊งโจรผ้าอ้อม ที่มาสร้างสีสันของเรื่องได้อย่างสนุกสนานนอกจากนี้แล้วภาพยนตร์แอนนิเมชันเรื่องนี้ ยังให้ข้อคิดในเรื่องของการไว้ใจคนอีกด้วย หากเราไว้ใจใครไป เราจะได้การไว้ใจเขากลับมา เหมือนเป็นการสะท้อนมุมมองความคิดของคนเอเชีย ที่ดิสนีย์ได้มองเห็นว่าคนเอเชียมีนิสัยเป็นอย่างไร ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์เจ้าหญิงของดิสนีย์ที่ทำออกมาได้สนุก ครบทุกรสชาติ นำเสนอวัฒนธรรมในแถบของบ้านเราออกมาได้งดงาม และน่าภูมิใจเป็นอย่างมาก หากมีโอกาสอยากให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างภาคต่อไป เพราะอยากรู้เรื่องราวภูมิหลังของตัวละคร และอนาคตของอาณาจักรแห่งคูมันตรามากขึ้นกว่านี้รูปภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก Facebook Walt Disney Studios / รูปที่ 1 Facebook Walt Disney Studios / รูปที่ 2 Facebook Walt Disney Studios / รูปที่ 3 Facebook Major Group / รูปที่ 4 Facebook Major Groupเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !